ที่มา | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | ปรัชญา รัศมีธรรมวงศ์ |
เผยแพร่ |
ในอดีต เมืองไทยมีสายพันธุ์มะม่วงไทยโบราณหลายร้อยสายพันธุ์ แต่วันนี้ มะม่วงเหล่านั้น นับวันแทบจะสูญหายไปหมด เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่เลือกปลูกมะม่วงที่ได้รับความนิยมเชิงการค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้เบอร์สี่ มหาชนก ฯลฯ ทำให้เด็กรุ่นลูก รุ่นหลานหลายคน ไม่รู้จักว่า ต้นมะม่วงโบราณเหล่านั้น หน้าตา รสชาติเป็นอย่างไร
นับเป็นความโชคดี ที่ผู้เขียนบังเอิญไปรู้จักแหล่งปลูกมะม่วงมันขุนศรี หนึ่งในมะม่วงสายพันธุ์โบราณที่มีรสชาติอร่อยเด็ด ทั้งผลดิบและผลสุก ของ สวนบุญศิริ อำเภอบ้านนา จ.นครนายก จึงอยากเชิญชวนท่านผู้อ่านแวะไปเยี่ยมชมสวนมะม่วงมันขุนศรีแห่งนี้ด้วยกัน
“ มะม่วงมันขุนศรี ”
จากการพูดคุยกับเพื่อนหลายๆ คนพบว่า สายพันธุ์มะม่วงมัน ที่คนไทยชื่นชอบเป็นพิเศษ อันดับหนึ่ง คือ “ มะม่วงเขียวเสวย ” ซึ่งมีขนาดผลปานกลาง มะม่วงชนิดนี้ ติดผลไม่ค่อยดก ผลดิบมีรสเปรี้ยว เมื่อแก่จัดจนถึงเนื้อเหลือง มีรสมันอร่อยมาก
มะม่วงยอดนิยมอันดับสอง คือ ” มะม่วงมันขุนศรี ” ซึ่งเป็นมะม่วงสายพันธุ์โบราณ ที่มีถิ่นกำเนิดในย่านตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี และแถบ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
โดยทั่วไป ต้นมะม่วงมันขุนศรี เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร หากต้องการกินเนื้อมะม่วงที่มีรสมัน ต้องเลือกผลแก่ที่จัดเท่านั้น เพราะผลดิบที่ยังไม่แก่จัดจะมีเปรี้ยว รสมันของมะม่วงชนิดนี้ อาจมีรสชาติเป็นรองมะม่วงเขียวเสวยสักเล็กน้อย แต่ผลสุกจะมีรสชาติอร่อยกว่ากลุ่มมะม่วงมันทุกชนิด ที่สำคัญมะม่วงชนิดนี้ให้ผลดกและติดผลง่ายทุกปี
สวนบุญศิริ นครนายก
“ คุณ จิตร ถือธรรม และภรรยา ชื่อ คุณสัมฤทธิ์ ถือธรรม ” เป็นเจ้าของ “ สวนบุญศิริ ” เล่าให้ฟังว่า เดิมทีครอบครัวถือธรรม มีอาชีพทำนาปลูกข้าวเป็นรายได้หลักเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด แต่รายได้จากการทำนา ไม่เพียงพอสำหรับดูแลครอบครัว คุณจิต จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากครอบครัวชาวนา มาเป็นครอบครัวชาวสวน เมื่อ 10 กว่าปีก่อน
คุณจิตปรับที่นาเนื้อที่ 48 ไร่มาเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน ใช้พื้นที่ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผลหลากหลายชนิด เช่น มะยงชิด มะนาว ส้มโอ ขนุน กระท้อน ทุเรียน เงาะ กระท้อนห่อ ฯลฯ ในช่วงต้นปี สวนแห่งนี้จะมีรายได้จากการขายผลมะยงชิดที่ปลูกไว้จำนวน 300 ต้น เมื่อหน้ามะยงชิดหมด จะมีผลมะม่วงออกขาย เช่น มันบางขุนศรี ทองดำ น้ำดอกไม้ พิมเสน เขียวเสวย ฯลฯ หากเหลือมะม่วงสุกจำนวนมากจนขายไม่ทัน ก็จะนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงกวนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
ทุกวันนี้ “ มะม่วงมันขุนศรี ”เป็นพระเอกหลักของสวน จะเริ่มเก็บผลผลิตออกขายตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม
คุณจิตบอกว่า ต้นมะม่วงมันขุนศรี จะให้ติดผลง่าย ให้ผลดกทุกปี ผล มะม่วงมันขุนศรีจะมีน้ำหนักเฉลี่ย 3–4 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม หากเป็นต้นที่ผลไม่ดกมาก จะได้ผลมะม่วงลูกโตน้ำหนักเกือบลูกละ 1 กิโลกรัม จึงต้องใช้ไม้ค้ำกิ่ง เพื่อช่วยไม่ให้กิ่งหักเสียหาย
