ชีวิตพ่อค้าเร่! ขายสารพัดของพื้นบ้าน ตะลิงปลิงยันหินขัดขี้ไคล ได้วันละพันดีใจแล้ว

ถ้าผมไม่ไปต่างจังหวัด ผมชอบไปที่ชอบๆ ที่ชอบของผมคือศูนย์การค้าอิมพีเรียล สำโรง

เหตุที่ผมชอบศูนย์การค้าแห่งนี้ก็เพราะอยู่ใกล้บ้าน นั่งรถจากบ้านใช้เวลาประมาณ 10 นาที (ถ้ารถไม่ติด) ก็สามารถไปนั่งจิบกาแฟได้แล้ว ทั้งสะดวกสบาย เพราะในศูนย์การค้ามีทุกอย่างให้ผมใช้บริการ

มีคนใช้ศูนย์การค้าเป็นที่ประกอบอาชีพมากเป็นร้อยเป็นพัน มีมากเหลือเกิน มีทั้งคนขายของกิน ของใช้ เสื้อผ้า หมอนวดแผนไทย รับพิมพ์นามบัตร และอื่นๆ แม้การประกอบอาชีพเช่าพระเครื่องก็มี

ไม่น่าเชื่อว่า การเช่าพระเครื่องมีเงินสะพัดวันละเป็นล้าน ถึงเวลาช่วงจังหวะดีๆ ผมจะนำมาเขียน สำหรับวันนี้ขอเขียนถึงพ่อค้าขายของเล็กๆ ได้วันละพันบาทก็ดีใจแล้ว

พ่อค้าขายของที่ว่านี้เรียกชื่อให้ตรงกับสินค้าที่ขายค่อนข้างยากว่าเป็นพ่อค้าขายอะไร เพราะสินค้ามีดังต่อไปนี้

สารพัดของพื้นบ้าน

ประเภทกินได้ก็มี มะขามป้อม มะขามเปียก พุทราไทยลูกเล็กๆ  มะดัน ตะลิงปลิง กระท้อน มะม่วง สมอ มะม่วงหาวมะนาวโห่ บอระเพ็ด มะตูมแห้ง ข่า มะเฟือง องุ่นดอง มะกอกน้ำ รางจืด และที่ผมไม่รู้จักชื่ออีกหลายอย่าง

นอกจากนี้ก็มีของขายสำหรับใช้เพราะกินไม่ได้ เช่น ดินสอพอง ฝอยบวบสำหรับขัดตัว หนังสติ๊กสำหรับยิงนกยิงหนูหรือยิงอะไรก็ได้ และหินขัดตัวหรือขี้ไคล แล้วยังมีจำพวกยาดมแก้หวัด ยาทาแก้เมื่อยที่อยู่ในตลับ

ที่ใส่อยู่ในถุงพลาสติกอาจเป็นแป้งพม่าก็ได้ เพราะเห็นคนงานพม่ามาซื้อหลายคน

สำหรับมะม่วง คนขายจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถุงพลาสติกพร้อมพริกเกลือไว้ขายเป็นถุงๆ

ส่วนกระท้อนนั้นมีทั้งที่ขายเป็นลูกสดๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไร และที่เป็นกระท้อนทรงเครื่องก็มี

แผงขายที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ในตัวศูนย์การค้า แต่ตั้งอยู่ด้านหน้าใต้บันไดสะพานลอยข้ามถนน จึงมีลูกค้าทั้งคนเดินบนทางเท้าและที่มาเที่ยวศูนย์การค้า

เท่าที่ผมยืนสังเกต ขายได้พอสมควร จะมีคนมาซื้อเป็นระยะๆ ติดต่อกัน คนขายแทบไม่ต้องนั่งรอหรือนั่งหลับเหมือนขายสินค้าบางชนิด

มะม่วงที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ จิ้มพริกเกลือน่าจะขายดีที่สุด

มะขามเปรี้ยว- มะขามป้อม

ผู้เข้ามาซื้อเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงชอบของเปรี้ยวโดยไม่จำเป็นต้องแพ้ท้อง

หญิงบางคนซื้อตะลิงปลิงกินกับพริกเกลือก็มี และบางคนซื้อมะขามป้อม

สำหรับมะขามป้อม สมัยที่ผมยังเป็นเด็กอยู่ต่างจังหวัด ผมก็เคยกิน กินแล้วชุ่มคอดีเหลือเกิน

น้ำมะขามป้อมช่วยเรื่องถ่ายท้องดีนักแล ในท้องตลาดมีขายเป็นขวดๆ แต่สำหรับที่แผงแห่งนี้ขายเป็นลูก

ใกล้ๆ ตรงนั้นมีรถแท็กซี่จอดอยู่เป็นแถวหลายคันเพื่อรอรับผู้โดยสารที่ออกจากศูนย์การค้า

มีคนขับคนหนึ่งเข้ามาซื้อตะลิงปลิงกับพริกเกลือ เขาบอกว่า เดิมเวลาง่วงกินกาแฟเอาไม่อยู่ แต่พอหันมากินตะลิงปลิงได้ผล หายง่วงทันที

