ยุคนี้ ธุรกิจขนส่ง น่าสนใจ เข้าถึงได้ไม่ยาก

ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า ในปี 2561 สถานการณ์โลจิสติกส์ของไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยจากการลงทุนภาครัฐและการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัว

ดังนั้น ธุรกิจนี้จึงน่าสนใจ

และเราจะสามารถเข้าไปสู่ธุรกิจนี้ได้อย่างไร

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน มีบริษัทขนส่งมากมาย วิ่งกันอยู่เต็มเมือง ด้วยการค้าขายทางออนไลน์ที่มากขึ้นด้วย

วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะแนะนำธุรกิจรับส่งสินค้า สายพันธุ์ไทย เพื่อคนไทย ที่ชื่อว่า ซุปเปอร์เอส โดยการนำทีมของ คุณศุภชัย นิลวานิช เจ้าของกิจการ

ก่อนที่จะไปสู่เรื่องราวของธุรกิจรับส่งสินค้า คุณศุภชัย ย้อนอดีตให้ฟังว่า

เมื่อราวปี 2550-2557 ซุปเปอร์เอส เติบโตมาจากการทำธุรกิจ ที่คุณศุภชัย จำกัดความเองว่า “สารพัดบริการ”

แนวคิดของธุรกิจนี้มีอยู่ว่า ใน 1 ชุมชน ที่มีบ้านเรือนคนประมาณ 1 พันหลังคาเรือน หรือเรียกว่า 1 ทำเล หากเราเปิด “สารพัดบริการ” เราจะสามารถทำเงินได้ 1 แสนบาทต่อเดือน

สารพัดบริการ ที่ว่านั้น ได้แก่ การเปิดให้มีตู้หยอดเหรียญ ตู้น้ำ เครื่องซักผ้า  ขณะเดียวกันก็ให้บริการ รับโอนเงิน เพียงแต่เปิดอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เพราะคุณศุภชัยมองว่า เมื่อก่อน แม้การเข้าไปใช้บริการในห้างสะดวกแต่ก็ยังต้องขับรถไป ดังนั้น หากมีบริการแบบนี้ในหมู่บ้าน ก็น่าจะสะดวกกว่า

ในช่วงเวลาดังกล่าว คุณศุภชัย ขายไอเดียนี้ออกไป ทั้งขายแฟรนไชส์ วางระบบให้ ปัจจุบันมีราว 200 สาขา หรือหากใครที่ไม่ต้องการซื้อแฟรนไชส์ ก็เอาไอเดียนี้ไปเปิดในชื่อของตัวเองได้ (ช่วงนั้น เขาคิดค่าอบรม การเข้าสู่ธุรกิจนี้คนละ 500 บาท คือบางคนอาจจะสงสัยว่า เขาขายไอเดียอย่างเดียว แล้วเขาได้อะไร ซึ่งราคานี้ นักธุรกิจรายย่อยก็ถูกใจ เข้ารับการอบรมกัน ได้ไอเดียไป จ่าย 500  ก็ถือว่า วิน-วิน แต่ถ้าใครจะซื้อแฟรนไชส์ ก็ไปคุยรายละเอียดกัน ถูกใจกันทั้งสองฝ่าย ก็ดีล)  ซึ่งรวมแล้ว ทั่วประเทศก็มีอยู่นับพันราย

จากศูนย์การเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ เข้ามาเรียนรู้ระบบ นอกจาก ที่สำนักงานใหญ่ ย่านสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี แล้ว ก็ยังมีศูนย์ที่สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี ทำให้คนต่างจังหวัดสะดวกมากขึ้นด้วย

จากนั้นราวปี 2557 คุณศุภชัยเข้ารับการอบรมที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หลักสูตรการพัฒนาระบบแฟรนไชส์  ได้เรียนรู้การวางระบบมากขึ้น ทำให้การขยายงานทางด้านแฟรนไชส์เป็นไปอย่างมืออาชีพ

“จากที่ผมทำแฟรนไชส์มา จนถึงตอนนี้ บอกได้เลย รอด 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ คือเค้าไม่เข้าใจในเรื่องการทำธุรกิจ  ในแต่ละเดือนเราจะออกไปประเมิน หากในจังหวัดไกลๆ ก็จะมีแบบประเมินตัวเอง ตั้งแต่หน้าร้าน ในร้าน พนักงานต้อนรับ ความพร้อม ตำแหน่งสินค้า  มีคะแนนเป็นช่องๆ  ดีมาก พอใช้ ต่ำ  ถ้าคุณประเมินแล้วได้คะแนน ช่องดีมาก เยอะ โอกาสที่คุณจะได้ เดือนละ 4-5 หมื่นขึ้นไป ก็เยอะ แต่ถ้าได้ช่องพอใช้ เยอะ โอกาสปิดตัวก็สูง” คุณศุภชัย ว่าอย่างนั้น

