ยืนหยัด 40 ปี ‘พริกแกงแม่น้อย’ เจ้าดังเชียงราย จากตักขายในตลาดสด สู่ส่งออกทั่วโลก

ยืนหยัด 40 ปี พริกแกงแม่น้อย เจ้าดังเชียงราย จากตักขายในตลาดสด สู่ส่งออกทั่วโลก

กว่า 40 ปีที่ ‘พริกแกงแม่น้อย’ คอยสร้างความอร่อยบนจานอาหาร จากธุรกิจครอบครัวขนาดเล็กในตลาดสดเชียงราย ผลิตพริกแกงออกจำหน่ายเพียงไม่กี่กิโลกรัม ใส่ถังพลาสติกตักใส่ถุงขายเหมือนร้านทั่วไป วันนี้พริกแกงของแม่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่โดยทายาทเจนสอง กลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ส่งออกได้ไกลถึงต่างประเทศ

คุณเฉลิมเกียรติ ธารทองไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาเบญ ฟู้ดส์ จำกัด ทายาทเจนสอง เล่าย้อนให้ฟังถึงที่มาว่า เมื่อปี พ.ศ. 2519 คุณพ่อและคุณแม่คือคุณสุจิตต์-คุณนวลน้อย ธารทองไพบูลย์ ได้เริ่มต้นธุรกิจครอบครัวขนาดเล็กในตลาดสดเชียงราย ด้วยการทำพริกแกงแบบใส่ถังพลาสติกตักขายในตลาดสดเชียงรายวันละไม่กี่กิโลกรัม

กระทั่งปี พ.ศ. 2537 พริกแกงธรรมดาได้ถูกพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะมองการณ์ไกลว่าพริกแกงของแม่นั้นสามารถไปได้ไกลกว่าทำขายแบบเดิม โดยคุณเบญจวรรณ (ธารทองไพบูลย์) และคุณภาณุ ภัทรธรรมกุล จนชื่อ ‘พริกแกงแม่น้อย’ เป็นที่รู้จักในตลาดสดจังหวัดเชียงราย สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘แม่น้อย’ ซึ่งต่อมาได้ทำการจดทะเบียนนิติบุคคลในนามบริษัท ภาเบญ ฟู้ดส์ จำกัด

“เรามองอนาคตอยากให้พริกแกงธรรมดาขายได้ในต่างประเทศ ถ้ายังทำขายอยู่แบบเดิมไปไม่ได้แน่นอน เพราะพริกแกงเก็บได้ไม่นาน ไหนจะปัญหาเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย สถานที่จัดเก็บคือตลาดจะทำให้ดีอย่างไรก็คือตลาด” คุณเฉลิมเกียรติ กล่าว

การพัฒนาเริ่มตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ คุณเฉลิมเกียรติ เล่าว่า คัดสรรและควบคุมอย่างดีตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกสายพันธุ์ การปลูก ตลอดจนการเก็บเกี่ยว จากฟาร์มที่ปลูกโดยเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ ในลักษณะคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่ง

“ตอนนี้มีเกษตรกรร่วมกัน 5-6 ราย เป็นคอนแทรกต์ที่เราต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน สิ่งที่เราเน้นย้ำกับเกษตรกรคือคุณห้ามใช้ผลิตภัณฑ์เคมี อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะปุ๋ยหมัก วัตถุอินทรีย์เท่านั้น วัตถุดิบที่ปลูกส่วนใหญ่ คือ ขิง ข่า ตะไคร้ ฯลฯ” คุณเฉลิมเกียรติ เสริม

เมื่อได้วัตถุดิบแล้ว สิ่งที่พัฒนาต่อมาคือบรรจุภัณฑ์ คุณเฉลิมเกียรติ บอกว่า เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แรกๆ แทบร้องไห้ เพราะคนไม่ยอมรับ แต่ไม่นานนักพริกแกงแม่น้อยมีบรรจุภัณฑ์ 2 ประเภทคือ ซองใส สามารถเก็บได้ 1 ปี หรือประมาณ 16-18 เดือน สีอาจมีเปลี่ยนไปบ้าง แต่รสชาติยังคงที่ อีกรูปแบบคือ ถุงฟอยล์ สามารถเก็บได้นานขึ้นถึง 2 ปี

 

ก่อนเล่าต่อถึงเรื่องรสชาติว่า มีให้เลือกหลากหลาย เช่น พริกแกงเผ็ด พริกแกงเขียวหวาน พริกแกงส้ม พริกแกงน้ำยา พริกแกงอ่อม พริกแกงน้ำเงี้ยว พริกแกงข้าวซอย พริกแกงฮังเล พริกแกงมัสมั่น หม่าล่า น้ำพริกเผา น้ำพริกต้มยำ เป็นต้น ราคาขายปลีกทั่วไป ถุงฟอยล์ 70-80 บาท ส่วนซองใส ถุงละ 50 บาท

วางจำหน่ายบนห้างโมเดิร์นเทรดของไทย อาทิ ท็อปส์ มาร์เก็ต ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต และแม็คโคร รวมทั้งส่งออกต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น นอร์เวย์ ฟินแลนด์ อเมริกา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แถบเอเชีย เป็นต้น

 

“สินค้าบางตัวไม่ได้ทำขายในประเทศ ทำสำหรับส่งออกเท่านั้น ผลิตพริกแกงอยู่ 40 กว่าชนิด แต่จำหน่ายในท้องตลาดอยู่ 23 ชนิด ที่เหลือเป็น OEM หรือการรับจ้างผลิตสินค้าหรือชิ้นส่วนให้กับแบรนด์ต่างๆ ตามแบบที่ผู้จ้างกำหนดมา”

มีกำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 2-3 ตัน ช่วงหลังสงกรานต์จะค่อยๆ ลดต่ำลงมา จนถึงเข้าพรรษาเป็นช่วงโลว์ซีซั่น จะอาศัยช่วงนี้เป็นช่วงปรับปรุงตรวจสอบเครื่องจักร บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ส่งพนักงานไปอบรมแทน

ช่วงท้าย คุณเฉลิมเกียรติ เผยถึงกลยุทธ์ที่ทำให้พริกแกงแม่น้อยยืนหยัดมาตลอด 40 ปีว่า เน้นเจาะกลุ่มคนที่นิยมรับประทานอาหารเหนือ กลุ่มคนเหนือ กลุ่มอาหารไทยที่ต่างชาติรับประทานได้

“เรายึดมั่นในสิ่งที่ขายที่ทำ จะไม่ดัดแปลงเพื่อให้ถูกปากลูกค้าต่างชาติเด็ดขาด เพราะว่า สิ่งที่พรีเซ้นต์ออกไปเราไม่ได้บอกว่าขายพริกแกง แต่เราส่งมอบความเป็นวัฒนธรรมชาวเหนือให้กับลูกค้า คุณจะไม่ได้กินแค่พริกแกงอย่างเดียว แต่คุณกำลังสัมผัสวัฒนธรรมของชาวเหนืออยู่”

สนใจสามารถติดต่อ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ภาเบญ ฟู้ดส์ จำกัด 161 ถ.สันโค้งน้อย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 สำนักงาน โทร. 053-713-062 http://www.pabenfoods.com/ หรือ https://www.maenoicurry.com/ เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/maenoicurry/