คุณปลา-กัญภร สุขารมย์ เจ้าของกิจการร้านดอกไม้ปาหนัน อำเภอเมือง จังหวัดตาก  ให้สัมภาษณ์ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ถึงบรรยากาศการค้าขาย “พวงมาลัยมะลิ” รับเทศกาลวันแม่ในปีนี้ว่า ตามปกติพ่อค้าแม่ขายดอกไม้สดในพื้นที่จังหวัดตากส่วนใหญ่ จะรับมะลิสดมาจากเกษตรกรผู้ปลูกในจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีพ่อค้าคนกลาง ไปรวบรวมมะลิจากตามบ้านมาขายให้อีกต่อ โดยนอกจากจะมี “มะลิดอก” มาขายแล้ว ยังมีมะลิร้อยเป็นเส้นๆขายส่งมาด้วย

คุณปลา ให้ข้อมูลอีกว่า ตามปกติ มะลิ จะออกดอกมากช่วงหน้าร้อนประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งช่วงนั้นราคาจะไม่แพง มะลิดอก  ราคากิโลฯละประมาณ  150-200 บาท ซึ่งพอถึงเดือนสิงหาฯ จึงไม่ใช้หน้าของมัน ประกอบกับเดือนนี้ มีเทศกาล “วันแม่” ความต้องการซื้อมีมากเป็นพิเศษ ราคาดอกมะลิจึงแพสูงเป็นพิเศษ

ล่าสุดเมื่อวันก่อน พ่อค้าคนกลาง ที่จะนำ มะลิ มาขายส่งให้  บอกปีนี้ “มะลิดดอก”กิโลกรัมละพันกว่าบาท แต่กว่าเท่าไหร่นั้น ตนไม่ได้ถาม  เพราะพอได้ยินราคาขึ้นไปถึงหลักพันก็ไม่เอาแล้ว

“ปกติที่ร้านจะสั่งมะลิมาร้อยมาลัยขายวันแม่ทุกปี แต่ปีนี้ไม่สั่งเลย เพราะคิดว่าน่าจะขายยากและต้องคอยอธิบายกับลูกค้าว่าทำไมพวงหนึ่งถึงต้องขายแพงนัก เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มะลิดอก กิโลฯละ 300 บาท มะลิแบบเดียวกันเปี๊ยบ เพียงแต่พอถึงเทศกาลที่ใครๆก็ต้องการ เลยบอกไม่เอาแล้ว ขอใช้ดอกพุดแทน ลูกค้าจะได้ซื้อได้ด้วย”คุณปลา ว่ามาอย่างนั้น

เจ้าของร้านดอกไม้ ท่านเดิมบอกด้วยว่า  ช่วงเทศกาล ร้านดอกไม้แทบทุกแห่ง จะขายดีเป็นพิเศษ และทุกปีที่ร้านของเธอ มีมาลัยมะลิขายตลอด แต่มาปีนี้นั่นแหละ ที่ไม่กล้าสู้ราคา เพราะแพงมากจนแบกต้นทุนไม่ไหว อย่างล่าสุด พวงมาลัยมะลิไหว้พระแบบธรรมดา ราคาต้นทุนพวงละ 120 บาท ถ้าขายจริงๆต้องบวกค่าแรงเข้าไปอีก คงขายยาก เลยเปลี่ยนมาเป็นดอกพุด ที่ราคายืนพื้น อยู่ที่กิโลฯละ 150-200 บาท ไม่ขึ้นๆลงๆเหมือนมะลิ

“ถึงแม้ไม่มีมาลัยมะลิสด  เราก็มีสินค้าอื่นทดแทน อย่าง อย่างช่อดอกไม้ใช้สัญลักษณ์ โบว์สีฟ้าติด แทน ให้ลูกค้าซื้อไปมอบให้คุณแม่  เพราะถ้าทำมาลัยมะลิขาย แล้วต้นทุนมันสูงมาก โอกาสที่จะขาดทุนมันก็เยอะ กำลังซื้อคนไม่ได้เยอะ เศรษฐกิจไม่ดีมาสองสามปีแล้ว หากแพงโดดเว่อร์ โอกาสขายมันยาก”คุณปลา กล่าว