ไขกลยุทธ์ธุรกิจชานมไข่มุกสัญชาติไทย KAMU มัดใจลูกค้านาน 8 ปีเสิร์ฟคุณภาพคับแก้ว

เป็นหนึ่งในธุรกิจฮอตส่งท้ายปี สำหรับ “ชานมไข่มุก” เครื่องดื่มสัญชาติไต้หวันกระแสดีมีคนรู้จักเยอะ ลองสังเกตใกล้ตัวมีร้านชานมไข่มุกหน้าใหม่เปิดขึ้นมากมาย แถม “ไข่มุก” ที่เป็นท็อปปิ้งทรงกลมสีดำทำจากแป้งมันสำปะหลังยังฮิตถูกดัดแปลงจากเมนูของหวานไปสู่เมนูของคาว เช่น พิซซ่าไข่มุก ราเมนไข่มุก คั่วไก่ไข่มุก นอกจากนั้นยังนำ “ไข่มุก” ไปใช้เป็นลวดลายบนเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อีกด้วย

มีข้อมูลจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจกสิกรไทย เผยผลสำรวจตลาดชานมไข่มุกเมื่อปี 2017 มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ขณะที่ผลวิจัยของบริษัท Allied Analytics (บริษัทที่ปรึกษาวิจัยด้านการตลาด) เผยมูลค่าตลาดชานมไข่มุกทั่วโลกอยู่ที่ 1,954 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 65,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2023 จะมีมูลค่า 3,214 ล้านเหรียญ หรือราว 100,000 ล้านบาท แน่นอนว่าวัตถุดิบหลักอย่างชาและไข่มุก ต้นตำหรับอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ฉะนั้นเครื่องดื่มประเภทนี้จะเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศไต้หวัน

สำหรับตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทย หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นเครื่องดื่มรสชาติแปลกใหม่มาในแก้วพลาสติกทรงกระบอกยาว คนไทยให้การตอบรับดีชนิดว่าได้เห็นภาพต่อแถวรอเข้าคิวซื้อ ราคาขายต่อแก้ว 30 – 40 บาท

หลังจากนั้นไม่นาน มีเครื่องดื่มคาเฟอีนอย่างกาแฟสดเข้ามาแทนที่ ก่อนที่ 2  ปีมานี้  “ชานมไข่มุก” จะกลับมาฮิตใหม่อีกครั้ง คราวนี้แต่ละร้านสร้างลูกเล่นแปลกใหม่ใส่คุณภาพคับแก้ว ราคาเปิดตัวตั้งแต่ 30 – 250 บาทเลยทีเดียว

ทินกฤต สินทัตตโสภณ

คนรักชาเขียวพลาด KAMU ไม่ได้

KAMU (คามุ) ร้านชานมไข่มุกสัญชาติไทยที่เปิดมานาน 8 ปี กระจาย 50 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชาเคี้ยวได้” กับสโลแกน #เหนื่อยเศร้าเหงาทุกข์สุขที่คามุที จุดขายชาเขียวมัทฉะนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนวัยทำงาน มีคุณแทน – ทินกฤต สินทัตตโสภณ เป็นเจ้าของร้าน

ก่อนเข้าสู่ธุรกิจชานมไข่มุก คุณแทนเคยเป็นวิศวกรทำงานด้านไอทีพัฒนาระบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานาน 5 ปี ก่อนบินลัดฟ้ากลับมาเปิดร้าน KAMU ในปี พ.ศ.2554 ด้วยเงินลงทุนหลักล้าน

“ผมอยากมีธุรกิจส่วนตัว อยากเปิดร้านขายชาที่มีเมนูหลากหลาย ส่วนตัวชอบดื่มชาเขียวมัทฉะของ ประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับได้สูตรชานมจากญาติที่อยู่ไต้หวัน เลยเห็นโอกาสเปิดร้านชานมไข่มุกที่ไทย ใช้เวลาลองผิดลองถูกปรับรสชาติเครื่องดื่มประมาณ 6 เดือน ร้าน KAMU สาขาแรกเปิดที่ ตึกอินเตอร์เช้นจ์ อโศก กทม.ขนาดพื้นที่ 2X2 เมตร ขายแก้วละ 30 บาท เจาะกลุ่มลูกค้าทำงานออฟฟิส”

คุณแทน บอกว่า สาขาแรกเปิดได้ไม่นานก็ขยายสาขาอื่นๆ ตามมา ยังเน้นทำเลสำนักงานออฟฟิศ ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2554 – 2556 ขายดีมาก เป็นช่วงที่ “ชมนมไข่มุก” ขาขึ้น แต่ถัดจากนั้น 2 ปี มี “กาแฟสด” เข้ามาแทนที่ ส่งผลให้กระแสชานมไข่มุกซาลงอย่างรวดเร็ว

