วัยรุ่น 18 ทางแยกอันตราย! แต่กลับตัวได้ หาเงินเลี้ยงครอบครัวด้วย “ฝีมือ+รองเท้าแตะ”

เดียว-สิทธิศักดิ์ ตนานุสรณ์ เจ้าของผลงาน “รองเท้าแตะแกะลาย” วัย 24 ปี พื้นเพเป็นคนพัทลุง เรียนจบชั้นม.3  จากโรงเรียนสตรีพัทลุง และไม่ได้เรียนต่อ เพราะเคยมีพฤติกรรมเกเร กระทั่งได้รับโทษ ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตั้งแต่อายุ 18 ปี

ระหว่างที่ต้องขังเป็นเวลา 3 ปี หลังจากต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เขามักใช้เวลาว่างช่วงพักเที่ยงและวันเสาร์-อาทิตย์ ไปฝึกฝนวิชาแกะลายรองเท้าแตะ จาก “พี่เขียว คนตรัง” ด้วยเหตุผล อยากหาสตางค์ไปซื้อขนมกิน

“ตอนอยู่ในเรือนจำ ที่บ้านไม่ค่อยมีตังค์ส่งเสียให้ พอเห็นเพื่อนนักโทษคนอื่น มีญาติฝากตังค์มาให้ซื้อขนมกิน รู้สึกอยากกินขนมแบบเขาบ้าง เลยคิดว่า ถ้าทำเป็น ทำเก่ง เหมือนพี่เขียว อาจหากินได้ ไม่ต้องรอเงินจากพ่อแม่” เดียว เล่าความหลัง

เดียว-สิทธิศักดิ์ ตนานุสรณ์ เจ้าของผลงาน “รองเท้าแตะแกะลาย”

ลงทุนด้วยเงิน 200 กว่าบาท ซื้อรองเท้าแตะยี่ห้อนันยาง มาได้ 2 คู่ พร้อมใบมีดโกนหนวด ใช้เวลาฝึกฝนวิชาดีจากพี่เขียว อยู่เดือนกว่า สามารถรับงานจากเพื่อนๆ ได้ทันที ทำให้ตลอด 3 ปี ที่อยู่ในเรือนจำ ได้ฝึกปรือวิชาแกะลายรองเท้าแตะ มาแล้วอย่างเชี่ยวชาญ

เดียว เล่าต่อ ราว 2 ปีก่อน หลังพ้นโทษ เคยไปสมัครงานกับร้านค้าละแวกบ้าน เพราะต้องการประกอบอาชีพสุจริตเหมือนคนทั่วไป แต่ไม่มีใครรับ อาจเพราะมีอคติว่าคนอย่างเขาเคย “ผ่านคุก ผ่านตะราง” มาก่อน ทำให้รู้สึกน้อยใจ เหตุใดไม่มีใครให้โอกาสบ้างจึงนำความทุกข์ในครั้งนั้น ไปปรึกษาพ่อ ก่อนขอเงิน 200 บาท นำไปซื้อรองเท้าแตะมาแกะลายให้พ่อดู

“ผมบอกพ่อว่ามีวิชาแกะรองเท้าแตะที่ได้มาจากในคุก แต่ไม่แน่ใจฝีมือตัวเองว่าจะมีคนชอบ เลยขอตังค์ไปซื้อรองเท้า 2 คู่มาแกะให้ดู พ่อเห็นแล้วชมว่าสวยดี ก่อนบอกให้ทยอยทำเก็บสะสมไปเรื่อยๆ พอได้ประมาณ 20-30 คู่แล้วจะพาไปตั้งขายตามตลาดนัด” เดียว ย้อนถึงแผนการตลาดที่พ่อของเขาวางไว้ในเบื้องต้น

ระหว่างสะสมผลงานไว้ตามคำแนะนำ คุณหิรัณย์-พ่อของเดียว เกิดปิ๊งไอเดีย ใช้เทคโนโลยีสื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ ถ่ายรูปรองเท้าแตะแกะลายสารพัดของลูกชาย และนำไปอัพขึ้นเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมประชาสัมพันธ์ใครอยากได้ลายไหน สั่งมาได้ ซึ่งนับเป็นเหตุตั้งต้นของทุกวันนี้

“พอพ่อถ่ายรูปรองเท้าแตะแกะลายของผม โพสต์ลงเฟซ ภายในคืนเดียวคนเข้ามาไลก์เป็นหมื่น ตกใจหมดเลย ทำไมเขาชอบกันจัง เพราะเท่าที่ดูไม่ใช่ผมคนเดียวที่ทำงานแบบนี้ มีคนโพสต์ขายกันมานานแล้ว ไม่ใช่ของใหม่อะไร” เดียว เล่าเสียงซื่อ