หลังจากดำเนินการด้านแฟรนไชส์มาพักใหญ่  แฟรนไชส์ของคุณศุภชัย ก็ได้รับการรับรองจากทางกระทรวงพาณิชย์ให้เป็น 1 ใน 38 มาตรฐานแฟรนไชส์ไทย

เมื่อได้มาตรฐานดังนี้  ทางธนาคารออมสิน  ก็ไปได้ข้อมูลมาจากทางกระทรวงพาณิชย์ และติดต่อมาทางคุณศุภชัย ที่จะยินดีร่วมมือด้วย

นั่นก็คือว่า ใครที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ซุปเปอร์เอส เซ็นเตอร์ สามารถกู้กับธนาคารออมสินได้ในวงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาท (ราคาแฟรนไชส์สูงสุดอยู่ที่ 4-5 แสนบาท)

แต่อย่างไรก็ตาม ทางคุณศุภชัย บอกว่า  ก็อาจจะต้องมีการคัดเลือกแฟรนไชส์อย่างเข้มงวด นั่นหมายความว่า ถ้าใครไม่มีคุณสมบัติ หรือคุณสมบัติไม่ผ่าน  ก็จะไม่สามารถขายแฟรนไชส์ให้ได้ เพราะดันทุรังไป ก็อาจจะพากันเจ๊ง อีกทั้งภาพลักษณ์ของบริษัทแม่ก็จะเสียไปด้วย

คุณสมบัติที่ว่าคืออะไร เป็นรายละเอียดทางด้านความรู้ความเข้าใจในการทำธุรกิจ การตลาด เช่น จบการศึกษาทางด้านนี้หรือไม่ หรือถ้าไม่จบทางสายนี้ มีคอนเน็กชั่น หรือพื้นฐานครอบครัวทำธุรกิจหรือไม่ เป็นต้น

ซึ่งเรื่องนี้เอาจริงๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องดี ที่บริษัทแม่ ต้องดูว่า จะไปรอดหรือไม่ ไม่ใช่คิดแต่จะขายแฟรนไชส์อย่างเดียว หากเป็นเช่นนั้นถึงวันหนึ่งก็พังกันหมด

นอกจากนี้ ปัจจุบัน ทางซุปเปอร์เอส ยังได้เป็นพันธมิตร อย่างเป็นทางการกับบริษัทไปรษณีย์ไทย ในการส่งสินค้า ทั้งรูปแบบบริการและราคาพิเศษ

นั่นคือ ทางสาขาของศูนย์ซุปเปอร์เอส ทั้ง 200 สาขา ทั่วประเทศ เป็นจุดส่งสินค้า drop off และกระจายถึงปลายทางและเช็กสถานภาพการส่งด้วย ระบบของไปรษณีย์ไทย  ซึ่งคุณศุภชัย มองว่า การขนส่งแบบนี้จะเป็นการขนส่ง สายพันธุ์ไทย เพื่อคนไทย

และประเด็นที่สำคัญคือ เขากำลังเล็งไปที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หากได้มีการร่วมมือกับทางซุปเปอร์เอส เช่น พ่อค้าแม่ค้า ผลิตสินค้า ขายสินค้าไป เมื่อรับออร์เดอร์แล้ว การขนส่งก็เป็นหน้าที่ของซุปเปอร์เอส  อาจจะมีโมเดลในลักษณะที่ว่า มีสินค้าทิ้งที่สาขาซุปเปอร์เอสเลย เมื่อได้แจ้งมา ก็ดำเนินการจัดส่งได้ทันที  แล้วทางผู้ประกอบการก็เข้ามาเช็กสต๊อกเป็นระยะๆ ไป เป็นต้น

และนี่คือภาพรวมธุรกิจ ที่กำลังมุ่งไปสู่ระบบการรับส่งสินค้า ที่นับวันจะยิ่งทวีความสำคัญ

ส่วนใครที่สนใจรูปแบบแฟรนไชส์ มี 3 ขนาดคือ

ไซซ์เอส ใช้เงินลงทุน 89,000 บาท รูปแบบนี้ ไม่ได้ใช้ชื่อซุปเปอร์เอส แต่ทางซุปเปอร์เอส วางระบบให้ทั้งหมด

ไซซ์เอ็ม ใช้เงินลงทุน 390,000 บาท พื้นที่ตึกแถว 1 คูหา ใช้ชื่อซุปเปอร์เอส และระบบทั้งหมดของซุปเปอร์เอส

ไซซ์แอล ใช้เงินลงทุน 590,000 บาท พื้นที่ตึกแถว 2 คูหา ใช้ชื่อซุปเปอร์เอส และระบบทั้งหมดของซุปเปอร์เอส

สนใจติดต่อ ซุปเปอร์เอสเซ็นเตอร์ ที่โทร. 086-3185789  //02-9509837