สสว. รุก ONLINE จัดแคมเปญ “SME 1 BAHT” กระตุ้นยอดขาย 650 ล้าน

คุณสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า สสว.พร้อมรุกโครงการ SME ONLINE ปี 2561 เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างยอดขายในรูปแบบ B2 B2C พร้อมจัดแคมเปญถึงใจ SME 1 BAHT ช็อปสินค้าดีในราคา 1 บาท กว่า 100,000 รายการ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และเข้าถึงผู้บริโภค โดยแคมเปญนี้จะดำเนินการในทุกวันที่ 1 ของเดือน หวังสร้างยอดขายกว่า 650 ล้านบาทภายในปีนี้

จากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตมวลรวมของประเทศ

สสว. จึงดำเนินโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SME หรือ “SME ONLINE” อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 นี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ สสว. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ในรูปแบบ Business to Business to Customer (B2 B 2C) ควบคู่ไปกับการพัฒนาเอสเอ็มอี ให้สามารถดำเนินธุรกิจค้าขายทางออนไลน์ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน

คุณสุวรรณชัย เผยว่า มีผู้ประกอบการจำนวนมากสนใจและตั้งใจสร้างโอกาสค้าขายสินค้าบนโลกออนไลน์ ขณะเดียวกัน สสว.เล็งเห็นความสำคัญว่าการจะค้าขายออนไลน์แท้จริงไม่ใช่เพียงหน้าที่เอาสินค้าไปวางเท่านั้น แต่จะให้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมีปัจจัยเกื้อหนุน ซึ่งเบื้องต้นคือ สินค้าต้องดีจริง ต้องมีความแตกต่าง โดดเด่น และโดนใจในผู้บริโภค

ทั้งนี้ยังได้กล่าวถึงปัญหาของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีว่า “พฤติกรรมของผู้บริโภคไทย ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ แต่ปัญหาที่สำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คือ ขาดทักษะในการทำตลาดออนไลน์ ทั้งนี้ สสว. ในฐานะหน่วยงานหลักให้การส่งเสริมสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาโดยตลอด รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมมือร่วมใจกันส่งเสริมผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีไทยให้สามารถก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจ 4.0 ได้อย่างแข็งแรง และมั่นคง โดยบูรณาการความร่วมมือผ่านโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SME ปี 2561”

ทั้งนี้กิจกรรมที่ผ่านมา สสว.ได้มีการลงพื้นที่เพื่อมอบความรู้ตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถทำธุรกิจออนไลน์ได้จริง เช่น สอนเทคนิคการถ่ายภาพสินค้า การเขียนเนื้อหาสินค้า รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับ SME ที่สนใจนำสินค้ามาจำหน่ายบนตลาดออนไลน์

“สสว.ให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการพื้นฐาน การยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ ให้รู้ว่าการเข้าสู่ออนไลน์นั้นความสำเร็จไม่ได้อยู่แค่วางสินค้าบนออนไลน์เท่านั้น แต่ให้ความสำคัญตั้งแต่พัฒนาสินค้า รูปแบบ ภาพถ่าย และที่สำคัญที่สุดคือ การวางสาระให้น่าสนใจ”

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก้าวสู่ความยั่งยืน ยังจัดให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการที่ไม่สะดวกมาเข้าร่วมกิจกรรมการอบรม ได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองอีกช่องทางหนึ่ง

“สสว.เชื่อว่าการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจ นอกจากผู้ประกอบการจะต้องมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพแล้ว ตัวผู้ประกอบการเองต้องรู้จักปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันที่มีช่องทางจำหน่ายและมีศูนย์กลางในการบริหารจัดการการตลาดออนไลน์ด้วยมืออาชีพทั้งระบบ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้สะดวก เอสเอ็มอีวันนี้จึงต้อง ดี และ เร็ว ถึงจะสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน”

คุณสุวรรณชัย กล่าวอีกว่า สสว. ยังเชื่อมโยงการส่งเสริมการตลาดระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคการผลิตกับกลุ่มผู้ให้บริการด้านตลาดออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยจับมือกับ E-marketplace ที่เข้าร่วมโครงการ จัดแคมเปญ SME 1 BAHT ลดราคาสินค้าที่อยู่ภายใต้โครงการ SME ONLINE โดยจำหน่ายในราคา 1 บาทเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการ โดยส่วนที่เหลือ สสว. จะเป็นผู้สนับสนุน แต่ไม่รวมค่าขนส่ง ซึ่งกิจกรรมส่งเสริมการขายมีกำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันที่ 1 ของเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 1 กันยายน 2561 รวมสินค้าที่เข้าร่วมแคมเปญกว่า 100,000 รายการ

“กับการจัดแคมเปญนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้คนไทยได้ทราบถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพ ดี เด่น โดนใจ ซึ่งเราตั้งใจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ทดลองขายสินค้า จึงได้จัดงบประมาณของสสว.เพื่อส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย ให้สามารถขายสินค้าได้จริง ซึ่งผมเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่ลูกค้าซื้อไปนั้น จะส่งผลให้เกิดการซื้อซ้ำชิ้นที่สองที่สามตามมา”

ทั้งนี้กับแคมเปญดีๆ ดังกล่าวมานี้ สสว. ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่มี ความชำนาญด้าน E-marketplace และ Logistics ชั้นนำของประเทศ ได้แก่ shopee, lazada, lnwmall, weloveshopping, 11street, thailandmall, smesiam, buzzebees, shopseason, beautynista, pinsouq, tarad.com, far-e, Lalamove, และ shippop มาร่วมกันมอบสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ ส่วนลดค่า GP ฟรีค่าแรกเข้า ส่วนลดค่าขนส่งสินค้า เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับเอสเอ็มอีในการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ และขยายความ สามารถในการแข่งขันในตลาดออนไลน์ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนการตลาดที่มีประสิทธิภาพสำหรับเอสเอ็มอีในอนาคต”

สำหรับการดำเนินงานโครงการ SME ONLINE ในปีนี้ สสว. คาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับความรู้และประโยชน์จากโครงการกว่า 50,000 ราย มีสินค้าและบริการเข้าร่วมจำหน่ายผ่านทางออนไลน์กว่า 100,000 รายการ และสามารถสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการกว่า 650 ล้านบาท รวมถึงส่งเสริมรูปแบบการบริหารจัดการตลาดออนไลน์ ให้เป็นช่องทางการตลาดที่ยั่งยืนสำหรับ SME ต่อไป

“สสว.เชื่อว่า SME 1 BAHT จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ที่กระจายรายได้ไปสู่ผู้ประกอบการไทยทั้งประเทศ และถือเป็นการให้กำลังใจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสามารถกระโดดเข้าสู่ออนไลน์ และส่งผลให้คนไทยทั้งประเทศได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพดีอย่างที่เราตั้งใจมอบให้” ผอ.สสว. กล่าว