ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“เทียนหอมอโรมา” สรรพคุณช่วยผ่อนคลาย ทำใช้ ทำขาย ดีทั้งนั้น
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ( องค์การมหาชน) หรือ OKMD ( Office of Knowledge Management and Development :OKMD ) ร่วมกับทีเคปาร์ค ( TKpark) และกรุงเทพมหานคร(กทม.) จัดกิจกรรมบริการเรียนรู้สาธารณะฟรี หรืองาน Knowledge in the park ครั้งที่ 2 ที่อาคารศูนย์สร้างสุขทุกวัย สวนลุมพินี พบว่ากระแสตอบรับเพิ่มขึ้นทั้งจากผู้ใช้บริการสันทนาการที่สวนลุมเป็นประจำและผู้ที่อยู่ภายนอก หนึ่งในกิจกรรมเรียนที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากคือ เวิร์กช็อป สอนการทำ “เทียนหอมอโรมา” (Aromatic Candle) รูปลักษณ์ทันสมัย น่าใช้
ทั้งนี้เนื่องจาก กำลังอยู่ในกระแส “เทรนด์สุขภาพ” และเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม Aromatherapy หรือที่เรารู้จักชื่อกันว่า “สุคนธบำบัด” ซึ่งเป็นการนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ดูแลสุขภาพ เป็นทางเลือกบำบัดอาการทางกายและอารมณ์ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย คลายเครียด กำลังได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ
การทำ เทียนหอมอโรมา จึงตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เพราะสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และเลือกใช้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยได้ตามความต้องการที่แตกต่างกัน เทียนหอมอโรมานี้ อาจจุดประกายความคิดให้ประชาชนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแฮนด์เมด ที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญที่ให้ความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับในเทศกาลปีใหม่ 2562 ที่ใกล้จะถึงนี้ หรือใช้ในกิจการบริการสุขภาพ เสริมเสน่ห์ให้สปาไทย สร้างเศรษฐกิจให้ประเทศได้อีกทางหนึ่ง
การทำ เทียนหอมอโรมา นั้น ใช้ของที่ล้วนมาจากธรรมชาติทั้งหมด ประกอบด้วย 1.ไส้เทียนซึ่งใช้เชือกฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ 2. ไขถั่วเหลือง ( soy wax) ซึ่งมีควันน้อย 3. น้ำมันหอมระเหย
น้ำมันหอมระเหย เป็นผลิตผลจากการสกัดพืชสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งอาจสกัดมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของพืชนั้นๆ นับตั้งแต่ ผล ดอก ใบ เมล็ด เปลือก ก้าน ฯลฯ แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น
ลาเวนเดอร์ ( Lavender)
กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยรักษาสมดุลทางอารมณ์ บรรเทาอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ คลายเครียด บรรเทาอาการปวดไมเกรน กลิ่นหอมจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
วนิลา (Vanilla )
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้รู้สึกสุขสงบ และอารมณ์แจ่มใส
กุหลาบ ( Rose)
กลิ่นหอมเย็น ช่วยปรับสภาพและรักษาสมดุลทั้งร่างกายและอารมณ์ ช่วยผ่อนคลาย
ยูคาลิปตัส ( Eucalyptus)
กลิ่นหอมสดชื่น สามารถสูดดมได้ตลอดเวลา มีคุณสมบัติช่วยลดอาการหายใจติดขัด อาการไอ หลอดลมอักเสบ ไข้หวัดและไซนัส บรรเทาอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวก ช่วยฆ่าเชื้อโรค
แมนดาริน ( Mandarin)
