นับจากนี้ไป “ข้าว” จะเป็นมากกว่ามื้ออาหารและความอิ่มท้อง เพราะด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากข้าวนั้นมากมายมหาศาล จึงทำให้ผู้ผลิตข้าวสัญชาติไทยอย่าง บริษัท เมดิฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งมั่น วิจัย พัฒนา ผลิตอาหารจากธรรมชาติด้วยนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน สังคม และประเทศชาติอย่างครบถ้วนสูงสุด

นำนวัตกรรมมาใช้
เพิ่มมูลค่าข้าวเต็มศักยภาพ

คุณวัชรพล บุญหลาย กรรมการ บริษัท เมดิฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด คือ ผู้ที่โลดแล่นอยู่ในวงการค้าข้าวมายาวนานกว่า 47 ปี ครบถ้วนตั้งแต่ปลูก สี บรรจุ และขาย ครองตลาดข้าวเกรดพรีเมี่ยมเรื่อยมาตลอดจวบจนทุกวันนี้

คุณวัชรพล เท้าความว่า เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่มีอาชีพเกษตรกรรม คุณพ่อปลูกและขายพืชไร่ รวมถึงทำธุรกิจเกี่ยวกับข้าวอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ นับตั้งแต่เป็นผู้ค้า โรงสี ตลอดจนบรรจุขาย จนกระทั่งเมื่อ 20 ปีที่แล้วเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว เลือกที่จะส่งออกข้าวไปต่างประเทศมี ออสเตรเลีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา กระทั่งเมื่อประมาณปี 2554 นำนวัตกรรมเข้ามาช่วยให้ข้าวมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยพบกรรมวิธีสกัดสารอาหารที่มีอยู่ในข้าวออกมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์พร้อมทาน สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย ผลิตจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์

สำหรับข้าวในแบรนด์ของบริษัทเมดิฟูดส์ (ประเทศไทย) มีข้าวฮักปัน ซึ่งเป็นข้าวออร์แกนิกและข้าวปลอดสาร  อีกแบรนด์ คือ ข้าวมดแดง ซึ่งข้าวมดแดง เป็นข้าวที่ได้รางวัลการันตี จากเวทีประกวดข้าวระดับโลก ถึง 3 ปีซ้อนคือ รางวัลเกียรติยศ “World’s Best Rice Award” ประจำปี 2010, รางวัลประเภท “World’s Most Remarkable Quality Award” ประจำปี 2011, รางวัล “Thailand Signature Hom Mali Rice Award 2012” และรางวัล “World’s Most Honorable Producer of Thai Premium Quality Award 2012” เกือบทั้งหมดส่งต่างประเทศมี ออสเตรเลีย ยุโรป จีน

ในส่วนของแบรนด์ฮักปัน เนื่องจากบริษัทเมดิฟูดส์ ขายข้าวสารมานาน มีตลาดรับซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณวัชรพลจึงไม่อยากเอาข้าวออร์แกนิกไปเปิดตลาดเดิม จึงใช้นวัตกรรมพัฒนาข้าวไทย ทำเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมทาน อาทิ ผงข้าวกล้องสกัดโฮลอินวัน เหมาะกับชีวิตยุคเร่งรีบ เอาข้าวกล้องคัดพิเศษชั้นดีทั้งเมล็ด นำมาแช่ผ่านกระบวนการให้เกิดกาบา ชงในน้ำร้อน ก็สามารถได้รับสารอาหารของข้าวอย่างครบถ้วนสูงสุดในระดับซุปเปอร์ฟู้ด

ยังมีน้ำมันข้าวกล้องสกัดสด (Cold Pressed) นำข้าวกล้องทั้งเมล็ดผ่านกระบวนการบีบเย็นธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ใช้ข้าวกล้อง 60 กิโลกรัม สกัดเป็นน้ำมันได้ 250 มิลลิลิตร ซึ่งมีสารไฟโตสเตอรอลสูงกว่าน้ำมันมะกอก 14 เท่า สารแกมมาออริซานอล สูงกว่าน้ำมันรำข้าวทั่วไป 10 เท่า และใน 1 ขวด ยังให้วิตามินอีเทียบเท่าผักโขม 5 กิโลกรัม

ผลิตภัณฑ์พร้อมทาน
เจาะตลาดพรีเมี่ยม

นอกจากผลิตภัณฑ์จากข้าวพร้อมทาน “ฮักปัน” ยังมีข้าวสารถุงชนิดอื่นๆ อาทิ ข้าวกล้องโฮลอินวัน เกิดจากการผสมผสานระหว่าง ข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมแดง และข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีคุณสมบัติเด่นทางโภชนาการ เป็นข้าวผสมพรีเมี่ยม เพื่อให้ทานง่าย มีความนุ่ม หอม และยังมีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน ข้าวกล้องจะสด ใหม่ ไม่หืน หุงง่าย นุ่ม หอม

