ผงปรุงรส…จัดเป็นสินค้าอีกหนึ่งประเภทที่ทุกครัวเรือนนิยมใช้ เพื่อสร้างรสชาติให้กับอาหารธรรมดาๆ ให้อร่อยขึ้นมาได้ อย่างตามตลาดบ้านเรา มีผงปรุงรสหลายยี่ห้อวางจำหน่าย ทั้งแบรนด์ใหญ่และเล็ก รสชาติต่างกันตามแต่คนชอบ

แม้ผงปรุงรส จะมีแบรนด์ใหญ่จำหน่ายเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้แนวคิดการสร้างแบรนด์ ‘ใบบุญ’ ของคู่สามีภรรยา คุณต้อม-สุภชีพ แตงอ่อน (วัย 39 ปี) และคุณเจี๊ยบ-สิริรัตน์ แตงอ่อน (วัย 40 ปี) เปลี่ยนไป

ก่อนหน้านี้ ทั้งสองเคยทำงานเป็นพนักงานบริษัท คุณเจี๊ยบมีตำแหน่งเป็นนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารนานกว่า 15 ปี ส่วนคุณต้อมมีตำแหน่งเป็นวิศวกรด้านเครื่องจักรและกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารนานกว่า 10 ปี เมื่อถึงจุดหนึ่งทั้งคู่เริ่มมีแนวคิดอยากสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง

จนในปี 2555 ทั้งสองได้ผันตัวเองจากมนุษย์เงินเดือนเข้าสู่วงการอาหารในฐานะผู้ผลิตได้สำเร็จ โดยเริ่มจากการผลิตวัตถุดิบส่งโรงงานอุตสาหกรรมภายใต้ชื่อ บริษัท เอสทูเค ฟู้ดส์ จำกัด ที่ทั้งคู่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

“เราเริ่มต้นทำกันแบบคนทุนน้อย ลองผิดลองถูกด้วยกัน แบบไม่รู้อะไรเลยครับ ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะขายให้ใคร จะทำตลาดอย่างไร รู้แต่ว่าอยากทำ และต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งใน 6 เดือนแรกไม่มีลูกค้าเลยครับ จนในที่สุดเราได้กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมอาหารมาเป็นลูกค้า ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ก็รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยคุณเจี๊ยบทำงานที่เดิม” คุณต้อม บอกเสริม

ต่อมาในช่วงปลายปี 2560 คู่สามีภรรยานักคิดได้ต่อยอดธุรกิจให้คนทั่วไปรู้จักตัวตนมากขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าเก่า คือการสร้างแบรนด์ ซอสผงปรุงรสใบบุญ ออกจำหน่าย

“หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องชื่อใบบุญ แน่นอนว่าชื่อสะท้อนถึงตัวผลิตภัณฑ์ คำว่า ใบ เปรียบได้จากวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ ส่วนคำว่า บุญ เปรียบเหมือนจรรยาบรรณและคุณธรรมของบริษัทที่ไม่มีปิดบังกับลูกค้า” คุณต้อม บอกที่มาของชื่อแบรนด์

 

พัฒนาสูตร สร้างความต่าง

มาตรฐานรับรองถูกต้อง       

สำหรับสูตรซอสผงปรุงรสใบบุญ คุณเจี๊ยบ เผยว่า เป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ อาศัยประสบการณ์การทำงานกว่า 15 ปี และรสชาติอาหารของแม่ที่คุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก เธอเล่าว่า มีการคิดค้นพัฒนาสูตรอยู่ตลอด ทำรสชาติให้ฉีกออกมาจากกลุ่มที่ทำส่งโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแข่งขันกันเองในตลาดด้วย โดยทำออกมา 4 ขนาดคือ 75 กรัม 165 กรัม 425 กรัม และ 850 กรัม สำหรับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป และ 2 ขนาดคือ 1 กิโลกรัม และ 5 กิโลกรัม สำหรับกลุ่มโรงเรียน โรงแรม รีสอร์ต โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ ฯลฯ

“ถ้าลูกค้าได้ลองทานจะติดใจ อยู่บ้านเพลินๆ คิดอะไรไม่ออก นึกถึงผงปรุงรสใบบุญได้เลย ใน 1 ซองสามารถทำอาหารได้หลากหลายทั้งต้ม ผัด แกง ทอด หมัก ยำ ตามวิธีการทำที่ระบุไว้ชัดเจนหลังบรรจุภัณฑ์ ไม่เหมือนแต่ก่อนที่จะทำอาหารแต่ละครั้งต้องยุ่งยากหลายขั้นตอน” คุณเจี๊ยบ ระบุ

นอกจากรสชาติที่แตกต่างแล้ว ยังมีจุดเด่นเรื่องปริมาณของผงชูรสที่มีน้อยกว่าคู่แข่งในตลาดถึง 4 เท่า ไม่ใช้วัตถุกันเสีย และสารปรุงแต่ง อีกทั้งวัตถุดิบที่เลือกใช้ยังได้มาจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพภายในประเทศ

ในส่วนมาตรฐานอาหาร แน่นอนว่าได้รับมาตรฐานการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เครื่องหมายอาหารและยา หรือ อย.) และสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (เครื่องหมายฮาลาล) อย่างถูกต้องครบถ้วน ที่สำคัญเมื่อไม่นานมานี้ยังได้รับมาตรฐานสินค้า OTOP ประจำจังหวัดสระบุรีมาหมาดๆ และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

 

เน้นตลาดล่าง ตจว.