ปลูกมันขุนศรี 28 ต้นโกยเงินปีละ 2 แสน
คุณจิตพาไปชมแปลงมะม่วงมันขุนศรีที่ปลูกอยู่ริมถนนทางเข้าบ้าน ก็พบว่า ต้นมะม่วงมันขุนศรี มีลักษณะลำต้นเหมือนกับต้นมะม่วงทั่วไป จุดแตกต่างที่เห็นเด่นชัดคือ มะม่วงมันขุนศรี จะมีลักษณะทรงผล แหลมและงอน ส่วนหัวผลจะป้านไปทางด้านหลังมาก ทำให้ดูคล้ายตัวอักษรภาษา อังกฤษรูปตัว “เอส” ผลดิบสีเขียวมีนวล ผลสุกเป็นสีเหลืองอมส้มนิดๆ ติดผลเป็นพวง 3-5 ผล
มะม่วงมันขุนศรี มีจุดเด่นด้านรสชาติ ทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก สำหรับผลอ่อนที่ยังดิบ จะมีรสเปรี้ยวจัด ฉ่ำน้ำ และเนื้อกรอบ นิยมนำมะม่วงผลอ่อนไปปอกเปลือกและสับซอยเป็นเส้นฝอย เพื่อปรุงรสเป็นมะม่วงยำ หรือนำไปฝานเป็นชิ้นๆ เพื่อจิ้มกับพริกเกลือป่น หรือจิ้มน้ำปลาหวาน รับรอง กินอร่อยจนแทบหยุดไม่ได้
มะม่วงมันขุนศรี เมล็ดลีบและบาง ผลสุก เนื้อมีสีเหลืองปนส้มเล็กน้อย ไม่มีเสี้ยน เนื้อเหนียวไม่เละ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสหวานแหลมปนเปรี้ยวนิดๆ หากรับประทานคู่กับข้าวเหนียวมูน รับประกันความอร่อยเด็ด ไม่แพ้มะม่วงกินสุกชนิดใดๆ
“ มะม่วงมันขุนศรี มีรสชาติเด่น 3 รส คือ หวาน มัน เปรี้ยว สำหรับมะม่วงเขียวเสวย แม้ผลที่แก่จัดจะมีรสมันเหมือนกัน แต่เปรียบเทียบรสชาติแล้ว มะม่วงมันขุนศรี จะมีเนื้อกรอบกว่า เนื้อแป้งน้อยกว่ามะม่วงเขียวเสวย เวลาใช้มีดฝานเนื้อมะม่วงมันขุนศรี จะไม่เห็นเนื้อแป้งติดบนใบมีด เลย เวลาปอกจะมีน้ำออกมารสชาติหวาน เนื้อมะม่วงกรอบอร่อย ” คุณสัมฤทธิ์กล่าว
ทุกวันนี้ คุณจิตนำผลผลิตจากสวนบุญศิริออกขายที่ ตลาดนัดโรงเรียนเตรียมทหาร นครนายก ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ลูกค้าที่สนใจแวะเข้ามาเลือกซื้อเลือกชมได้ทุกวัน อังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ เนื่องจาก“ มันขุนศรี ” เป็นมะม่วงพันธุ์ไทยโบราณ ที่หากินยากในปัจจุบัน ทำให้มะม่วงมันขุนศรีของสวนแห่งนี้ขายดิบขายดี จนผลิตไม่พอขาย เชื่อหรือไม่ คุณจิตปลูกต้นมะม่วงมันขุนศรีแค่ 28 ต้น สร้างรายได้เข้ากระเป๋าถึงปีละ 2 แสน
“ ต้นมะม่วงมันขุนศรี เป็นมะม่วงสายพันธุ์ไทยโบราณที่ปลูกดูแลง่าย ในแต่ละปี เสียค่าใช้จ่ายในการดูแลต้นมะม่วงมันขุนศรีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นค่าปุ๋ยคอก ซึ่งใส่เพียงปีละ 1 ครั้ง ส่วนสารเคมี ใช้น้อยมากหรือแทบไม่ใช้เลย การปลูกมะม่วงมันขุนศรีจึงให้ผลกำไรแบบเต็มๆ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่อยากปลูกมะม่วงเชิงการค้าในอนาคต เพราะปลูกง่าย ขายคล่อง ให้ผลดก รสชาติอร่อย ที่สำคัญมีคนปลูกมันขุนศรีค่อนข้างน้อย ”
นอกจากจุดเด่นด้านรสชาติแล้ว คุณจิตยังเลือกเก็บผลมะม่วงที่แก่จัด ที่เรียกว่า สุกปากตะกร้อ ออกขายในตลาด ซึ่งเป็นมะม่วงคุณภาพดี ที่ตลาดต้องการเพราะมีรสชาติอร่อย เมื่อคุณจิตนำมะม่วงมันขุนศรีไปวางขายในตลาด ลูกค้าจะแห่กันมาเลือกซื้อจนเต็มหน้าร้าน สินค้าขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว ทุกวันนี้ มะม่วงยังไม่ทันออกผล ลูกค้าหลายรายก็แห่มาโทรสั่งจองมะม่วงกันล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปี เพื่อให้มั่นใจว่า ปีนี้ได้ทานมะม่วงมันขุนศรีแน่ๆ สำหรับปีนี้ คุณจิตจะเริ่มเก็บมะม่วงออกขายตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม จนถึงปลายเดือนเมษายน
