“อัลฟองโซ” มะม่วงที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในโลก ราชาผลไม้อินเดีย แต่ไม่ดังในไทย

พันธุ์มะม่วงต่างประเทศจากสหรัฐอเมริกา อินเดีย ปากีสถาน ออสเตรเลีย ฯลฯ ถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยนานแล้ว เริ่มแรกเป็นการนำเข้ามาโดยหน่วยงานของรัฐเพื่อการศึกษาวิจัย เช่น ในปี พ.ศ. 2519 สถานีวิจัยปากช่อง ภายใต้การกำกับของภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดนครราชสีมา ได้รับพันธุ์มะม่วงจากรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เข้ามาหลายสายพันธุ์ตามโครงการเงินกู้ มีอยู่หลายสายพันธุ์ให้ผลผลิตดี จึงได้มีการขยายพันธุ์ไว้เพื่อรอการส่งเสริมต่อไป

ส่วนในภาคเอกชนมีสวนของ อาจารย์ประพัฒน์ สิทธิสังข์ ที่สวนแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์ได้รับยอดพันธุ์มะม่วงต่างประเทศจากสถานีวิจัยปากช่องมาเสียบยอดไว้ที่สวนของท่านหลายพันธุ์ ซึ่งบางพันธุ์เจริญเติบโตให้ผลผลิตดีเช่นกัน ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2522 อาจารย์ได้นำผลมะม่วงต่างประเทศที่มีผลใหญ่สีสวยงามแปลกตาหลายสายพันธุ์มาแสดงที่สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ (มหาวิทยาลัยแม่โจ้) เพื่อให้คณาจารย์และนักศึกษาได้ศึกษาเรียนรู้และชมกัน เป็นที่ตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เพราะไม่เคยเห็นมะม่วงแปลกๆ ลักษณะอย่างนี้มาก่อน เช่น ปาล์มเมอร์ เค้นท์ เคียทท์ เป็นต้น จึงนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมะม่วงพันธุ์ต่างประเทศ

ผลสวยๆ ของอัลฟองโซ ปลูกที่ลำปาง

ศูนย์วิจัยปากช่อง ได้ขยายกิ่งพันธุ์มะม่วงต่างประเทศไว้มากมาย เพื่อไว้จำหน่ายแก่ประชาชน แต่ประชาชนและชาวสวนมะม่วงให้ความสนใจกับพันธุ์มะม่วงต่างประเทศกันน้อย หรืออาจจะยังไม่ทราบกันว่าทางศูนย์วิจัยฯ มีกิ่งพันธุ์มะม่วงต่างประเทศ หรือเป็นเพราะรสชาติสู้มะม่วงไทยไม่ได้จึงไม่สนใจ มะม่วงพันธุ์ต่างประเทศได้เปรียบที่ผลมีสีสวย แต่เนื้อเหม็นกลิ่นขี้ไต้เป็นส่วนใหญ่

แต่ยังมีมะม่วงพันธุ์หนึ่งได้ชื่อว่ามีรสชาติดีที่สุดในโลก เป็นมะม่วงจากอินเดีย ที่ศูนย์วิจัยปากช่องมีอยู่ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมจากคนไทยอีกเช่นกัน นั่นก็คือ “มะม่วงอัลฟองโซ” (ALPHONSO)

มะม่วงอัลฟองโซ เป็นมะม่วงของอินเดีย อินเดียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ปลูกมะม่วงมาช้านานกว่า 4,000 ปี จนถึงปัจจุบันอินเดียยังคงมีพื้นที่ปลูกมะม่วงมากที่สุดในโลก คือมากกว่า 8 ล้านไร่ ให้ผลผลิต 1 ใน 3 ของมะม่วงทั่วโลก แต่ละปีมีผลผลิตหลายล้านตัน เป็นประเทศผลิตมะม่วงรายใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 52% ของมะม่วงที่ผลิตได้จากทั่วโลกรวมกัน

คนงานเก็บมะม่วงในอินเดีย (Photo by NOAH SEELAM / AFP)

ตลาดส่งออกมะม่วงที่สำคัญของอินเดียคือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป เกือบทุกรัฐในอินเดียสามารถปลูกมะม่วงได้เจริญเติบโตงอกงามให้ผลผลิตดี สายพันธุ์มะม่วงที่ปลูกในอินเดียมีอยู่ประมาณ 1,000 สายพันธุ์ แต่ที่ปลูกเพื่อการค้ามีประมาณ 20 สายพันธุ์ ในการตั้งชื่อสายพันธุ์มะม่วงจะตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญ พื้นที่ที่เป็นแหล่งกำเนิด รสชาติ สี ขนาดของผล รูปทรงของผล และฤดูกาลที่ผลิต

