เทรนด์สินค้า on-the-go ช็อปสะดวก ชีวิตไม่สะดุด

ดูเหมือนผู้คนทุกวันนี้จะใช้ชีวิตแบบเร่งรีบกันมากขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้นเพื่อรองรับโลกที่หมุนเร็ว

ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในสหรัฐ “นอร์ดสตรอม” (Nordstrom) เพิ่งเปิดสาขาสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะแห่งแรกที่ย่านแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่านักช็อปที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

สาขาใหม่ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ราว 47,000 ตารางฟุตแห่งนี้ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน นอกจากจะดึงดูดบรรดาลูกค้าหนุ่มๆ ด้วยสินค้ามากมาย และบริการพิเศษตามความต้องการของลูกค้า เช่น เสิร์ฟเครื่องดื่มค็อกเทลระหว่างเดินช็อป ที่นี่ยังเน้นบริการช็อปสินค้าแบบสะดวกใช้ระหว่างเดินทาง หรือ on-the-go ที่ช่วยให้ทุกการช็อปสะดวก ไม่มีสะดุด

หมายความว่า หนุ่มๆ สามารถสั่งซื้อรองเท้ากุชชี่ผ่านออนไลน์ แล้วค่อยไปแวะรับที่สาขาตอนตี 2 ระหว่างทางที่จะไปสังสรรค์กับเพื่อน ทำให้สามารถสวมรองเท้าคู่ใหม่ไปปาร์ตี้ได้โดยไม่ต้องตะลอนไปรับสินค้าก่อนห้างปิด

ส่วนนักช็อปรายใดชื่นชอบเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับแบบสั่งทำตามความต้องการ ภายในสาขาใหม่นี้ก็มีรองรับ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือแบรนด์ชิโนลา (Shinola) รวมถึง “ลีวายส์ เทย์เลอร์ ช็อป” ที่มีบริการตัดขากางเกงยีนส์ให้พอดี และปักเย็บลวดลายบนเสื้อแจ๊กเก็ตยีนส์

นอร์ดสตรอมสาขานี้ ยังมีบริการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียว ไม่ว่าจะเลือกให้ดีลิเวอรี่ถึงหน้าบ้านหรือสำนักงานก็ทำได้ ภายในพื้นที่ย่านแมนฮัตตัน ด้วยสนนราคาค่าบริการ 20 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีบริการต่างๆ เช่น นวดผ่อนคลาย ไปจนถึงเสริมหล่อพร้อมออกงาน ทั้งตัดผม โกนหนวด ที่ชั้นล่างของห้างก็มีบริการขัดรองเท้าในราคา 2.50 ดอลลาร์ และทำความสะอาดรองเท้ากีฬาในราคา 4.50 ดอลลาร์ ส่วนชั้นบน มีคลับเฮ้าส์ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารเมนูเบาๆ

ลูกค้าคนไหนมีปัญหาสินค้าไซซ์ไม่พอเหมาะพอดี สามารถส่งคืนผ่านคีออสแบบบริการตัวเอง คล้ายกับการคืนหนังสือห้องสมุด โดยจะมีคอมพิวเตอร์แบบทัชสกรีน ซึ่งลูกค้าเพียงนำป้ายสินค้าสแกนกับคอมพิวเตอร์ นำสินค้าแพ็กใส่ถุงของทางห้าง และหย่อนไว้ในกล่องรับคืนสินค้า ไม่ต้องเป็นภาระไปส่งที่ไปรษณีย์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เทรนด์สินค้าแบบ on-the-go กำลังแพร่หลายในธุรกิจต่างๆ ไม่ใช่แค่อาหารพร้อมรับประทานระหว่างเดินทางเท่านั้น แม้แต่เครื่องสำอางยังต้องปรับตัว

บริษัทวิจัยการตลาด “มินเทล” ระบุว่า การปรับสู่ความเป็นสังคมเมืองและการที่ผู้คนใช้บริการขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ความงามเปลี่ยนไปจากเดิม

โจทย์คือ สินค้าเครื่องสำอางจะต้องพกพาไปไหนมาไหนสะดวก รวมถึงเอื้อต่อการหยิบใช้ระหว่างเดินทาง

นี่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าเครื่องสำอางคิดหาวิธีอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่แค่ความหลากหลายของสีสันในการแต่งหน้า แต่รวมถึงสิ่งที่จำเป็นต้องใช้เสริมความงามทั้งหมด เช่น น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวพรรณ

 

ข้อมูลของมินเทล พบว่า ผู้คนหันมาแต่งหน้าบนรถโดยสารสาธารณะมากขึ้น ทั้งในระหว่างเดินทางไปทำงานตอนเช้าและกลับบ้านตอนเย็น เพราะต้องการประหยัดเวลา

ยักษ์ใหญ่อีกราย ที่ช่วยสะท้อนเทรนด์ on-the-go คือ “อเมซอน” ยักษ์ค้าปลีกออนไลน์สัญชาติอเมริกัน         ที่เปิดตัวซุปเปอร์มาร์เก็ตต้นแบบ “อเมซอน โก” (Amazon Go) ที่เมืองซีแอตเทิล เมื่อต้นปีนี้

แนวคิดร้านสะดวกซื้อของอเมซอน โก ล้ำถึงขนาดให้ลูกค้าเดินเข้าไปหยิบสินค้าจากชั้นวาง แล้วเดินออกจากร้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวให้พนักงานคิดเงิน หรือแม้แต่ใช้เคาน์เตอร์ชำระเงินด้วยตัวเอง

เพราะอเมซอน มีเทคโนโลยีที่คิดเงินลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับ ร่วมกับระบบที่วิเคราะห์ว่าสิ่งที่ลูกค้าหยิบออกไปจากชั้นเป็นสินค้าอะไร ซึ่งภายในร้านจะมีกล้องและเซ็นเซอร์มากมาย

เพียงแต่ลูกค้าจะต้องมีบัญชีของอเมซอน และโหลดแอพพลิเคชั่นของอเมซอน โก เพื่อให้ผ่านเข้าไปในร้านได้ รวมทั้งมีสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่อบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต โดยลูกค้าสามารถหยิบสินค้าบนชั้น จากนั้นระบบ ของอเมซอนจะบันทึกและคิดเงินอัตโนมัติ

ไอเดียของอเมซอน โก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้คนยุคนี้ และความสะดวกในการช็อปออนไลน์ และบริษัทมีแผนจะเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตไอเดียล้ำนี้อีก 6 แห่งในปีนี้

การขยับของอเมซอน ก็ทำให้ “ล็อบลอว์ส” เชนห้างค้าปลีกรายใหญ่ของแคนาดาประกาศให้บริการใหม่ รองรับความต้องการแบบ on-the-go

โดยจากนี้ลูกค้าของล็อบลอว์สจะสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ และรับสินค้าได้ภายในวันรุ่งขึ้น ตามจุดบริการที่สถานีรถไฟฟ้า 5 แห่งในเมืองโตรอนโต นอกเหนือจากบริการรับสินค้าภายในซุปเปอร์มาร์เก็ต 300 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน

 แนวคิดของล็อบลอว์ส คือ อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ใช้บริการรถไฟฟ้าอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อไปรับสินค้าจากสาขา