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้รู้สึกคลายเครียดและผ่อนคลาย สามารถนำไปกระจายกลิ่นในอากาศ เพื่อเพิ่มความสดชื่นในห้อง ช่วยให้สงบและหลับสบาย
สำหรับการเลือกน้ำมันหอมระเหยมาใช้ทำเทียนหอมอโรมา นั้น จึงขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและความนิยม โดยสูตรเทียนหอมอโรมา ขนาดบรรจุน้ำหนัก 80 กรัม 1 ขวด ใช้ไขถั่วเหลืองน้ำหนัก 80 กรัม น้ำมันหอมระเหย 5 หยด

ส่วน วิธีการทำเทียนหอมอโรมา แยกเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้
-
หนึ่ง/ขั้นตอนการทำไส้เทียน
- นำเชือกฝ้ายมาต้มให้เดือด อาจใส่น้ำยาล้างจานเล็กน้อย และนำมาผึ่งให้แห้งสนิท
- ตัดเชือกให้มีความยาวกว่าภาชนะที่จะใช้บรรจุ และผูกปลายเชือกกับไม้
- ละลายไขถั่วเหลืองด้วยความร้อน โดยใส่ในภาชนะทนไฟ อาจเป็นโถแก้ว หรือโถเซรามิก เคลือบสีขาว แล้ววางในกระทะน้ำเดือด เช่นเดียวกับการตุ๋น แต่ไม่ต้องปิดฝา ใช้ไม้คนให้ละลายเป็นน้ำเหลว
- จุ่มเชือกฝ้ายลงในน้ำไขถั่วเหลือง จุ่มซ้ำกันประมาณ 3 ครั้ง แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ไส้เทียนจะแข็ง
- ล็อคไส้เทียนด้วยกระดุมโลหะ เพื่อใช้เป็นฐานยึดติดกับเนื้อเทียน ไม่ให้ลอยขึ้นขณะเนื้อเทียนละลาย
-
สอง/ขั้นตอนการทำเทียน
- ชั่งไขถั่วเหลืองให้ได้น้ำหนักตามสูตรคือ 80 กรัม ( คำนวณน้ำหนักตามจำนวนที่จะทำ) นำไปใส่ภาชนะทนไฟ ใช้ไม้คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วยกลง
- ตั้งพักให้อุ่น คือมีความร้อนไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้มีผลต่อน้ำมันหอมระเหย วิธีการทดสอบอย่างง่ายๆคือให้ใช้นิ้วสัมผัสกับภาชนะและนับ 1ถึง10 หากทนได้ แสดงว่าใช้ได้แล้ว
- หยดน้ำมันหอมละเหยลงไป จำนวน 5 หยด (คำนวณตามจำนวนที่จะทำ) แล้วคนให้เข้ากัน
- เทส่วนผสมทั้งหมด ลงในขวดบรรจุที่เตรียมไว้ ควรใช้ขวดสีชา ป้องกันการสลายของน้ำมันหอมระเหย เนื่องจากน้ำมันชนิดนี้ไวต่อแสง มีฝาล็อค 2 ชั้น
- หย่อนไส้เทียนไขที่เตรียมไว้ก่อนนี้ลงไป ให้ไส้เทียนอยู่ตรงกลางขวด โดยใช้ไม้ตะเกียบช่วยพยุงไว้ จนกระทั่งเนื้อเทียนแข็งตัว
- หลังจากเนื้อเทียนแข็งตัวดีแล้ว ให้ใช้กรรไกตัดไส้เทียนไขให้ต่ำกว่าปากขวด และเช็ดทำความสะอาดปากขวดที่อาจเลอะขี้ผึ้ง ด้วยกระดาษทิชชูแห้งอย่างระมัดระวัง และปิดฝาให้แน่น
- ติดฉลากบอกกลิ่นที่ข้างขวด ซึ่งฉลากนี้สามารถออกแบบให้สวยงามและน่าใช้ตามไอเดียแต่ละคน

ทาง OKMD จะคัดสรรความรู้และจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปสร้างทักษะเรื่องใหม่ๆอาชีพใหม่ๆมาให้บริการ ในกิจกรรมเรียนรู้สาธารณะหรือ Knowledge in the park ที่สวนลุมพินี กทม. อย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดกว้างให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย ได้พบกับกูรู ผู้รู้จริงที่หลากหลาย ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อการเรียนรู้ที่ไม่มีวันพอ ได้สัมผัสกับประสบการณ์ตรง นำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตได้จริง เป็นแรงบันดาลใจให้ต่อยอดไปสู่อาชีพและรายได้ กำหนดจะจัดกิจกรรมครั้งต่อไปในวันที่ 1-2 ธันวาคม 2561 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการอัพเดท ได้ที่เว็บไซต์ / www.okmd.or.th และwww.tkpark.or.th หรือเฟซบุ๊ก และลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฟรี