2562-2019 โลกยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว

เพิ่งผ่านวัน “ลอยกระทง” ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ประเดี๋ยวเดียว ถึงวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2562 เวลาผ่านไปสม่ำเสมออีกปีหนึ่ง ผู้ที่อายุมากขึ้นอีก 1 ปี กลับรู้สึกว่าเร็ว อีกปีหนึ่งแล้วหรือ ผู้ที่อายุน้อยคิดว่าเมื่อไหร่จะอายุครบ 18 ปีสักที จะได้มีโอกาสไปเลือกตั้งเข้าคูหากาหมายเลขที่ต้องการกับเขาเสียที

ผู้ที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์วันที่ 2 มกราคม ปีนี้ อยากให้ถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เร็วๆ

อ้าว—ตามข่าวว่าจะเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปอีกสักเดือน หรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ยังมีเลือกตั้ง

ไม่เป็นไร รอมาตั้งหลายปี รออีกเดือนคงไม่สู้กระไร อย่าให้การรอคอยกลับมาฆ่าเราอย่างเลือดเย็น ด้วยการปฏิวัติรัฐประหารอีกเล่า

ปีนี้ 2562 เขาว่าเป็นปีหฤโหดของภาวะเศรษฐกิจ ไม่เป็นไร โหดได้โหดไป ขอให้มีเลือกตั้ง อย่างน้อยพวกเราที่มีโอกาสไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะได้รู้ว่า พรรคการเมือง นายกรัฐมนตรีที่เราเลือกเข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริหารประเทศชาติด้วยตัวเอง แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ หรือแก้ได้น้อย เรายังมีโอกาสขอให้ลาออก เปลี่ยนตัวรัฐบาลใหม่ เข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจใหม่

ดีกว่าดันทุรังไม่ให้เสรีภาพวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่ยอมรับรัฐบาลชุดที่เราเลือกเข้าไปเอง แล้วมีโอกาสเลือกใหม่ อย่างที่ผ่านมา

มกราคม เดือนแห่งการเริ่มต้นใหม่ เดือนหน้ากุมภาพันธ์ 2562 ขอให้มีโอกาสเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองนำเงินออกมา ซื้อ-เอ๊ย-ใช้หาเสียง จ้างพิมพ์โปสเตอร์ ให้เงินหมุนเวียนในตลาดภาคเศรษฐกิจ เข้ากระเป๋าคนโน้น ออกจากกระเป๋าคนนี้ หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ ยังดีกว่าให้เงินหยุดนิ่งในกระเป๋าคนใดคนหนึ่ง

เหมือนกับในไลน์เล่าต่อกันมาว่า

นักธุรกิจเจ้าของเงินคนหนึ่ง เดินเข้าไปตรงหน้าเคาน์เตอร์โรงแรมในเมือง แล้วบอกกับพนักงานว่า ต้องการห้องดีที่สุด ห้องหนึ่ง ว่าแล้วจึงวางเงิน 1,000 บาทบนโต๊ะ ให้พนักงานพาขึ้นไปชมห้อง

ระหว่างเดินขึ้นไปชมห้อง ผู้จัดการที่ยืนอยู่ตรงนั้น รีบคว้าเงินพันบาทนั้น ไปชำระเงินค่าหมูกับคนขายหมูในตลาดที่ไปซื้อเชื่อมาวันก่อน

เจ้าของเขียงหมูรับเงินนั้นมา แล้วรีบนำไปชำระให้กับเจ้าของหมูที่บ้าน เจ้าของหมูรับเงิน 1,000 บาทนั้นแล้วรีบไปชำระให้กับคนขายอาหารหมู

เจ้าของร้านอาหารหมู รับเงินพันบาทรีบนำไปชำระให้กับพ่อค้าจำหน่ายอาหารหมูที่ซื้อเชื่อมาวันก่อน

ทันทีที่รับเงินค่าสินเชื่ออาหารหมูจากเจ้าของร้านขายอาหารหมู ผู้จัดการบริษัทจำหน่ายอาหารหมู รีบนำเงินไปชำระให้กับ “โสเภณี” ที่ตัวเองไปเที่ยวมาเมื่อ 2 วันก่อน แล้วติดค้างไว้