แม้ “กาแฟสด” จะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดเครื่องดื่ม แต่อย่างไรก็ตาม KAMU ไม่หยุดนิ่งยังเดินหน้าขยายสาขาตามสำนักงานออฟฟิศ และเพิ่มความหลากหลายของเมนูชา ขณะเดียวกันมีการปรับโฉมร้านเพื่อเจาะตลาดวัยรุ่น

“แม้กระแสชาจะตกลง แต่ผมยังรักธุรกิจนี้ ซึ่งเมนูของ KAMU เน้นความเป็นธรรมชาติ วัตถุดิบเช่นชาเขียวมัทฉะและชาเขียวโฮจิฉะนำเข้าจากเมืองชิซูโอกะประเทศญี่ปุ่น มีกลิ่นชาเขียวติดปลายลิ้น เป็นชาเขียวพรีเมี่ยม ใช้เฉพาะยอดอ่อนใบชา เก็บในเดือนมีนาคม – เมษายน นอกจากนั้นยังใช้เลม่อนคั้นสดไม่ใช้แบบผง ให้ความสดชื่น มีกลิ่นเปรี้ยวหวาน นอกจากความพิเศษของชาทางร้านยังใส่ใจเลือกใช้นมสดคุณภาพสูง และเพิ่มทางเลือกมีนมถั่วเหลืองด้วย”

ปัจจุบัน KAMU มีเครื่องดื่มเสิร์ฟลูกค้าราว 40 เมนู แต่ทางเจ้าของร้าน บอกว่า จะไม่หยุดนิ่งเพิ่มเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น นมสดไข่เค็มลาวา ชาเขียวมัทฉะชีส  ไมโลโรงเรียน ชาชีส ชาไทยนม ดาร์คโกโก้ นมสดไข่มุกน้ำตาลไหม้ ชาเขียวราดถั่วแดง เป็นต้น

สำหรับ “ไข่มุก” ที่เป็นท็อปปิ้งสุดฮิต ทางร้าน KAMU ก็ใส่ใจนำมาเคี่ยวกับน้ำตาลทรายแดง ต้มในอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 2 ชม. รสชาติไข่มุกที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังจะไม่จืดชืด สุกนุ่มกำลังดี เครื่องดื่มทุกแก้วเลือกระดับความหวานได้ตามต้องการ ราคาเริ่มต้น 35 บาท

ด้านการประชาสัมพันธ์ร้าน เจ้าของแบรนด์ ระบุว่า KAMU แทบจะไม่ได้ออกสื่อใดๆ ลูกค้าส่วนมากใช้ความประทับใจบอกต่อแบบปากต่อปาก แต่ในปีที่ผ่านมาเจาะตลาดออนไลน์มากขึ้น สื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเน้นทำโปรโมชั่น เช่น บัตรสะสมแต้ม ซื้อ 1 ฟรี 1

และเนื่องจาก 1-2 ปีมานี้ ชาไข่มุก เป็นเครื่องดื่มสุดฮิตที่กลับมาทวงบัลลังค์ ที่แม้แต่คนไม่ดื่มชาไข่มุกยังคิดจะเปิดร้าน ส่งผลให้มีร้านใหม่ๆ เปิดขึ้นเยอะมาก ทางคุณทินกฤต ให้ข้อมูลว่า แม้จำนวนร้านชาไข่มุกจะเพิ่มขึ้น แต่ยอดขายไม่เคยตกลงเลย กลับได้ลูกค้าใหม่เพิ่ม ยอดขายแต่ละสาขาเฉลี่ย 300 แก้วต่อวัน ล่าสุดได้ขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ประกอบการลาวในการเป็นตัวแทนจำหน่าย 4 สาขา และที่ประเทศอินโดนีเซียอีก 4 สาขา

“กลยุทธ์ที่ผมใช้ทำธุรกิจนี้มานาน 8 ปี  คือ คุณภาพ ทางร้านรักษามาตรฐานสินค้ามาโดยตลอด มีทีมวิจัยและพัฒนาเครื่องดื่ม คิดเมนูใหม่ๆ ออกมาสม่ำเสมอ  ราคา มีหลายราคาซื้อง่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 35 – 180 บาท และ ทำเล KAMU มี 50 สาขา กระจายตามตึกออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ แหล่งวัยรุ่น และคีออส หาซื้อง่าย สะดวก”

คุณแทน ตอกย้ำว่า KAMU ไม่ใช่ร้านชานมไข่มุก แต่เป็นร้านชาที่มีท็อปปิ้งเป็นไข่มุก ส่วนตลาดชาไข่มุกในปี 2562 มั่นใจว่ายังไปได้ดี แต่ต้องพัฒนาสินค้า เช่น ไข่มุกที่ทานแล้วไม่อ้วน