ในหลายปีที่ผ่านมา วงการอาหารมีกระแสใหม่ๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระแสของมะเขือเทศ, มาม่าเกาหลี, มันม่วง, ทุเรียน, หม่าล่า, เมล่อน และชาไข่มุก ที่บางอย่างก็มาแล้วผ่านไป บางอย่างก็ยังคงเป็นกระแสอยู่ เพียงแต่ไม่ได้ฮอตฮิตเปรี้ยงปร้างเหมือนแต่ก่อน

“มันม่วง” ก็เคยได้รับความนิยมมากในช่วงหนึ่ง จนผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งหลาย ต่างพากันนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูใหม่ๆ ให้ลิ้มลองกัน

“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จะพาไปส่องเมนูอาหาร ที่นำมันม่วงมาเป็นวัตถุดิบกัน เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่เคยลองทาน เริ่มกันที่ ร้าน AKART Bistro & Bar ย่านซอยเย็นอากาศ ร้านอาหารสไตล์ไทย – อิตาเลี่ยนร้านแรก ที่มีมันม่วงเป็นวัตถุดิบในเมนูอาหาร มีคุณเก๋ – ญาณี องค์วัฒนกุล วัย 41 ปี เป็นหนึ่งในเจ้าของร้าน

เธอเล่าให้ฟังว่า ร้านเปิดมาได้ 10 ปี โดยหุ้นเงินเปิดร้านกันกับสามี การนำมันม่วงมาเป็นวัตถุดิบในเมนูอาหาร เกิดจากความชอบ และ ความเบื่อ

เธอขยายความว่า ส่วนตัวแล้ว เป็นคนชอบทานมันม่วง เมื่อไปทานอาหารร้านอื่นๆ จะเห็นแต่มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบหรือเป็นเครื่องเคียง จึงเกิดความเบื่อ เลยอยากลองทำอาหารที่ใช้มันม่วงแทนมันฝรั่งดู

เมนูที่ทำขายตอนแรก มีอยู่ด้วยกัน 3 เมนู ได้แก่ ขาหมูอากาศ เป็นขาหมูเนื้อนุ่มที่นำไปทอดจนหนังกรอบ เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงอย่างผักกล่ำปลี กล่ำปลีสีม่วงดอง และมันม่วงบด ราดด้วยน้ำจิ้ม ที่ทางร้านมีให้เลือก 2 แบบ คือเผ็ดแบบไทยและซอสจิ้มสไตล์อิตาเลี่ยน

ไข่เต่ามันม่วงชีส คือเมนูที่เหมือนกับไข่เต่ามันม่วงตามรถเข็น ที่หาทานได้ทั่วไป แต่ของทางร้านอากาศมีความพิเศษตรงที่ไข่เต่ามันม่วงจะสอดไส้ชีส ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับวาฟเฟิลกรอบๆ และสุดท้าย ซุปมันม่วง ซุปเนื้อครีม รสชาตินุ่มลิ้นทานเพลิน

ต่อกันที่ Coro Field Harvest ร้านอาหารจากฟาร์ม Coro Field ฟาร์มออร์แกนิกในจังหวัดราชบุรี ที่โด่งดังในเรื่องเมล่อน โดยมี คุณพอร์ท-มิตรดนัย สถาวรมณี และ คุณพีท-พันดนัย สถาวรมณี สองพี่น้อง CORO Brothers ที่ต้องการเสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพดีจากฟาร์ม CORO Field ให้คนเมืองได้ทานอาหารที่มีคุณภาพ

นอกจากเมล่อนเนื้อหวานฉ่ำ ที่ฟาร์มยังมีพืชผักอีกหลากหลาย รวมถึง “มันม่วงมุราซากิ” ที่ปลูกและนำมาแปรรูปเป็นอาหารคาวหวานต่างๆ

