ชีวิตดั่งนิยาย! ได้ดีไปเมืองนอกเพราะเกิดอุบัติเหตุ จากเด็กล้างจาน-กินข้าวตามโบสถ์ไต่เต้าจนกลายเป็นบาริสต้าก้องโลก

หากเอ่ยชื่อ  คุณฉันท์ คำทองแท้ หรือเจ้าของฉายา อาจารย์ปอ เซียนกาแฟ บรรดาวงการ “บาริสต้า” ทั้งในประเทศและต่างประเทศคงรู้จักกันดี เพราะชายผู้นี้ คือ คนไทยคนแรกที่สามารถไปคว้าแชมป์ Barista Championship ปี 2005 จากประเทศออสเตรเลีย แถมยังเคยมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นชาวออสเตรเลียนมากมายนับหมื่นคน  ปัจจุบันเป็นวิทยากรสอนหลักสูตรการชงกาแฟให้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล อยู่ที่ อโรม่า กรุ๊ป

แต่จะว่าไปแล้ว เส้นทางสู่อาชีพนักชงกาแฟที่มีค่าตัวสูงของอาจารย์ปอ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ชายผู้นี้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นานา มามากมาย อาศัยความอดทน และดิ้นรนไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อชะตาชีวิต จึงทำให้ประสบความสำเร็จเฉกเช่นในวันนี้

ประวัติชีวิตอาจารย์ปอ เกิดที่จังหวัดลพบุรี ฐานะทางบ้านยากจน ต้องดิ้นรนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 15 ปี ยึดอาชีพรับจ้างมาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะกรรมกรแบกหาม ขนผักในตลาด เก็บขยะ สุดท้ายมาขับวินมอเตอร์ไซค์ แต่แล้วอุบัติเหตุก็ได้เปลี่ยนชีวิตผู้ชายคนนี้

“ตอนขับวินมอเตอร์ไซค์ เห็นเพื่อนถูกรถทับต่อหน้าต่อตา เกิดความคิดอยากเปลี่ยนอาชีพ พอดีตอนนั้นโชคดีถูกลอตเตอรี่ 500,000 บาท เพื่อนคนหนึ่งเเนะนำให้ไปทำงานต่างประเทศ เพราะหากอยู่เมืองไทยเงินหมดแน่ ราว พ.ศ. 2543 ออกเดินทางไปแสวงหาอนาคตที่ประเทศออสเตรเลีย ทั้งๆ ที่จบวุฒิการศึกษา ม.3 พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เเต่ดั้นด้นจะไป งานแรกที่ได้ทำคือ ล้างจานในคาเฟ่แห่งหนึ่ง สักพักได้เลื่อนขั้นมาช่วยตีฟองนม สุดท้ายเจ้าของร้านวางใจให้ชงกาแฟ เบ็ดเสร็จทำงานอยู่ที่คาเฟ่แห่งนั้นนาน 7 ปี”

ในระหว่างที่อาจารย์ปอได้งานทำ เขาไม่นิ่งนอนใจ ยังคงไปศึกษาหาความรู้ เทคนิคการชงกาแฟ และเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกลัวว่า เจ้าของร้านจะหาคนที่เก่งกว่ามาเเทน จนอยู่มาวันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้ชีวิตผู้ชายไทยคนนี้ต้องเปลี่ยนไป

“ตอนปี พ.ศ. 2548 จู่ๆ เจ้าของคาเฟ่ส่งชื่อผมเข้าไปลงแข่งบาริสต้า รู้สึกโกรธมาก แต่เนื่องจากได้เงินเดือนเพิ่มเลยยอมจำนนลงแข่งขัน ผมเข้ารอบจาก 1,000 กว่าคน มาติด 1 ใน 5 คน สุดท้ายคว้าแชมป์ Barista Championship ปี 2005 ที่ประเทศออสเตรเลีย มาได้ ถือเป็นคนเอเชียและคนไทยคนเเรกที่สามารถไปคว้าแชมป์เวทีนี้”

หลังรับชัยชนะกลับมา อาจารย์ปอ บอกว่า มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับเชิญเข้าไปเป็นครูสอน บาริสต้าที่สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นก็ยังเป็นลูกจ้างร้านกาแฟด้วย ซึ่งเป็นครูสอนบาริสต้า 2 ปี ตัดสินใจลาออกเพื่อเหตุผลเดียว คือ อยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง

อาจารย์ปอ บอกต่อว่า เป็นลูกจ้างต่อไปยังไงก็คงไม่รวย อีกทั้งตลอดชีวิตที่ผ่านมา พบกับความลำบากมามาก ขอเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองอีกครั้ง ด้วยการทุบกระปุก 1.5 ล้านบาท มาเปิดร้านกาแฟ

“ผมลาออกจากการเป็นครูสอนบาริสต้า และลูกจ้าง มาเปิดกิจการร้านกาแฟเป็นของตัวเอง ใช้เงินลงทุน 1.5 ล้านบาท 3 เดือนแรกร้านเเทบเจ๊ง เปิดไปร้องไห้ไป เพราะไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย ไม่รู้จะทำยังไง ตัดสินใจเขียนจดหมายไปที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เมื่อนักข่าวมาชิมและเขียนแนะนำร้านให้ คราวนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ใช้กาแฟวันละ 7 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 3 ตัน”

ร้านกาแฟของอาจารย์ปอจัดว่าได้รับความนิยมอย่างสูง นอกจากลูกค้าจะแห่แหนมาแล้ว อาจารย์ปอ บอกว่า ยังมีคนมาสมัครขอเป็นลูกศิษย์ ซึ่งระหว่างที่สอนๆ มีลูกศิษย์คนหนึ่งพูดว่า “อาจารย์ปอเคยเป็นสุขที่จะให้อนาคตคนมั้ย” ประโยคนั้นถึงกับทำให้เปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิต เลือกจะมาเป็นครูสอนบาริสต้าเต็มตัว

สำหรับความนิยมอาชีพบาริสต้า กูรูกาแฟ บอกว่า ในประเทศออสเตรเลีย ยกบาริสต้าให้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี คนในสังคมให้การยอมรับ ค่าตอบแทนก็สูง เเต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 120,000 บาทเลยทีเดียว แต่สำหรับในประเทศไทย คนให้การยอมรับอาชีพนี้มากยิ่งขึ้น แต่รายได้ยังไม่สูง 9,000-12,000 บาท

เเต่เเล้วราวปี 2554 บาริสต้าเเชมป์โลกบอกว่า เเม่ที่อยู่เมืองไทยป่วยหนัก หน้าที่ลูกที่ดี ต้องกลับมาดูเเลเลยตัดสินใจขายกิจการร้านกาแฟที่ออสเตรเลีย เเล้วกลับมาเมืองไทย เปิดร้าน  Kopi luwak  (กาแฟขี้ชะมด) ที่ถนนศรีนครินทร์

เชื่อว่าคนที่หลงรักธุรกิจร้านกาแฟยังมีอยู่อีกมาก นอกจากชงเป็น ชงอร่อยแล้ว หากได้มาเพิ่มพูนทักษะด้านศิลปะ และวิธีนำเสนอใหม่ๆ ก็คงต่อยอดกิจการเครื่องดื่มไปอีกได้ ไม่รู้จบ

มีมุมมองวิสัยทัศน์มาเเชร์กับทุกคน ปรึกษาการเปิดร้านยังไงให้รวย