ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ทีไร ก็มักจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศหวานชื่น ที่บรรดาร้านรวงต่างๆ เตรียมพร้อมต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก

สำหรับคนที่ยังไม่มีคู่อาจจะรู้สึกแสลงใจนิดๆ แต่หากใครกำลังตกหลุมรัก หรือมีคนอยู่เคียงข้างแล้ว เทศกาล “วาเลนไทน์” นับเป็นช่วงเวลายอดนิยมในการเลือกซื้อสินค้า เพื่อมอบให้แทนใจและความรู้สึกดีๆ

เทรนด์สินค้าต้อนรับเทศกาลแห่งความรักในปีนี้พัฒนาตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เว็บไซต์สำนักข่าวเอพี รวบรวมสารพัดสินค้าทั้งแบบธรรมดาและไฮเทคของบริษัทสตาร์ตอัพน้องใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ๆ สำหรับคนที่ต้องการเลือกซื้อของขวัญให้คนรัก นอกเหนือจากดอกไม้ การ์ด ช็อกโกแลต และลูกกวาด

โดยเฉพาะของขวัญสำหรับคนรักที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือต้องอยู่ห่างไกลกัน ในปีนี้มีสินค้าฝ่าฟันระยะทางหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็สามารถซื้อให้กับคนในครอบครัวได้ด้วย เพื่อสื่อถึงความรัก ความคิดถึง ที่ไม่ได้ห่างตามระยะทาง

เริ่มจาก “ฟิลิมิน” (Filimin) โคมไฟสื่อรัก ที่มองผิวเผินก็เหมือนกับโคมไฟตั้งโต๊ะทั่วไป แต่มีความพิเศษอยู่ที่สามารถส่งความคิดถึงไปยังคนไกลได้

โคมไฟของฟิลิมินออกแบบโดย “จอห์น แฮร์ริสัน” และ “วาเนสซา วาเลน” จากรัฐแคนซัสของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมาเป็นแพ็กคู่ แต่ละคนจะติดตั้งโคมไฟไว้ที่บ้านของตัวเอง พร้อมเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีไว-ไฟ (WiFi)

หลักการทำงานของฟิลิมิน คือ เมื่อฝ่ายใดอยากส่งความคิดถึงก็แค่เอามือแตะไปที่โคมไฟ จากนั้นโคมไฟของอีกฝ่ายก็จะกะพริบเปลี่ยนสี เพื่อให้รู้ว่ามีคนส่งความคิดถึงมา

นอกจากนี้ ยังมีปลอกหมอนพูดได้แพ็กคู่ของแบรนด์ “ลิตเติล ริออต” (Little Riot) ที่มาพร้อมสายรัดข้อมือไฮเทค และลำโพงขนาดเล็กสำหรับวางไว้ใต้ปลอกหมอน

โดยเมื่อถึงเวลาเข้านอน แต่ละคนก็สวมสายรัดข้อมือ พร้อมเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งสายรัดข้อมือจะส่งสัญญาณการเต้นของหัวใจไปถึงลำโพงตัวรับแบบเรียลไทม์ ทำให้ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจจากอีกฝ่าย สำหรับกล่อมเข้านอนและปลุกเมื่อตื่นนอน

อีกชิ้นหนึ่งที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน นั่นคือ “เฮย์” สายรัดข้อมือกระชับสัมพันธ์ ที่ปิ๊งไอเดียให้ผู้คนส่งความระลึกถึงกันผ่านการสัมผัส ซึ่งเป็นภาษาสากล ไม่ว่าจะการทักทาย ส่งกำลังใจ บอกความคิดถึง

คู่รักจะสวมสายรัดข้อมือ “เฮย์” ที่คล้ายๆ สายรัดข้อมือเก็บข้อมูลออกกำลังกาย แต่จะแตกต่างตรงที่เมื่อฝ่ายหนึ่งเอามือสัมผัสสายรัดข้อมือของตัวเอง ก็จะส่งสัญญาณทำให้เกิดแรงบีบเบาๆ ไปที่สายรัดข้อมือของคนรัก

 

ส่วนใครที่ชมชอบความคลาสสิกในอดีต เว็บไซต์ telegramstop.com ก็มีทางเลือกให้ส่งข้อความถึงคนรักในสไตล์ “โทรเลข” ที่คนรุ่นใหม่ๆ อาจจะไม่รู้จัก

เพียงแค่เข้าไปสั่งข้อความที่ต้องการบนเว็บไซต์ จากนั้นข้อความก็จะถูกพิมพ์บนกระดาษที่ดูคล้ายกระดาษสำหรับส่งโทรเลขในสมัยก่อน พร้อมจัดส่งไปถึงมือคนที่คุณรัก เรียกว่าเป็นการผสมผสานการบอกรักแบบสมัยเก่าและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน

ถ้าจะเลือกส่งข้อความหวานๆ ผ่านกระดาษโน้ต “โน้ตคิวบ์” (Note Cube) ก็มีบริการจัดส่งกล่องกระดาษโน้ตโดนใจ ที่บรรจุข้อความตามอำเภอใจ รวมถึงบทกลอน คำคม ความทรงจำ หรือความมุ่งหวังร่วมกันในอนาคต โดยการันตีถึงมือผู้รับภายใน 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก

เอาใจแฟนๆ จิวเวลรี่กันบ้าง ลำพังการซื้อสร้อย ต่างหู หรือแหวน อาจจะดูธรรมดาไป “เวสเซล เซนส์ ออฟ สไตล์” (Vessel Scents of Style) เลยผุดไอเดียเติมกลิ่นเข้าไปในเครื่องประดับ เพื่อสร้างความแตกต่าง

ลูกค้าจะสามารถเลือกล็อกเกตสำหรับบรรจุกลิ่น จากนั้นก็เลือกเครื่องประดับ ตามด้วยเม็ดเซนส์สเฟียร์เพื่อใส่กลิ่น และเลือกกลิ่นตามใจชอบ ซึ่งเครื่องประดับก็มีทั้งสำหรับผู้หญิง และแบบที่สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

 ขณะที่ในปีนี้มีแนวโน้มจะเป็นปีทองของธุรกิจเกี่ยวกับความรักอีกด้วย เพราะปี 2018 มีความหมายดีแบบ 2 เด้ง เริ่มจากเลขลงท้าย 8 เป็นเลขมงคลของชาวจีนที่สื่อถึงความเจริญก้าวหน้า โชคดี ร่ำรวย แถมยังเป็นปีนักษัตร “จอ” ซึ่งแสดงถึงความสงบ สุภาพอ่อนโยน จึงเชื่อกันว่าเป็นปีที่ดีต่อการจัดงานแต่งงาน