ผู้หญิงอาชีพโสเภณีไม่รอช้ารีบนำเงินมาชำระผู้จัดการโรงแรมที่ตัวเองติดค้างค่าเช่าห้องไว้ ผู้จัดการโรงแรมได้รับชำระหนี้ค่าห้อง จึงนำเงิน 1,000 บาทนั้นวางไว้บนโต๊ะหน้าเคาน์เตอร์ตามเดิม

พอดีกับพนักงานโรงแรมที่พานักธุรกิจคนนั้นขึ้นไปดูห้องบนโรงแรม กลับลงมาเพราะนักธุรกิจยังไม่พอใจจึงลงจากชั้นบนมาหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับหยิบเงินพันบาทนั้นกลับไป

ทุกคนในเรื่องเล่านี้ ต่างชำระหนี้ได้หมด โดยไม่มีใครได้เงินนั้นเข้ากระเป๋า นักธุรกิจคนนั้นเช่นกัน ไม่ได้เสียเงินพันบาท แต่ทุกคนต่างปลดเปลื้องหนี้สินของตัวเองเรียบร้อย

เท็จจริงอย่างไร ไปว่ากันเองกับผู้นำเรื่องนี้มาเปิดเผย เข้าใจว่าเป็นนักคิดทางเศรษฐศาสตร์คนหนึ่งที่คิดเรื่องกลับไปกลับมาทางเศรษฐกิจได้ดี หรือเคยปฏิบัติด้วยตัวเองมาแล้วก็ไม่รู้

เดือนมกราคม เป็นเดือนเริ่มต้นปีใหม่ หากว่ากันถึงการเริ่มต้นกิจการงาน ผู้ที่คิดเริ่มต้นอะไรก็ตาม ใช้เดือนนี้เป็นเดือนเริ่มต้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 หรือวันที่ 2 ก็ได้ ขอให้เริ่มต้น จะเริ่มนับจากหนึ่ง หรือนับจากที่เริ่มต้นมาแล้ว 3, 4, หรือ 6, 7 ก็ได้ ขอให้เริ่มต้น แล้วเดินหน้าต่อไป จาก 1 เป็น 2 จาก 5 เป็น 6 เป็น 7

แต่อย่านับถอยหลัง

เว้นแต่ว่านับถอยหลังเพื่อตั้งต้นยังพอไหว

เคยจำภาษิตการเริ่มต้นจากฝรั่งมาว่า ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 แล้วคนไทยมักลืมข้อความในวงเล็บ พอเห็นชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 ก็ดีใจ ปล่อยให้ชีวิตถึงอายุ 40 แล้วจึงค่อยเริ่มต้น ลืมไปว่า ฝรั่งวงเล็บไว้ด้วยว่า (ครั้งสุดท้ายนะโว้ย)

ทุกวันนี้ ชีวิตไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 หรือเริ่มต้นเมื่อเรียนจบปริญญาตรีก็ได้ อายุ 25 เบญจเพสแล้วเริ่มต้นก็ดี

เพราะทุกวันนี้ การเรียนถึงระดับไหน มีเทคโนโลยีจากระบบคอมพิวเตอร์ให้เรามีความรู้ได้ไปถึงไหนๆ อยากรู้อะไรเปิด “กูเกิ้ล” รู้หมด ยิ่งกว่า “อับดุล ถามอะไรรู้หมดเห็นหมด”

ด้วยระบบอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาด้านเทคโนโลยี ด้วยอินโนเวชั่น ทำให้ความรู้ทุกด้านทุกทางคิดไปข้างหน้าตลอดเวลา หรืออยากรู้เรื่องที่ผ่านมานานย้อนกลับไปสักกี่ร้อยปีกี่พันปียังได้