เมนูแนะนำของทางร้านได้แก่ “มันม่วงญี่ปุ่นทอดซอสโคโร 3 ฤดู” เฟรนช์ฟรายด์สีม่วงที่ทานคู่กับซอส 3 อย่างของทางร้าน “ต้มไก่มันม่วง” หน้าตาน่าทาน พูดถึงของคาวกันไปแล้ว จะไม่พูดถึงอาหารหวานก็คงไม่ได้ โดยเมนูของหวานยอดฮิต ได้แก่ “บิงซูมันม่วง” รสชาติหวานเย็นกำลังดี “มันม่วงลาวา” ขนมปังที่อัดแน่นไปด้วยไส้มันม่วงแน่นทะลัก เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมเย็นๆ และ “ไอศกรีมมันม่วงหวาน” เนื้อครีมนุ่มลิ้น หอมกลิ่นมันม่วง

“ที่เอามันม่วงมาเป็นวัตถุดิบในการทำของหวานของคาว มันเกิดมาจากความคิดที่ว่า เราสามารถนำวัตถุดิบที่เรามีมาทำอะไรได้นอกเหนือจากที่เป็นผลผลิตสดๆไหม ก็เลยมาลองทำเป็นเมนูต่างๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่ทำออกมามันก็ไม่ได้ถูกปากถูกใจใครทุกคน เราในฐานะคนผลิตอาหารก็ต้องครีเอตไปเรื่อยๆ” คุณพอร์ท กล่าว

จากนั้นพามาต่อที่ร้านขนมหวาน หากใครอยากทานเมนูขนมหวานที่มีมันม่วงเป็นวัตถุดิบแล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายๆ คนนึกถึงร้านขนมหวานเจ้าดัง อย่าง “Cafe Bora” ร้านขนมหวานสัญชาติเกาหลี ที่ขายขนมเกี่ยวกับมันม่วงโดยเฉพาะ มีคุณหญิง-สุจิตรา พรหมเดเวช วัย 29 ปี เป็นเจ้าของสาขาที่ไทย

“ส่วนตัวเป็นคนชอบทานของหวานอยู่แล้ว บังเอิญว่าไปเที่ยวเกาหลีกับครอบครัว ไปกินบิงซูที่คาเฟ่ โบรา พอกลับมาไทยได้สักพักก็เกิดความคิดอยากเปิดร้านคาเฟ่ขนมหวาน เราก็ชอบรสชาติของร้านโบราอยู่แล้ว ก็ติดต่อ ขอซื้อแฟรนไชส์มาเปิดที่ไทยเป็นประเทศแรก”

เมนูยอดฮิตของทางร้านมีหลากหลาย แต่ที่เป็นเมนูยอดฮิตเลย คือ “เซตมันม่วง” ไอศกรีมมันม่วงรสกลมกล่อม ราดด้วยซอสมันม่วง เสิร์ฟคู่กับทีรามิสุมันม่วงเนื้อนิ่มรสชาติดี และบิงซูมันม่วงเย็นๆ หรือจะเป็น “โทสต์มันม่วง” สุดอร่อย

ดูเหมือนการนำมันม่วงมาเป็นวัตถุดิบทำอาหาร จะเป็นสิ่งที่ทำรายได้ เส้นทางที่สวยหรู แต่เมื่อลองถามถึงกระแสว่าจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน ผู้ประกอบการหลายๆ เจ้าต่างบอกไปในทิศทางเดียวกันว่า มั่นใจว่ากระแสมันม่วงจะยังคงได้รับความนิยมอยู่ แต่อาจไม่ได้บูมเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นเอง

“ถามว่า กระแสมันจะยังอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน มันก็ได้รับความนิยมอยู่นะ แค่ว่ามันไม่ได้บูมเหมือนตอนแรกๆ ที่กระแสมันมา เปรียบให้เข้าใจง่ายๆ ก็เหมือนกับเรากินมะเขือเทศ ที่มันก็มีช่วงหนึ่งที่กระแสมันมา ก็นั่นแหละฮิตไปช่วงหนึ่งแล้วพอเลิกฮิตแล้ว ถามว่าเรายังกินอยู่ไหม ก็กินอยู่ มันม่วงก็เป็นแบบนั้นแหละ”