ก่อนบอก นับแต่นั้นออร์เดอร์มีเข้ามาแทบทุกวัน ทำส่งขายไปแล้วนับพันคู่ และยังไม่เคยนำไปวางขายตามตลาดนัด อย่างที่พ่อของเขาตั้งใจไว้ในตอนแรก

ถามถึงภารกิจตามออร์เดอร์ทุกวันนี้ เดียว เผย ถ้างานตามปกติ จะเริ่มลงมือแกะลายตั้งแต่ 8 โมงเช้า ไปจนถึงเที่ยงคืน ได้ชิ้นงานออกมาประมาณ 4-5 คู่ แต่ถ้าช่วงไหนลูกค้าเร่งมาก ต้องแกะลายให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 10 คู่ เคยตื่น 6 โมงเช้าแกะจนถึงตี 3 พอ 6 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้นก็ตื่นขึ้นมาแกะต่อ ช่วงนั้นได้นอนแค่วันละ 3 ชั่วโมง

“งานนี้ผมทำคนเดียว เป็นแฮนด์เมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีเครื่องจักรอะไร ใช้แค่ใบมีดโกนหนวด มาหักให้มุม 45 องศา และไม้ไผ่ 1 แท่งเสียบเป็นด้ามจับแค่นั้น” เดียว บอกและว่า ส่วนคุณพ่อของเขา ช่วยทำหน้าที่รับออร์เดอร์ จัดคิว และส่งของให้ลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคุณพ่อของเขาเคยโพสต์ไว้ ราคาขายคู่ละ 300 บาท พร้อมค่าจัดส่งอีเอ็มเอส ซึ่งหากเป็นลูกค้าในเขตภาคใต้ กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ยังพอมีกำไร แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่มาไกลกว่านั้น อย่าง ภาคเหนือ อาจต้องขอค่าส่งเพิ่ม แต่ถ้าลูกค้าไม่เต็มใจจ่าย เพราะยืนยันว่าเคยโพสต์ไว้อย่างนั้น ก็ไม่ว่ากัน

ถามถึงผลตอบรับ เจ้าของเรื่อง เล่า ตัวเขาถนัดแกะลวดลายดอกไม้เป็นพิเศษ ขณะที่ความต้องการของลูกค้ามีหลากหลาย อยากได้ลายนกยูง ลายปลา ลายมังกร หรือแม้แต่ลายการ์ตูน เขาก็ทำให้ได้ แต่จะเพิ่มความระมัดระวังเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ไว้แล้วด้วย

“ลูกค้าบางคนสั่งไปใส่เอง หลายคนสั่งไปเป็นของขวัญ พอรับไปแล้วเฟซกลับมาบอกเอาใส่ตู้โชว์ ไม่อยากใส่เพราะเสียดาย” เดียว เล่า ก่อนยิ้มกว้าง

ก่อนหน้านี้ เรื่องราวของเดียว เคยถูกนำเสนอแล้วในหลายสื่อ ทำให้มีคนรู้จักมากขึ้นและอยากมีวิชาแบบเขาบ้าง เมื่อไม่นานมานี้ จึงมีหนุ่ม-สาว จำนวนหนึ่ง จากจังหวัดต่างๆ อย่าง พระนครศรีอยุธยา สุราษฎร์ธานี ติดต่อขอสมัครเข้ามาเรียนการแกะลายรองเท้าแตะจากเขา

ทำให้ปัจจุบัน นอกจากจะรับงานตามปกติแล้ว เดียวยังต้องรับบท “อาจารย์” อีกหน้าที่หนึ่ง

“สอนให้ทุกเทคนิค สอนหมดหน้าตักไม่มีอะไรกั๊ก อยากทำเป็น ต้องเรียนรู้ 4-5 วัน แต่ถ้าจะให้เก่ง ต้องฝึกฝน และใช้เวลามากกว่านั้น และไม่คิดค่าสอนสักบาทเดียว ให้เป็นวิทยาทาน เพราะผมได้มาฟรี เชื่อว่าคนที่ได้วิชานี้ไปจะมีงานทำ มีอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้เหมือนกับผม” เดียว บอกจริงจัง

ก่อนทิ้งท้ายแบบหล่อๆ

“สังคมเปิดโอกาสให้ผมพิสูจน์ตัวเองแล้ว ที่ผ่านมาผมเคยเกเร สำมะเลเทเมา ไม่ใช่คนดีของสังคม แต่ตอนนี้ขอกลับตัวใหม่ พลิกชีวิตไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย นับจากนี้จะไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร ผมก็อยากให้โอกาสกับคนอื่นบ้าง”

อยากรู้จักเจ้าของผลงาน “รองเท้าแตะแกะลาย” ท่านนี้ให้มากขึ้น  ติดตามเขาได้ที่ Facebook/เดียว ไม้เลื้อยเท้าแตะแกะลาย