ภาษิตไทยจึงว่า ความรู้อาจเรียนทันกันหมด และไม่มีใครแก่เกินเรียน เอ๊ะ หรือเป็นภาษิตฝรั่ง หรือว่าเป็นเรื่องของสากล เพราะทุกวันนี้ เด็กเติบโตมามีความรู้จากโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว

เด็กเจริญวัยทั้งร่างกายและสมองได้เร็วมาก ทั้งที่เรียนจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเอง จากพ่อแม่ญาติพี่น้อง จากชุมชน จากเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ ดูโทรทัศน์ชั่วประเดี๋ยวประด๋าวพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงการ์ตูนได้จากการเลียนเสียง

ปีนี้ 2562 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงจากระบบอินเตอร์เน็ตไปอย่างรวดเร็วกว่าปีที่ผ่านมาอีกหลายเท่า จากเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ระบบ 4G  เปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์ระบบ 5G ทั้งในปีสองปีนี้ มีผู้คิดระบบไปถึง 6G 7G เด็กเกิดใหม่ปีนี้ ไม่ต้องไปสอนเริ่มการเรียนรู้ระบบคอมพิวเตอร์อีกต่อไป เพราะเขาเกิดและเติบโตมาจากระบบคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาก้าวหน้าไปไกลแสนไกล

วันนี้ การเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ฝรั่งมังค่าคิดก้าวหน้า นำดาวเทียม ยานอวกาศขึ้นไปจอดบนดาวอังคารได้แล้ว ห่างจากครั้งที่ดาวเทียมพามนุษย์คนแรกไปเดินเล่นบนดวงจันทร์เมื่อสามสิบสี่สิบปีก่อน

เชื่อว่าภายในไม่อีกกี่ปีข้างหน้า มนุษย์คนแรกจะมีโอกาสขึ้นไปเดินเล่นบนดาวอังคาร เพื่อพิสูจน์ว่าบนนั้นมีสิ่งมีชีวิตอยู่เหมือนกับดาวโลก หรือมีอากาศเพียงพอสำหรับมนุษย์ใช้หายใจหรือไม่

ความเปลี่ยนแปลงระบบทางวิทยาศาสตร์ นับแต่เมื่อ 400-500 ปีที่ผ่านมา มนุษย์เพิ่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ไม่ถึงไหน คิดวิทยุโทรทัศน์ได้ในรอบร้อยสองร้อยปีนี้เอง คิดโทรศัพท์ได้เมื่อไม่นาน

เพียงหลังจากนั้น ระบบการติดต่อสื่อสารด้วยคลื่นผ่านโทรศัพท์จากสายเคเบิ้ล มาเป็นไร้สาย มาเป็นโทรศัพท์มือถือ เพียง 50 ปี ระบบคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าจากห้องใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม มาเป็นตัวขนาดเท่าปลายหัวแม่มือ วันนี้ความเร็วของโทรศัพท์จากนาที เป็นวินาที และเร็วกว่าวินาทีเป็นวินาทีละหลายนาที หมายถึงการบรรจุทั้งภาพและความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น

เพียงสามสิบสี่สิบปี จากพูดภาษาหนึ่ง คือญี่ปุ่น ผ่านเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ มีภาพพิมพ์ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ วันนี้ พูดภาษาหนึ่ง เสียงออกมาเป็นอีกภาษาหนึ่ง การติดต่อสื่อสารด้วยภาษาไม่เป็นอุปสรรคของมนุษยชาติอีกต่อไป

รวมถึงอุปสรรคการเดินทางติดต่อถึงกันด้วยความเร็วกว่าเหนือเสียง

เถอะ เมื่อมนุษย์สามารถเรียนรู้ด้านพุทธศาสตร์ไปถึงอีกจุดหนึ่ง จุดที่พระพุทธเจ้าประกาศถึงอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เมื่อไหร่ มนุษย์ไม่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารด้วยเครื่องมืออื่นใดที่ใช้คลื่นอีกต่อไป เมื่อนั้น โลกและมนุษย์จะเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

มนุษย์จะติดต่อกันด้วยโทรจิต

วันนี้ 2562 เราพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงนั้นแล้วหรือยัง