ค่อยๆ แทรกซึมให้คนรู้จัก

เมื่อได้มาตรฐานอาหารถูกต้องครบถ้วน เรื่องสำคัญที่ต้องทำต่อคือ การหาตลาด คุณต้อม เล่าว่า เรื่องการขายและการตลาดเป็นสองความท้าทายที่สำคัญ แต่สุดท้ายก็หาวิธีจนเจอคือ การใช้วิธีเจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่าง โดยค่อยๆ ให้ทีมขายนำสินค้าเข้าไปแทรกซึมให้คนทั่วไปรู้จักก่อน

จนในที่สุดซอสผงปรุงรสใบบุญ สามารถวางจำหน่ายได้ในห้างสรรพสินค้าระดับท้องถิ่น และร้านค้าส่ง ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในเขตภาคกลาง นอกจากนี้ยังมีการส่งขายไปยังต่างประเทศได้แก่ ประเทศพม่า และกำลังเตรียมการเจรจากับคู่ค้าจากประเทศอินเดียอีกในอนาคต

“พอเป็นแบรนด์ใหม่หลายคนไม่กล้าเปิดใจ อย่างคนพม่าเขากล้าเปิดใจ ลองแล้วชอบก็ไปต่อได้ ตอนแรกที่คิดทำเรามองตลาดนะว่ามีทิศทางยังไง เห็นแล้วว่าจะทำอาหารแต่ละครั้งยุ่งยาก หลายขั้นตอน เราเลยทำสินค้าให้เหมือนผงวิเศษที่ทำได้ทุกอย่าง” คุณต้อม พูดเสริม

ส่วนการจำหน่ายในกรุงเทพฯ คุณต้อม บอกว่า จะค่อยๆ นำเสนอสินค้าให้คนรู้จักก่อนประมาณ 4-5 เดือน ตามตลาดสดและร้านค้าปลีก จากนั้นค่อยดำเนินการตามแผนเข้ากลุ่มมินิมาร์ทต่อไป

ด้วยช่องทางการจำหน่ายทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ซอสผงปรุงรสใบบุญเติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะเวลาแค่ 3 เดือนกว่า ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีด้วยกำลังผลิต 300 ตันต่อเดือน (โดยเฉลี่ย 10 ตันต่อวัน) และในอนาคตอันใกล้นี้ทางคุณต้อมและคุณเจี๊ยบกำลังเร่งขยายโรงงานใหม่บนเนื้อที่ 5 ไร่ 2 อาคารการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งมีกำลังการผลิตมากกว่าที่เก่าถึง 860 ตัน ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติทั้งหมด

ในช่วงท้ายก่อนจาก คุณต้อมและคุณเจี๊ยบทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจถึงแนวคิดการผลักดันตัวเองจนมาถึงจุดนี้

“เราไม่ได้เติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ไม่ได้โตมาจากครอบครัวอุตสาหกรรม แต่เราทั้งคู่โตมากับครอบครัวข้าราชการ เริ่มจากไม่มีอะไร เราเริ่มเรียนรู้ว่า สิ่งที่สินค้าของคนไทยขาดในสมัยก่อนคือ คุณภาพ จึงอยากทำทุกอย่างออกมาให้ดี ถ้าเราทำดีแล้วจะไม่มีใครมาว่าเราได้”

ก่อนบอกต่อว่า “ตนชอบอ่านหนังสือเรื่องราวชีวิตของคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวได้ มีประโยคหนึ่งชอบมาก เราไม่ได้เกิดในตระกูลเศรษฐี แต่เราสามารถเป็นต้นตระกูลที่เป็นเศรษฐีได้ ทำอย่างไรก็ได้ให้เรามีความอยากและกระหายที่จะมีมัน คำว่า ‘โอกาส’ เขียนเหมือนกัน เพียงแต่เราจะใส่คำว่า รอ หรือคำว่า หา เข้าไป” คุณต้อม ปิดบทสนทนาไว้อย่างน่าประทับใจ

สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เอสทูเค ฟู้ดส์ จำกัด
เลขที่ 34/4 หมู่ที่ 3 ตำบลโคกสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี 18000
เบอร์โทรศัพท์ 036-731-495 เบอร์โทรสาร 036-731-496 เบอร์มือถือ 06-3535-3965
เว็บไซต์ www.s2kfoods.com