“พอหายง่วงทำให้ขยันทำงาน ดีกว่าเคี้ยวกระท่อม”

ที่ว่านี้ คนขับแท็กซี่ไม่ได้พูด ผมพูดเอง เพราะมีความรู้สึกได้ว่าความเปรี้ยวของผลไม้ทุกชนิดแก้ง่วงได้

คนขายบอกว่า บางคนมาซื้อบอระเพ็ดไปต้มให้ไก่ชนกินก็มี กินแล้วไก่ไม่เป็นหวัด

ผมอยากคุยกับคนขายนานๆ ผมจึงได้อุดหนุนด้วยการซื้อกระท้อนทรงเครื่องมาลูกหนึ่งราคา 15 บาท แล้วซื้อมะม่วงหาวมะนาวโห่มาถุงหนึ่ง 20 บาท

บอระเพ็ด ก็มีขาย

กระท้อนทรงเครื่องนั้น ผมเคยกินมาก่อนจึงไม่มีปัญหา แต่มะม่วงหาวมะนาวโห่ ซึ่งเป็นลูกเล็กๆ สีแดงปนเหลืองและขาวนั้นผมไม่เคยกินมาก่อนและไม่เคยรู้มาว่าเป็นผลไม้ที่กินแล้วมีรสอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง

คนขายได้แนะนำให้ซื้อไปกิน ผมจึงซื้อ

“ให้กินเช้า 7 ลูก เย็น 7 ลูก วันละ 14 ลูก” คนขายว่า ก่อนพูดต่อ

“รสชาติจะเปรี้ยวจัด ถึงต้องกินกับพริกเกลือ หรือจะใช้เครื่องปั่นให้เป็นน้ำแล้วหลับหูหลับตาดื่ม ก็ได้เช่นกัน”

คนขายยังบอกสรรพคุณของมะม่วงหาวมะนาวโห่ต่อว่า ช่วยบำรุงร่างกาย ชะลอความแก่อย่างได้ผล

“ก่อนนี้ คนนิยมกินกันในวงแคบๆ ทว่าในปัจจุบันนิยมกว้างขวางยิ่งขึ้นเรื่อยๆ” คนขายบอก

ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ซื้อไปกิน เพราะการกินผลไม้ ไม่ว่าชนิดใดมีประโยชน์ทั้งนั้น มากหรือน้อยเท่านั้น

คนขายซึ่งผมมารู้ตอนหลังก่อนกลับออกมาว่าชื่อ สมชาย วงษ์เมือง อายุ 46 ปี มีเมีย 1 คน ลูก 2 คน

สมชายเป็นคนสุรินทร์โดยกำเนิด หลังจากเรียนจบ ป.6 ก็ตระเวนทำมาหากินหลายอย่างมาก ทำทุกอย่างที่ได้เงินและไม่ผิดกฎหมาย เคยไปทำงานอยู่บาร์เบียร์ที่ภูเก็ตหลายปี

เคยทำงานเป็นลูกมือช่างก่อสร้าง เป็นช่างทอง เป็นผู้ช่วยพ่อครัวร้านอาหาร เป็นลูกจ้างขายของร้านชำ และขับรถรับจ้างส่งของ

ตอนเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ก็รับจ้างทำทุกอย่างที่ได้เงิน ขณะเดียวกันก็พยายามหาช่องทางทำมาหากิน

สุดท้ายก็มาเป็นพ่อค้าขายของตามที่เห็นนี้แหละ ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการขายของแบบนี้ควรเรียกรวมๆ ว่าอย่างไร จะว่าขายของไทยโบราณก็ไม่น่าจะใช่ ผมจึงถือโอกาสตั้งชื่อให้ว่า ขายของพื้นบ้าน

หนังสติ๊ก บวบขัดตัว ก็มา

ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ แต่ผมเห็นด้วย จึงนำมาตั้งเป็นชื่อข้อเขียนของผมในฉบับนี้

เมื่อผมถามว่า เขาไปหาซื้อของมาขายจากที่ไหน เขาหยุดคิดนิดหนึ่งตอบว่า หาซื้อตามตลาดหลายแห่ง เพราะแต่ละแห่งมีเป็นบางอย่างให้ซื้อได้เท่านั้น มีของที่ต้องการไม่ครบ ว่างั้นเถอะ

เมื่อซื้อมาแล้ว บางอย่างก็ต้องมาทำเอง เช่น ขมิ้นผงซึ่งคนที่ซื้อนิยมซื้อไปทำอาหารและทาตัว อ้อ! ยังมีขมิ้นชันอีกอย่าง อย่างหลังนี้คนจะซื้อไปกิน

สมชาย บอกว่า คงจะประกอบอาชีพนี้ต่อไปเพราะอยู่ได้สบายไม่เดือดร้อน ถ้าจะเดือดร้อนก็ตรงที่ถูกเทศกิจไล่ไม่ให้ขาย เพราะตรงที่เขาตั้งแผงขายอยู่นั้นอยู่ในที่สาธารณะ

หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่