เพราะกล้วยราคาตก หนุ่มหัวคิดดีจับมาแปรรูป เป็นกล้วยปิ้งยัดไส้ ขายดีวันละเกือบ 100 หวี

กล้วยปิ้ง ขนมหวานแสนอร่อย ถือเป็นการแปรรูปนำวัตถุดิบจากสิ่งที่มีอยู่มาสร้างเป็นอาชีพด้วยวิธีการอันง่ายดาย ที่สำคัญต้นทุนต่ำ จะเห็นได้จากตามตลาด ตรอก หรือซอกซอย มักจะมีร้านกล้วยปิ้งอยู่แทบทั้งนั้น ด้วยเป็นขนมทานง่าย อิ่มท้อง คนไทยจึงนิยมกิน

คุณไผ่-ครองศักดา สีสังข์ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านกล้วยปิ้งคิงคอง เล่าให้ฟังว่า ที่บ้านทำสวนกล้วย ปลูกกล้วยน้ำว้าพันธุ์ไส้ขาวมากว่า 10 ปี ส่งขายตลาด และวางจำหน่ายหน้าบ้าน แต่ช่วงหลังมานี้มีเกษตรกรปลูกกล้วยจำนวนมาก ส่งผลให้กล้วยล้นตลาด ราคาตกเหลือเพียงหวีละ 2-3 บาทเท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนั้น ลูกชายเจ้าของสวนอย่างตน จึงหาทางระบายผลผลิตออกสู่ตลาดด้วยการแปรรูปเป็นกล้วยปิ้ง ตั้งชื่อ “กล้วยปิ้งคิงคอง”

ปัจจุบันเปิดมาได้ 2 ปี ร้านตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 205/13 ถนนบ้านดอนตูม ซอย 5 ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ใช้พื้นที่หน้าบ้านเปิดเป็นร้านเล็กๆ

โดยก่อนหน้านี้คุณไผ่ทำงานวนเวียนในสายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนมาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพสัตว์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ ทำอยู่ 5 ปี เรียกได้ว่าทำครบหมดแล้วตั้งแต่ผลิต แปรรูป กระทั่งอาหาร บวกกับอายุที่เริ่มมากขึ้น การสร้างความมั่นคงให้ตัวเองเป็นสิ่งที่น่าคิด นั่นเองจึงเป็นเหตุผลทำให้คุณไผ่คิดสร้างธุรกิจให้ตัวเอง

 

เพิ่มไอเดีย ยัดไส้ ปรับน้ำจิ้มสูตรเด็ด

เปิดปีแรกคุณไผ่ปิ้งขายแบบธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไป พอเข้าปีที่สอง จึงเริ่มสร้างความแปลกใหม่ให้สินค้า หาจุดขาย เพื่อให้คนจดจำกล้วยปิ้งคิงคองได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่คุณไผ่เป็นคนคิดและปรุงขึ้นมาเอง นั่นก็คือ น้ำจิ้มเนื้อมะพร้าวอ่อน ขายควบคู่กับน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิม

และยังไม่หยุดแค่นั้น คุณไผ่นำไอเดียยัดไส้เข้ามาเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเพิ่มเติม

“การเพิ่มไส้ถือเป็นการสร้างความแปลกใหม่เหมือนกัน พอวางขายลูกค้าหลายคนชอบ ที่สำคัญขายได้ ตอนนี้มีทั้งหมด 6 ไส้ คือ มะพร้าว เผือก เม็ดขนุนฝอยทอง มันม่วง ข้าวเหนียวมูนอัญชัน และโอวัลตินราดโกโก้”

คุณไผ่ บอกว่า ลูกค้าที่มาซื้อชอบแตกต่างกันไป บางคนชอบทานแบบไม่ราดน้ำจิ้ม แต่ไม่ต้องห่วงเพราะทางร้านใช้น้ำเกลือราดไปตอนปิ้งให้ซึมเข้ากับความหวานของกล้วยได้รสชาติดีทีเดียว ส่วนบางรายชอบทานคู่กับน้ำจิ้มทั้งสูตรดั้งเดิมและสูตรเนื้อมะพร้าวอ่อน หรือถ้าเป็นเด็กน้อยวัยรุ่นก็มีแบบใส่ถ้วยโรยโอวัลตินราดด้วยโกโก้ไว้คอยบริการ ปิดท้ายด้วยแบบยัดไส้นานาชนิดก็มีให้ทานเช่นกัน

 

ใช้สื่อออนไลน์ช่วยสร้างลูกค้า

ปิ้งขายเกือบ 100 หวี/วัน

คุณไผ่ เล่าว่า จากแต่ก่อนที่ขายได้แค่ 8-10 หวี ก็ขยับมาเป็น 20 หวี และยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังตนนำไอเดียการขายกล้วยปิ้งไปโพสต์ในแฟนเพจ บ้านโป่ง ทำให้คนรู้จักมากขึ้น เกิดการพูดถึงปากต่อปาก ลูกค้าแห่มาซื้อกันเพียบ จนต้องใช้กล้วยเพิ่มขึ้น 80-100 หวี และมากสุดถึง 150 หวีด้วยซ้ำ

บวกกับช่วงหนึ่ง มีสื่อต่างๆ ให้ความสนใจ คุณไผ่ บอกว่า ช่วงนั้นต้องแจกบัตรคิวกันเลยทีเดียว

“เมื่อก่อนตอนออกสื่อใหม่ๆ ต้องใช้บัตรคิวครับ ช่วงหลังได้มีการขยายเตาใหม่เพื่อให้กล้วยทันกับลูกค้าจึงไม่ค่อยได้แจกแล้วครับ”

คุณไผ่ บอกว่า คัดกล้วยขนาดลูกไม่ใหญ่มาก ถ้าลูกใหญ่เวลาปิ้งกล้วยจะสุกไม่ทั่วถึง เมื่อกินแล้วจะฝาดลิ้น

ส่วนการปิ้ง ทางร้านจะใช้สเตนเลสขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ปิ้งได้ครั้งละ 22 ไม้ เกือบ 300 ลูก ซึ่งต่างจากร้านอื่นที่ใช้ไม้เสียบ

“ที่ใช้สเตนเลสเพราะคงทนในการใช้งาน เมื่อปิ้งไปแล้วความร้อนจะเข้าไปในสเตนเลส ช่วยให้กล้วยสุกทั่วทั้งลูก”

ราคาขาย แบบธรรมดา 6 ลูก 20 บาท ราดน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิม 5 ลูก 20 บาท ราดน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าวอ่อน 5 ลูก 25 บาท แบบยัดไส้ 5 ลูก 30 บาท ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 6-7 หมื่นบาท

“ตอนนี้กำลังวางแผนทำแฟรนไชส์อยู่ เพราะมีคนสนใจค่อนข้างเยอะ แต่ต้องยอมรับว่าการเปิดแฟรนไชส์เรื่องการรักษาคุณภาพและรสชาติเป็นสิ่งที่ต้องระวัง อาจเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างต้นตำรับกับเจ้าใหม่ได้”

ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก กล้วยปิ้งคิงคอง เจ้าเดียวในบ้านโป่ง โทรศัพท์ 097-013-4453