43 ปี “ลัคกี้เฟลม” แบรนด์ครัวเรือนไทย กับการแตกไลน์ธุรกิจบิลด์อิน

43 ปี “ลัคกี้เฟลม” แบรนด์ครัวเรือนไทย กับการแตกไลน์ธุรกิจบิลด์อิน

ปัจจุบันเทรนด์การทำอาหารยังมีต่อเนื่อง สังเกตได้จากบนหน้าจอโทรทัศน์ ทุกวันนี้มีรายการแข่งขันทำอาหารมากหน้าหลายตา ทั้งเชฟมืออาชีพ เชฟสมัครเล่น หรือแม้แต่เด็กเองยังมีโอกาสได้โชว์ฝีมือ บ่งบอกให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็ทำได้

แต่จะทำอาหารให้อร่อย คงไม่ใช่แค่ฝีมือ หรือสูตรตายตัวอย่างเดียว อุปกรณ์เครื่องครัวก็สำคัญเช่นกัน หากใช้ง่าย ปลอดภัย รูปลักษณ์สวยงาม ย่อมส่งผลให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านมีความสุขในการทำอาหาร รสชาติที่ได้ยิ่งอร่อยมากขึ้น

และหากเอ่ยถึงแบรนด์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ยังมีให้เห็นถึงทุกวันนี้แล้วล่ะก็ หนึ่งเดียวตอนนี้ต้องยกให้ Lucky Flame (ลัคกี้เฟลม) หรือที่ส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม เตาแก๊สลัคกี้เฟลม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณพ่อบ้านแม่บ้านมานาน 43 ปี หรือมากกว่า 4 ทศวรรษ

ในโอกาสนี้เองได้รับเกียรติจาก คุณเชาว์เลิศ ลีลาศวัฒกุล กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด มาถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า แบรนด์ลัคกี้เฟลมเกิดจากความชื่นชอบในเสน่ห์ของครัวไทย จากตอนแรกที่ทำกันแค่ธุรกิจครอบครัว ก็ขยับขยายมาเรื่อย จนรู้ตัวอีกทีลัคกี้เฟลมก็มีอายุ 43 ปีแล้ว

“เรามีความเชื่อว่า สิ่งที่บ่งบอกถึงเสน่ห์ของอาหารไทย ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เรื่องวัตถุดิบ หรือฝีมือในการปรุงเท่านั้น แต่ครัวไทยก็ช่วยเสริมความมีเสน่ห์ของอาหารไทยได้เหมือนกัน เมื่อก่อนเราใช้แค่เตาถ่านทำอาหารที่อร่อยได้ ต่อมาเมื่อเรามีเตาแก๊ส การทำอาหารก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น” คุณเชาว์เลิศ เสริม

ก่อนเล่าต่อถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งว่า คุณภาพสินค้าคือสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งที่ทางแบรนด์พัฒนามาตลอด เน้นย้ำทุกครั้งว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกไปนั้นให้นึกเสมอว่าทำให้พ่อแม่ และคนในครอบครัวใช้ ฉะนั้น ต้องปลอดภัย ต่อให้ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น แต่ตัวแทนจำหน่ายยังอยากรับไปขาย ต้องขายแล้วไม่เกิดกระแสลบตามหลัง เพราะลูกค้ามีความสุขกับการใช้

“สินค้าต้องคงทน แข็งแรง ทำงานง่าย สะดวก และปลอดภัย เราสร้างความเชื่อใจให้ลูกค้าจากการรับรอง ISO 9001:2015 ซึ่งเป็นเหมือนใบรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และเรายังเป็นผู้ผลิตเตาแก๊สที่ติดตรา มอก. และ Thailand Trusted Mark ตราสัญลักษณ์ที่การันตีคุณภาพของสินค้าและบริการไทย”

ผู้บริหารหนุ่ม เล่าต่อว่า ปัจจุบันลัคกี้เฟลมมีการพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดควัน เตาอบแก๊ส หม้อหุงข้าวแก๊ส ปืนจุดแก๊ส หรือเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า รวมไปถึงการแตกไลน์ผลิตอุปกรณ์ครัวเรือนแบบบิลด์อินที่เริ่มมีบทบาทในครัวเรือนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนทำอาหารในคอนโดมิเนียม หรือหมู่บ้านในเมือง

ลัคกี้เฟลมได้เปิดโชว์รูมสาขาสอง ณ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต บนเนื้อที่กว่า 122 ตารางเมตร ใช้งบประมาณบวกลบราว 4 ล้านบาท มีสินค้าลัคกี้เฟลมมากกว่า 100 SKU พร้อมทั้งมีการจัดแสดง Display Product เพื่อเป็นตัวอย่างในการสร้างไอเดียหรือแรงบันดาลใจ เป็นแนวทางในการตกแต่งครัวให้กับลูกค้าทุกบ้าน

ซึ่งการแข่งขันของตลาดบิลด์อิน คุณเชาว์เลิศ ว่า ค่อนข้างสูง ในศูนย์การค้าจะแข่งกันด้วยบริการของพนักงานขาย ส่วนโปรดักต์ก็สำคัญเช่นกัน เพราะสมัยนี้ผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้น ก่อนจะซื้อของสัก 1 อย่างหาข้อมูลกันมาหมดแล้ว

“เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากโชว์รูมสาขาแรก ที่เซ็นทรัล บางนา ซึ่งเปิดมานาน 25 ปีแล้ว จึงขยายมาเปิดสาขาสองที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสาขาสามกำลังจะเปิดตามมาในเดือนธันวาคมนี้ ในรูปแบบสแตนด์อะโลน ที่จังหวัดอุดรธานี”

โดยคาดว่าภายใน 3 ปี จะสามารถเปิดโชว์รูมในกรุงเทพฯ ได้ถึง 5 สาขา และขยายตามหัวเมืองใหญ่ เช่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ สงขลา อุดรธานี เป็นต้น

สำหรับช่องทางการจำหน่าย ณ ปัจจุบัน ผู้บริหารคนเดิม เผยว่า มีช่องทางหลากหลายทั้ง โฮมโปร ไทวัสดุ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี โฮมเวิลด์ บุญถาวร และโกเบิลเฮ้าส์ รวมทั้งจำหน่ายผ่านตัวแทนที่กระจายอยู่ในทุกจังหวัดของประเทศไทย

พร้อมกันนี้ยังส่งออกอย่างต่อเนื่อง ในตลาด CLMV เป็นประเทศในกลุ่ม ASEAN คือประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ซึ่งตลาดเหล่านี้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์และสินค้าที่มาจากประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่ายอดขายในปีนี้จะปิดได้ถึง 800 ล้านบาท จากส่วนของบิลด์อินและแอกเซสซอรี่ร่วมด้วย