การปลูกดูแล
สภาพความสมบูรณ์ของต้นมะม่วง เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะเป็นตัวกำหนดในการออกดอก การติดผลของมะม่วง ดังนั้น เพื่อให้ผลผลิตมะม่วงรุ่นต่อไปเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ หลังหมดฤดูการเก็บเกี่ยวในแต่ละปี คุณจิตจะว่าจ้างคนงาน มาตัดแต่งกิ่ง ใกล้ฝนลงก็จะเริ่มให้ปุ๋ยรอบแรก 1 ครั้ง โดยเน้นให้ปุ๋ยอินทรีย์ หว่านรอบทรงพุ่ม ต้นละไม่เกิน 5 กก. เมื่อหมดฝน จึงเริ่มราดสารแพคโคลบิวทราโซล เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของราก เร่งให้เกิดดอก ทำให้ออกลูกเร็ว
หลังราดสารไปได้ 45 วัน ต้นมะม่วงก็จะเริ่มออกช่อ จะฉีดพ่นสารโปแตสเซียมไนเตรทให้กับต้นมะม่วงเพื่อเร่งการออกช่อดอกได้เร็วกว่าปกติประมาณ 15-20 วัน โดยไม่เป็นอันตรายต่อต้นมะม่วงแต่ประการใด ช่วงที่มีผลมะม่วงลูกเล็ก จะฉีดสารฆ๋าแมลงบ้าง เพื่อป้องกันปัญหาหนอนเจาะผล เมื่อผลโตมากขึ้น จะใช้สารกระเพาแขวนไว้ที่ต้นมะม่วง เพื่อขับไล่แมลงวันทอง ที่นี่ปลูกมะม่วงโดยอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติ เนื่องจากมะม่วงเป็นพืชที่มีรากลึก จึงสามารถหาแหล่งน้ำได้เอง จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำอีก
ด้านตลาด
คุณจิต กล่าวว่า ทุกวันนี้ ปลูกมะม่วงมันขุนศรีจำนวน 28ต้น เก็บผลผลิตได้มากกว่าปีละ 2 ตัน ขายส่งในราคาก.ก.ละ 40 บาท ขายปลีกที่ตลาดนัดโรงเรียนทหาร ในราคา ก.ก.ละ 60 บาท ( ในพื้นที่ กทม. มันขุนศรีซื้อขายในราคา ก.ก.ละ 100 กว่าบาท )
สวนแห่งนี้ ยังปลูกมะม่วงทองดำ เก็บผลผลิตได้ปีละ 4-5 ตัน ขายส่งในราคาก.ก.ละ 17 บาท มะม่วงพิมเสนบ่มสุกขายในราคาก.ก.ละ 20-25 บาท มะม่วงน้ำดอกไม้บ่มสุก ขาย ก.ก.ละ 30-35 บาท มะม่วงเขียวเสวยขาย ก.ก.ละ 30 บาท
ผลผลิตทั้งหมดในสวนแห่งนี้ คุณจิตจะนำออกขายที่ ตลาดนัดโรงเรียนเตรียมทหาร นครนายก เป็นประจำ ทุกวัน อังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ส่วนวันพุธจะขายผลผลิตที่ ตลาดนัด จปร.นครนายก
นอกจากนี้ บุตรสาวชื่อ “ คุณโอ๋ ” ได้เปิดเฟสบุ๊ก ชื่อว่า “ ผลไม้ บ้านสวนบุญศิริ นครนายก ” เป็นช่องทางโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลผลิตของสวนออกขายในสังคมออนไลน์ ปรากฎว่า ขายได้ผลดี ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าได้จำนวนมากกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเฟสบุ๊ก โอนชำระเงินล่วงหน้า คุณจิตก็จะจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ ถือได้ว่า เฟสบุ๊ก เป็นช่องทางสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ดีและน่าสนใจสำหรับเกษตรกรไทยในยุคนี้
หากผู้อ่านท่านใดสนใจอยากแลกเปลี่ยนข้อมูลการปลูกมะม่วงมันขุนศรีและการทำสวนเกษตรแบบผสมผสานกับคุณจิต สามารถแวะไปได้ที่ “ สวนบุญศิริ ” บ้านเลขที่ 15 หมู่8 ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก 26110 หรือแวะไปทักทายได้ที่หน้าเฟซบุ๊ก หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 089-0940791 ( คุณโอ๋) , 086 – 8922225 (คุณอุ๊)