หนุ่มป.โทเมืองเพชร ครีเอตขนมหวานไซซ์มินิ เจาะกลุ่มต่างชาติ-คนรักสุขภาพ

“มดดิ๊” ชื่อยี่ห้อขนมหวานจากเมืองเพชร อย่าง อาลัว กลีบลำดวน ขนมผิง วุ้นกรอบ บรรจุอยู่ในแพ็กเกจพอดีคำ ดูสวยงามแปลกตา อยู่ภายใต้การดูแลของ คุณณัฐดนัย รุจิรา

เจ้าของผลิตภัณฑ์ ย้อนประวัติความเป็นมาส่วนตัวให้ฟังพอสังเขป พื้นเพเป็นคนเพชรบุรี อายุสี่สิบเศษ จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร ปริญญาโทด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เคยประจำ อยู่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในโรงงานอาหารทะเลแช่แข็งแห่งหนึ่งในจังหวัดบ้านเกิด  ระหว่างทำงานประจำ เคยนำของเหลือจากโรงงานมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในระดับหนึ่ง จึงเกิดความคิด น่าจะนำวิชาที่ร่ำเรียน มาสร้างหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ในแบบของตัวเองดูบ้าง

“เมืองเพชรมีชื่อเสียงเรื่องขนมหวาน  แต่ข้อด้อย คือ ขนมแทบทุกชนิดอายุสั้น เก็บไว้ได้ไม่กี่วัน ถ้าสามารถพัฒนาขนมเหล่านี้ให้เก็บได้นานขึ้น น่าจะขยายตลาดได้กว้างขวางขึ้น เช่น ส่งออกไปขายต่างประเทศ” คุณณัฐดนัย เผยให้ฟังถึงจุดเริ่มของธุรกิจส่วนตัว

เมื่อเกิดแนวคิดดังว่า จึงเดินหน้าต่อด้วยการมองหาขนม “ตัวต้นแบบ” ที่จะนำมาทำการทดลองยืดอายุการจะเก็บให้ยาวนานกว่าปกติ กระทั่งมาลงตัวที่ขนมไทยโบร่ำโบราณ  มีชื่อเรียกขานว่า “อาลัว” ซึ่งตามธรรมดาจะเก็บไว้ได้ไม่เกิน 15 วัน

คุณณัฐดนัย ใช้วิชาความรู้ ค้นคว้าทดลองปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตขนมอาลัว โดยผสมผสานกระบวนการถนอมอาหารหลายวิธีเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งขอสงวนไว้เป็นความลับ จนสามารถได้สัดส่วนที่ลงตัว และเก็บไว้ได้นานกว่าเดิมหลายเท่าตัว แต่ยังคงความอร่อยไว้ได้เหมือนสูตรดั้งเดิม

“การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ไม่ใช่นึกอยากจะใส่อะไรลงไปก็ได้ ต้องมาจากการเรียนรู้และทำซ้ำหลายครั้ง  ซึ่งผมใช้เวลาเกือบปีต่อการพัฒนาขนมหนึ่งตัว ส่วนเงินลงทุนในการลองผิดลองถูก ตัวหนึ่ง ไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นบาท กว่าจะสำเร็จ” เจ้าของเรื่องราว ท่านเดิม บอกอย่างนั้น

 เมื่อสามารถผลิตขนมไทยที่มี “อายุ” ยาวนานกว่าทั่วไปแล้ว จึงลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในการผลิตโดยเฉพาะ จากนั้นคุณณัฐดนัยจึงมองหา “ตลาด” ที่พร้อมรองรับผลิตภัณฑ์ในแบบของเขา

“ลูกค้าเป้าหมายจะอยู่ในตลาดต่างประเทศ  เพราะต้นทุนการผลิตขนมไทยที่เก็บไว้ได้นานอย่างนี้ จะสูงกว่าปกติ ส่วนรูปทรงที่เล็กพอดีคำ มาจากเหตุผล ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใส่ใจสุขภาพ อาจไม่อยากทานขนมหวานครั้งละมากๆ หากมีขนมพอดีคำคงเหมาะกว่า” คุณณัฐดนัย เผย

วางลูกค้าเป้าหมายไว้ที่ชาวต่างชาติค่อนข้างมีกำลังซื้อ ขนมไทยในแบบของเขา จึงควรอยู่บนเชลฟ์ในห้างไทยเกรดบีบวกเสียก่อนค่อยแทรกซึมไปตลาดต่างประเทศ สรุปได้ดังนั้น คุณณัฐดนัยจึงเดินหน้านำสินค้านำเสนอให้หลายห้าง ปรากฏได้รับความสนใจไม่น้อย

“ขนมของผม มีจุดแข็งในเรื่องของอายุการเก็บรักษา ซึ่งยังไม่มีใครทำได้เท่า นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดแข็ง คือ ทำออกมาเป็นชิ้นเล็ก ฉะนั้นทานได้ครั้งละนิดหน่อย ไม่ต้องเปิดถุงแล้วต้องทานให้หมด หรือจะฉีกทานในรถก็สะดวก” คุณณัฐดนัย บรรยายจุดเด่นของสินค้า

นึกสงสัย ชาวต่างชาติ นิยมในรสชาติขนมไทยมีมากน้อยแค่ไหน คุณณัฐดนัย ไขข้อข้องใจให้ฟัง ที่ผ่านมาภาครัฐพยายามสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก จึงช่วยเสริมให้ขนมเพชรบุรี มีชื่อเสียงกว้างขวางขึ้นมาก

“ขนมไทยสามารถส่งขายได้ทั่วโลก ทุกวันนี้ทั้งคนจีน คนเวียดนาม ชอบมาก แต่ติดปัญหาอยู่ที่จะส่งไปขายให้เขาได้ยังไง โดยไม่เสียรส เสียรูป ขนมของผมออกมาเพื่อตอบโจทย์นี้” คุณณัฐดนัย ว่าให้ฟัง

ถามถึงที่มาชื่อแบรนด์ “มดดิ๊” เจ้าของเรื่องราว บอกสั้นๆ เขาชื่อเล่นว่า มด แล้วมดกับขนมมันเข้ากันดี จึงออกมาเป็นชื่อดังว่า

“กว่าจะผลิตสินค้านี้ออกมาได้ ไม่ง่ายเหมือนกัน แต่ให้กำลังใจตัวเองว่า เหล็กทั้งแท่งเขายังทำให้บินบนอากาศได้ แล้วเรื่องแค่นี้ทำไม คนไทยจะทำไม่ได้” คุณณัฐดนัย ทิ้งท้ายยิ้มๆ

อยากอุดหนุน “มดดิ๊” ขนมไทยสไตล์มินิ อาทิ  อาลัว กลีบลำดวน ขนมผิง วุ้นกรอบ ฯลฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณณัฐดนัย รุจิรา เลขที่ 584/12 หมู่ 4 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดเพขรบุรี 76000 อีเมล : [email protected] เว็บไซต์ www.moddiithai.com

 

ภาพประกอบ Facebook/ Moddii thailand