เจ๊อ๋อย ลุงหมึก อาหารตามสั่ง 10 บาท “จะขายราคานี้ตลอดไป…จนกว่าชีวิตจะหาไม่”

เจ้อ๋อย ลุงหมึก อาหารตามสั่ง 10 บาท
เจ้อ๋อย ลุงหมึก อาหารตามสั่ง 10 บาท

เจ๊อ๋อย ลุงหมึก อาหารตามสั่ง 10 บาท “จะขายราคานี้ตลอดไป…จนกว่าชีวิตจะหาไม่”

เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้อ่านข่าวเกี่ยวกับร้านอาหารตามสั่งราคาถูกร้านหนึ่ง เปิดขายอยู่ที่จังหวัดราชบุรี วันนี้มีโอกาสมาเยือนเมืองโอ่งมังกรทั้งที จึงไม่ลังเลที่จะไปลองทานอาหารตามสั่งราคาถูกนั้นดู

ร้านเจ๊อ๋อย ลุงหมึก อาหารตามสั่ง 10 บาททุกอย่าง เปิดมาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบันก็เกือบ 30 ปี มี “ป้าอ๋อย” คุณอ้อย ทับทิม อายุ 62 ปี และ “ลุงหมึก” คุณวันชัย คุณเจริญ อายุ 72 ปี เป็นเจ้าของร้าน

“ลุงหมึก” -คุณวันชัย คุณเจริญ อายุ 72 ปี

ลักษณะของร้านเป็นร้านอาหารตามสั่งขนาดเล็ก แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนครัวสำหรับทำอาหาร มีผู้หญิง 2 คน กำลังยืนทำอาหารกันอยู่ และ โซนสำหรับให้ลูกค้านั่งทานอาหารที่มีลูกค้านั่งรออยู่ประปราย รวมถึงมีลูกค้าเดินมาสั่งอาหารเพื่อกลับไปทานที่บ้านกันด้วย ลูกค้าที่มาสั่งอาหารที่ร้าน มีตั้งแต่เด็กๆ วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้น เมื่อคนยังไม่เยอะมาก เราจึงได้เข้าไปชวนลุงหมึกคุยสักเล็กน้อย

ลุงหมึก เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนทำงานก่อสร้าง ขี่สามล้อ รับจ้างตักส้วม ทำมาแทบทุกอย่าง จึงเข้าใจถึงความยากจน พ่อแม่ไม่มีสมบัติอะไรให้ สร้างเนื้อสร้างตัวกันมาเอง 2 คนสามีภรรยา ล้มลุกคลุกคลานกันมาขายอาหารตามสั่ง จนส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรีได้ โดยไม่เคยกู้เงินใครมาลงทุนให้เป็นหนี้เป็นสิน มีน้อยก็ขายน้อย มีแต่ขอผ่อนจ่ายค่าของเขาไปเป็นงวดๆ เท่านั้น เจ้าของร้านที่ไปซื้อของเขาก็ใจดี เห็นว่าทั้งลุงหมึกและป้าอ๋อยไม่มีเงินมากนัก จึงไม่คิดดอกเบี้ย

ลุงหมึก ป้าอ๋อย และลูกสาวที่มาช่วยทั้งคู่ขายอาหาร

ขายอาหารในราคา 10 บาท มาตั้งแต่ตอนเปิดร้านแรกๆ  แม้ว่าของจะขึ้นราคาทางร้านก็ขายอาหารตามสั่งในราคาเท่าเดิม เลยถามลุงหมึกออกไปว่า “ขายราคาเท่านี้ มีกำไรหรือคะ?”