ยังมีข้าวไรซ์เบอร์รี่ขัดสีน้อย เป็นข้าวที่ผ่านกระบวนการขัดผิวข้าวจากข้าวกล้องด้วยวิธีการประณีต โดยขัดผิวส่วนที่เป็นผิวนอก-รําหยาบออก เหลือผิวข้าวกล้องชั้นในที่มีวิตามิน และคุณค่าทางอาหารอยู่ครบถ้วน ด้วยลักษณะข้าวที่ผ่านการขัดน้อย จะมีฝุ่นผงของผิวข้าวกล้องติดอยู่ในรูปของผงแป้งบางๆ เนื้อของเมล็ดข้าวไรซ์เบอร์รี่จะมีสีขาวอมม่วง หาก “ล้างข้าว” จนน้ำซาวข้าวใสจะเห็นเมล็ดสีขาวอมม่วงอ่อนซึ่งเป็นธรรมชาติตามสายพันธุ์ของ “ข้าวไรซ์เบอร์รี่”

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นข้าวที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ ด้วยการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวหอมนิล กับข้าวหอมดอกมะลิ 105 เป็นข้าวเจ้า สีม่วง มีลักษณะเมล็ดเรียวยาว และมีคุณสมบัติเด่นทางโภชนาการ คือ เป็นข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ข้าวหอมเบอร์รี่ เกิดจากการผสมผสานระหว่างข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพสูง และข้าวไรซ์เบอร์รี่เมื่อบริโภคจะรู้สึกถึงผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม กลิ่นหอมละมุนและดีต่อสุขภาพ เป็นข้าวผสมพรีเมี่ยม เพื่อให้ทานง่าย มีความนุ่ม หอม และยังมีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน

ด้านพื้นที่ปลูก ปลูกระบบเกษตรอินทรีย์บนผืนนาที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร และเกษตรกรเครือข่ายก็ได้รับการอบรมการทำเกษตรอินทรีย์มาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ที่สำคัญระบบการจัดเก็บ และลำเลียงข้าวเข้าสู่โรงสี ใช้กรรมวิธีที่ทันสมัยและสร้างขึ้นโดยเฉพาะ

“ข้าวออร์แกนิก ขณะนี้ในต่างประเทศแถบยุโรป กำลังได้รับความนิยมมาก นับเป็นโอกาสดีของชาวนาไทย เพราะข้าวไทยมีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่แล้ว รวมถึงการปลูกข้าวแบบนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการเกษตรไทย รวมถึงแผ่นดินไทย เพราะนอกจากประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ยังดีต่อสังคม และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอีกด้วย”

อนาคตเจาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ
เทรนด์ออร์แกนิกยังมาแรง

ด้วยความที่ผู้ประกอบการดังกล่าวอยากส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวนาไทยหันมาปลูกข้าวออร์แกนิก เลยคอยส่งเสริมในด้านต่างๆ อาทิ ให้ความรู้แก่เกษตรกร สนับสนุนการปลูก รับซื้อ และขาย ทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยปลูกข้าวออร์แกนิกเป็นรูปธรรม

กระบวนการที่คุณวัชรพลเข้าไปส่งเสริม มีตั้งแต่ ให้ทุนแก่สถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อไปค้นคว้าและวิจัยด้านข้าว สร้างโรงสีที่ออกแบบมาเพื่อข้าวออร์แกนิกโดยเฉพาะ

“ผมเริ่มต้นนำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้ความรู้ด้านการปลูกข้าวออร์แกนิกแก่ชาวนาในท้องถิ่น จากนั้นก็ดึงชาวนาเข้าร่วมโครงการปลูกข้าวออร์แกนิก โดยบริษัทจะรับซื้อผลผลิตข้าวทั้งหมด ให้ราคาสูงกว่าการปลูกข้าวด้วยวิธีปกติ ประกันราคาสูงกว่าตลาด 10-30 เปอร์เซ็นต์”

“ผมปรับเปลี่ยนวิถีการทำนา 200 ไร่ ของบริษัทในอำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ลดปุ๋ยเคมี หันมาใช้ปุ๋ยหมัก ใช้ชีววิถีกำจัดแมลงศัตรูธรรมชาติ พร้อมปรับระบบเข้าสู่การผลิตพืชแบบ GAP จากเคยได้ข้าว 700-800 กิโลกรัม ต่อไร่ 2 ปีแรกลดลงมาเหลือ 500 กิโลกรัม เข้าปีที่ 3 ข้าวเริ่มกลับมาเท่าเดิม บางแปลงได้มากถึง 900 กิโลกรัม ต่อไร่ เมื่อได้ผลดีจึงชักชวนเกษตรกรรายอื่นมาทำนาข้าวอินทรีย์”

ในช่วง 3 ปีแรก คุณวัชรพล บอกว่าเป็นช่วงเวลาอดทน ข้าวได้น้อย สารเคมียังตกค้างอยู่ในดิน ยังไม่เป็นออร์แกนิกแท้ ราคาขายยังได้เท่าข้าวทั่วไป ต้องรอปีที่ 3 ข้าวจะปลอดสารเคมี ราคาขายจึงเข้าสู่ระบบที่วางไว้

ช่องทางจัดจำหน่ายของฮักปัน กรรมการบริษัท เผยว่า 50 เปอร์เซ็นต์ส่งออกต่างประเทศ อีก 50 เปอร์เซ็นต์จำหน่ายในไทย

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต ทางฮักปันจะเพิ่มความหลากหลายด้วยการออกสินค้าใหม่ เจาะตลาดอาหารเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย