ลาแล้ว “เขาดิน” พ่อค้า-แม่ขาย เศร้า ย้ายที่หาแหล่งขายใหม่

“เขาดินจะปิดแล้วนะ” เชื่อว่าเมื่อได้ยินกันครั้งแรก ทุกคนต่างก็พากันใจหายไปตามๆ กัน เพราะ “สวนสัตว์ดุสิต” หรือ “เขาดิน” นั้นเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดทำการตั้งแต่ปี 2481 มาจนถึงปัจจุบันรวม 80 ปี และเมื่อมีประกาศอย่างเป็นทางการ จากทางสวนสัตว์ดุสิตออกมา ในวันที่ 14 ส.ค. ก็ทำให้ในวันต่อๆ มาประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทราบข่าว ต่างก็มาเที่ยวชมสวนสัตว์ดุสิตเพื่อเป็นการอำลาครั้งสุดท้ายก่อนปิดตัวลงในวันที่ 1 ต.ค.นี้

สำหรับบรรยากาศช่วงเวลาก่อนปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ สวนสัตว์ดุสิตคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัย จากทั่วสารทิศ ทั้งเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น คนหนุ่มสาว บ้างก็ขนกันมาเป็นครอบครัว ผู้คนเหล่านี้ส่วนใหญ่บอกตรงกัน เคยมาเที่ยวที่เขาดินแล้วและเกืดความผูกพัน รวมถึงมีความทรงจำดีๆ มากมายเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้

 

ถึงแม้จะมีประชาชนมาเยี่ยมชมกันอย่างหนาแน่น แต่ร้านขายของด้านใน กลับหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่เจ้า ส่วนใหญ่เหลือไว้แต่ร้านว่างๆ ราวกับจะบอกให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาได้รับรู้ว่า เมื่อก่อน เคยมีร้านแห่งนี้ขายของอยู่ในสวนสัตว์ด้วย

 

และก็ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้นที่รู้สึก “ใจหาย” คนทำมาหากินในพื้นที่แห่งนี้มาอย่างยาวนาน อย่าง “พ่อค้า-แม่ขาย” ทั้งด้านในและนอกเขาดิน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งเศร้าและใจหาย เสียดาย “ทำเล” ทำมาหากิน

คุณกันยา แก้วมณี อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอนุสรณ์ กิจการรับถ่ายภาพที่ระลึกในเขาดิน เล่าให้ “เส้นทางเศรษฐี” ฟังด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ว่า  ร้านของตน เปิดมาได้ 40 ปีแล้วตั้งแต่สมัยภาพถ่ายยังเป็นภาพขาวดำ รายได้มีมาเรื่อยๆ อยู่ที่จังหวะของลูกค้า ถ้าเข้าเรื่อยๆ ก็พอได้อยู่

“ตอนที่เขาดินบอกจะปิด เราได้รับผลกระทบเหมือนกัน คือ ต้องไปทำธุรกิจอย่างอื่นแทน เพราะสมัยนี้การรับจ้างถ่ายรูปกว่าจะมีคนจ้างไม่ใช่เรื่องง่าย รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะที่ต้องปิดตามสวนสัตว์ไป เพราะเราก็ทำร้านนี้มาตั้งแต่สมัยสาวๆ มันก็ย่อมต้องผูกพันเป็นธรรมดา”  คุณกันยา กล่าวด้วยสีหน้าใจหาย

ด้านพ่อค้าขายไอติมกะทิรถเข็น ที่ขายอยู่ด้านนอก ให้สัมภาษณ์ว่า ขายของด้านนอกของสวนสัตว์มาได้หลายปีแล้ว รายได้เฉลี่ยที่ได้จากการขายตรงนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงเทศกาลสำคัญอย่าง วันแม่ ที่ผ่านมา ขายดีมาก รายได้จะมากกว่าวันอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาท

“ผมมีขายประจำอยู่บ้าง เลยได้รับผลกระทบน้อยกว่าคนอื่น เมื่อเขาดินปิดก็ไปขายที่อื่น แถวๆ นี้อย่าง บางลำพู หรือ วัดเบญจมบพิตร แต่รายได้คงไม่เหมือนเมื่อก่อนตอนที่ขายที่เขาดิน” พ่อค้ารายนี้ บอกอย่างนั้น