สายพันธุ์มะม่วงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอินเดียคือ พันธุ์ “อัลฟองโซ”

มะม่วงอัลฟองโซ ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารนักสำรวจชาวโปรตุเกส ชื่อ อัลฟองโซ เดอ อัลเบอเคอร์กี (Afonso de Albuquerque) ผู้ปกครองอาณานิคมโปรตุเกสที่อินเดียในอดีต ซึ่งเป็นผู้นำพันธุ์มะม่วงนี้มาเสียบยอดกับมะม่วงพื้นเมืองในรัฐกัว เมื่อศตวรรษที่ 15 จากนั้นต้นถูกนำไปปลูกยังรัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต และได้แผ่กระจายไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา

ผลสุก

มะม่วงอัลฟองโซ คนท้องถิ่นในอินเดียเรียกว่า ฮาปู (Haapoos) หรือ อาปู (Aapoos) คนอินเดียจัดให้มะม่วงอัลฟองโซ เป็นมะม่วงที่มีรสชาติดีและราคาแพงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหลายในอินเดีย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งมะม่วง” และเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ส่วน “ราชินีแห่งมะม่วง” ยกให้มะม่วงเคซาร์ (Kesar)

มะม่วงอัลฟองโซ ปลูกมากทางภาคตะวันตกของอินเดีย ที่รัฐมหาราษฏระ (Maharashtra) เมืองเทวกาด (Devgad) ในเขตโคกัน (Kokan) ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะม่วงมีคุณภาพดีที่สุด ผลิตผลส่วนใหญ่จึงมาจากรัฐมหาราษฏระ แต่รัฐที่ส่งออกมากที่สุดมาจากเมืองรัตนคีรี (Ratnagiri) รัฐมหาราษฏระเช่นกัน เมืองรัตนคีรี ห่างจากบอมเบย์ลงไปทางใต้ราว 500 กิโลเมตร มะม่วงอัลฟองโซยังปลูกในพื้นที่รัฐทางภาคใต้ของอินเดีย

ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่มีมะม่วงอัลฟองโซออกจำหน่ายอย่างมาก ขายตั้งแต่กิโลกรัมละสามร้อยรูปีถึงห้าหกร้อยรูปี (หนึ่งรูปี มีค่าประมาณเก้าสิบสตางค์) นอกจากรับประทานผลสดแล้วยังได้นำมาเป็นส่วนผสมกับขนมหวานและเครื่องดื่มต่างๆ

มะม่วงอัลฟองโซ ผลค่อนข้างเล็ก คล้ายมะม่วงยายกล่ำ หรือคล้ายมะม่วงเซ่งตาโลงของเมียนมา ผลเป็นรูปไข่ป้อมๆ ความยาว 4-6 นิ้ว น้ำหนัก 300-400 กรัม มีรสชาติดี ผลสุกมีผิวสีเหลืองสดสีสันสวยงาม และรูปทรงที่กะทัดรัดน่ารับประทาน เป็นที่นิยมทั่วโลก มีกลิ่นหอมเป็นกลิ่นหอมเย็นไม่เหมือนมะม่วงไทย ความหวานประมาณ 16 องศาบริกซ์ มีเนื้อเหลืองเข้มสีขมิ้นเข้ม เนื้อไม่ถึงกับเละมาก มีเสี้ยนบ้าง คนอินเดียจึงคลึงมะม่วงจนข้างในนิ่มแล้วจึงใช้ปากกัดหัวขั้วดูดกินน้ำเหลวของเนื้อ

อัลฟองโซ ผลไม่ใหญ่

คนญี่ปุ่นนิยมบริโภคน้ำมะม่วงอัลฟองโซกันมาก เนื่องจากมีกลิ่นหอมพิเศษ มะม่วงอัลฟองโซจัดเป็นมะม่วงรสชาติดีพันธุ์หนึ่ง ชาวสวนไทยไม่นิยมมะม่วงผลเล็ก มะม่วงอัลฟองโซจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ถูกปฏิเสธ

คนทั่วโลกรู้จักและได้ลองลิ้มแต่มะม่วงอัลฟองโซ เลยเชื่อกันว่า มีรสดีที่สุด แต่ยังไม่เคยชิมมะม่วงโบราณรสดีของไทย จึงยังไม่รู้ว่าไทยมีมะม่วงที่ดีกว่าอีก และคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่เคยลองลิ้มรสมะม่วงอัลฟองโซ จึงไม่รู้ถึงรสชาติของมันว่าดีกว่ามะม่วงไทยหรือไม่ หากคนทั่วไปที่เคยชิมมะม่วงอัลฟองโซแล้วได้ชิมมะม่วงไทย จะต้องบอกว่ามะม่วงไทยมีรสชาติดีกว่าแน่นอน