“มันก็ได้บ้าง แต่เราอาศัยว่าเอากำไรน้อย แต่ขายมาก” ลุงหมึกตอบกลับมาอย่างนั้น

ถามต่อไปอีกถึงวิธีการบริหารเงิน ลุงหมึก บอกว่า ให้ทางป้าอ๋อยเป็นคนจัดการทั้งหมด โดยป้าอ๋อยอธิบายถึงวิธีการบริหารจัดการเงินให้ฟังว่า

ป้าอ๋อย-คุณอ้อย ทับทิม อายุ 62 ปี

“เราตั้งหลักมาทีแรก ล้มลุกคลุกคลานมาจนยืนพื้นอยู่ตัว ก็มาดูว่าซื้อของเท่านี้ ในราคาเท่านี้ แล้วเราจะต้องมาจ่ายราคาเท่าไหร่ เอามาขายแค่นี้ อันไหนต้นทุนแพง อย่าง หมูกรอบ ราคามันสูง 130 บาท กว่าเราจะเอามาต้มกว่าจะมาทอด ปลาหมึกก็โลละร้อยกว่าเกือบสองร้อย ก็มาทำขายราคา 20 บาท  ส่วนพวกหมู-ไก่ ราคาไม่ได้สูงเท่าไหร่ ขายแค่ 10 บาท ถ้ามีไข่ดาวก็ได้กำไรเพิ่มมาอีก 5 บาท เราอาศัยดูว่า วัตถุดิบ มาราคาเท่าไหร่แล้วจึงมาจัดสรร ว่าจะซื้อเท่าไหร่แล้ว ยืนพื้นเลยว่าต้องซื้อเท่านี้ๆ ในราคาเท่านี้ทุกวัน หมุนเวียนร้านที่ซื้อของไปจนเจอร้านที่วัตถุดิบราคาเท่านี้ ซึ่งเป็นราคาที่สามารถจ่ายได้ เราก็ซื้อ”

ลูกค้าที่มาซื้อ นอกจากคนในหมู่บ้านแล้วก็มีลูกค้าจากพื้นที่อื่นๆ เช่น บ้านโป่ง บึงกาฬ เพชรบุรี แม่กลอง ชุมพร รายได้ต่อวันไม่แน่นอน บางวันคนเข้าร้านเยอะ ร้านก็แน่น แต่วันพุธกับวันเสาร์คนจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะป้าอ๋อยจะทำอาหารใส่ถุง ออกไปเร่ขายตามตลาดนัด ส่วนลุงหมึกเอง มีอีกอาชีพที่ทำในตอนเย็นๆ คือ ขายหอยแครง เงินที่ได้มาก็แบ่งให้ป้าอ๋อยเอาไปซื้อพริก เครื่องปรุงต่างๆ เข้าร้าน

เมนูที่ทางร้านขายก็เป็นเมนูอาหารตามสั่งทั่วไป อย่าง กะเพราไก่ หมู, ข้าวผัดไก่ หมู, ราดหน้าหมู ไก่, ผัดไทยหมู ไก่, ผัดซีอิ๊วหมู ไก่ ราคา 10 บาท ส่วนกะเพรากุ้ง-ปลาหมึก เครื่องใน หมูกรอบ, ราดหน้ามาม่า ข้าวผัดแหนม ข้าวผัดกุ้ง ปลาหมึก, สุกี้แห้ง-น้ำ ราคาจะอยู่ที่ 15–20 บาท

ปัจจุบัน ป้าอ๋อยและลุงหมึก มีลูกสาวเข้ามาช่วยทำอาหารขาย โดยรับผิดชอบในส่วนของการทำก๋วยเตี๋ยว ซึ่งก็ขายในราคา 10 บาท เช่นกัน

“ยืนหยัดขายราคานี้มาเรื่อย ตามแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 ใครๆ ก็บอกให้ขึ้นราคานะ แต่ไม่ขึ้นหรอก เพราะถ้าเกิดขึ้นราคา ก็ถือว่าทางร้านเราผิดคำพูดที่สัญญากับในหลวง รัชกาลที่ 9 เอาไว้ ว่าจะขายอาหาร ราคา 10 บาทตลอดไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่” ลุงหมึก กล่าว

หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 15 พ.ย. 2018