บุกตลาดสแน็กไทย!! “ไรซ์ บัดดี้” ข้าวแผ่นอบกรอบน้องใหม่เจาะกลุ่มวัยรุ่น

“ไวด์ เฟธ ฟู้ด” (Wide Faith Foods) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวแผ่นอบกรอบไรซ์ บัดดี้ บุกตลาดสแน็กไทยครั้งใหญ่ ทุ่มเงิน 50 ล้านบาท โปรโมตความอร่อยได้สุขภาพจากข้าว 100 เปอร์เซ็นต์ อบกรอบด้วยวิธีดั้งเดิมของญี่ปุ่น จัดเต็ม 10 รสชาติ 3 ขนาดเอาใจวัยรุ่น

คุณโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัด เผยว่า ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีประสบการณ์ด้านตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศจีนและไต้หวันมากกว่า 20 ปี อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีต้นแบบการผลิตขนมจากข้าว ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่เหมือนใครจากความสามารถของเทคโนโลยีขั้นสูง

ด้วยมองเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยว่ามีวัตถุดิบคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวไทย เครื่องปรุงต่างๆ ไปจนถึงวัตถุดิบธรรมชาติ ที่เอื้อประโยชน์ต่อความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ ไวด์ เฟธ ฟู้ด จึงเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยยาวนานถึง 16 ปี เปิดโรงงานแห่งแรกเมื่อปี 2002 ในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และแห่งที่ 2 ในปี 2014 มีสายการผลิต 5 สาย สามารถผลิตได้ 15 ล้านชุดต่อเดือน หรือราวๆ 13,200 ตันต่อปี

ก่อนเผยต่อว่า ในปี 2017 ที่ผ่านมา ไวด์ เฟธ ฟู้ด ได้เปิดโรงงานแห่งที่ 3 ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชฯ จังหวัดชลบุรี บนที่ดิน 34 ไร่ ด้วยเม็ดเงินการลงทุนรวม 3 เฟส ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเฟสแรก บริษัทได้ลงทุนไป 800 ล้านบาท และในเฟส 2 บริษัทจะลงทุนอีกกว่า 500 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตในเฟส 2 อีก 10,800 ตันต่อปี ทั้งนี้ ในปี 2022 ยังได้วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตในเฟส 3 อีก 14,000 ตันต่อปี ด้วยงบลงทุนอีก 700 ล้านบาท

“กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะรองรับการเติบโตในต่างประเทศ ที่ส่งออกมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ จีน, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, บราซิล, อังกฤษ ฯลฯ ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมบางพลีจะรองรับตลาดภายในประเทศ”

สำหรับผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด คุณโอลิเวอร์ บอกว่า มีหลากหลาย อยู่ภายใต้แบรนด์แม่ “มาสเตอร์ ไรซ์” ไม่ว่าจะเป็น ไรซ์ บัดดี้, ออลไรท์, ไรซ์ วันเดอร์ และ เมลโล่ โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์มีลักษณะเป็นขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ รสชาติไม่เหมือนใคร มีความบางกรอบ ออกแบบและผลิตตามข้าวเกรียบข้าวแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ใช้กรรมวิธีการอบ ใช้น้ำมันรำข้าว ปราศจากกลูเต็น ไร้ไขมันทรานส์ และมีไขมันน้อยกว่าขนมขบเคี้ยวทั่วไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เติมเต็มในสิ่งดีๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสด้านสุขภาพทั่วโลกอย่าง “Better for You” การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 จากมูลค่าส่วนแบ่งการตลาดไรซ์สแน็ก 42% ในออสเตรเลีย และ 52% ในนิวซีแลนด์

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย คุณกรอเรีย กัว รองกรรมการฝ่ายการตลาด บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัด ให้ข้อมูลว่า บริษัทจะใช้ชื่อแบรนด์ว่า “ไรซ์ บัดดี้” โดยจะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นช่วงอายุ 16-19 ปี และกลุ่มหนุ่มสาวที่กำลังมองหาความแปลกใหม่จากขนมขบเคี้ยว

“มีให้เลือก 10 รสชาติ ได้แก่ รสดั้งเดิม ซาวครีมแอนด์หัวหอม สวีทชิลลี่ พิซซ่า สาหร่ายเกาหลี เทอริยากิ บาร์บีคิว ไลม์แอนด์ชิลลี่ ดับเบิ้ลชีลลี่ ไลม์แอนด์แบล็คเปปเปอร์ มี 3 ขนาดให้เลือก ขนาด 60 กรัม ราคา 25 บาท ขนาด 50 กรัม ราคา 20 บาท และสุดท้าย 27 กรัม 12 บาท”

ในการบุกตลาดขนมขบเคี้ยวประเทศไทยในครั้งนี้ ไวด์ เฟธ ฟู้ด ได้ร่วมกับ “บริษัท นิวเวฟ เอเชีย จำกัด” (New Wave Asia) โดยจะใช้เงินลงทุนกว่า 50 ล้านบาทเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ผ่านกิจกรรมการตลาดต่างๆ รวมถึงสร้างช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย และมีการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์รวมไปถึงโปรโมชั่นกับร้านค้าปลีก โดยจะเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในต้นปี 2019 ที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกอย่าง ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เดอะมอลล์ ตามด้วยวางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบในปลายควอเตอร์สอง ที่ บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ เทสโก้ โลตัส ตามด้วย เซเว่นอีเลฟเว่น ต่อไป

ส่วนเป้าหมายต่อจากนี้ คุณโอลิเวอร์ เผยว่า ไวด์ เฟธ ฟู้ด จะเข้าไปเป็นหนึ่งในคู่แข่งตลาดสแน็กไทยที่มีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท หวังมียอดขายปีแรก 500 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% ต่อเนื่องทุกปี พร้อมก้าวไปสู่ความเป็นแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของอุตสาหกรรมอาหารและขนมขบเคี้ยว

“มีความเป็นเลิศ 3 อย่าง คือ มีรสชาติเป็นเลิศ มีกระบวนการผลิตอย่างดีเลิศ และให้ความรู้สึกที่ดีเลิศ เพื่อตอบสนองรอยยิ้มและความพอใจของลูกค้าให้ดีที่สุด” คุณโอลิเวอร์ เย้ กล่าวทิ้งท้าย