จับตาทิศทางโลกธุรกิจ 5 เทรนด์ห้ามพลาด ปี 2561

โลกธุรกิจทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามแรงขับเคลื่อนจากเทคโนโลยี ซึ่งสร้างนิยามใหม่เกี่ยวกับความคาดหวังของผู้บริโภคทั่วโลก

“เทรนด์วอตชิ่งดอตคอม” นำเสนอ 5 เทรนด์ที่กำลังมาแรงและน่าจับตามองในปี 2561 ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเข้าใจความต้องการของลูกค้าและแรงเหวี่ยงในภาคธุรกิจมากขึ้น

เทรนด์แรก “เอคอมเมิร์ซ” หรือ “พาณิชย์แบบอัตโนมัติ” (Automated Commerce) ที่เป็นผลพวงจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และระบบอัตโนมัติที่พัฒนาไปไกล จนส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค และความคาดหวังที่มาจากแบรนด์

หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแบบชัดเจนจากเทรนด์เอคอมเมิร์ซ คือ อุตสาหกรรมค้าปลีก เนื่องจากบรรดานักช็อปคาดหวังประสบการณ์จากการช็อป กระบวนการแก้ปัญหา และมีอุปกรณ์พกพาเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่ขาดไม่ได้ ทำให้มีความต้องการใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับการค้นหา เจรจา ซื้อสินค้า จัดส่ง และทำสิ่งต่างๆ อีกมากมาย

ยกตัวอย่างเว็บไซต์ JD.com ของจีน ที่สร้างระบบคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ รวมถึงใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในการวางแผนจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าภายในวันเดียว หรือวันรุ่งขึ้น

แอพพลิเคชั่น “ไฟเนอรี่” (Finery) ที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก็ช่วยให้ผู้บริโภคสะดวกในการจับจ่ายมากขึ้น โดยการเชื่อมต่อกับอีเมลและสามารถเลือกสินค้าแฟชั่นที่ต้องการไว้ในตู้เสื้อผ้าส่วนตัว จากนั้นจะมีแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงของราคา รวมถึงช่วงมหกรรมลดราคา ที่ช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเงินในกระเป๋า

“เคเอฟซี” เชนฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ก็เปิดตัวบริการ “สไมล์ ทู เพย์” โดยใช้เทคโนโลยี “อาลีเพย์” ของยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน “อาลีบาบา” ให้ลูกค้าจ่ายเงินด้วยระบบจดจำใบหน้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบไร้เงินสดที่กำลังได้รับความนิยม

เทรนด์ที่ 2 “ผู้ช่วยจำเป็น” ที่จะทำให้ชีวิตของผู้คนง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มใดก็ตาม ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและไลฟ์สไตล์ที่ซับซ้อน โดยไม่ขึ้นอยู่กับการแบ่งกลุ่มประชากรแบบเดิมๆ เช่น เพศ อายุ หรือรายได้

แบรนด์ “Loftium” เป็นตัวอย่างที่สะท้อนเรื่องนี้ โดยแก้ปัญหาต้นทุนค่าครองชีพที่สูงลิ่วของคนเมือง ผ่านการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านในวงเงินไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ แลกกับการให้เจ้าของบ้านขึ้นทะเบียนไว้กับ “แอร์บีเอ็นบี” ธุรกิจแบ่งปันที่พักเป็นเวลา 3 ปี พร้อมจัดเตรียมบริการสนับสนุน ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของบ้านมีรายได้เพิ่มเติมจากห้องที่ไม่ได้ใช้ หรือในเวลาที่ไม่อยู่บ้าน

ส่วน Selfridges จะจัดคลาสอบรมกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำขนมปัง ทอผ้า ภายในสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ช่วยให้ผู้คนทุกกลุ่มได้ฝึกฝนทักษะใหม่ๆ

เทรนด์ที่ 3 “เพื่อนเสมือนจริง” คล้ายกับเรื่องราวในภาพยนตร์ แต่ตอนนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว ผู้คนหลายล้านคนต้องการคุยกับเพื่อนที่ไม่มีตัวตน ทั้งเพื่อความบันเทิง การศึกษา เป็นเพื่อน และช่วยเติมเต็ม

ผลการศึกษาของ “การ์ตเนอร์” พบว่า ภายในปี 2563 ผู้คนจะพูดคุยกับโปรแกรมอัตโนมัติบนโลกไซเบอร์ที่เรียกว่า “บอตส์” มากกว่าคู่ชีวิตของตัวเอง ขณะที่มีข้อมูลว่า ผู้คนใช้เวลากับการแชตข้อความและสื่อสังคม ออนไลน์เพิ่มขึ้น 394 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2559

สายการบินเคแอลเอ็มของเนเธอร์แลนด์เพิ่งเปิดตัว KLM Care Tag สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งระบบระบุพิกัด หรือ GPS ที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ในการส่งเสียงเกี่ยวกับเกร็ดความรู้ต่างๆ ของลูกเรือสู่ลูกค้า เช่น ข้อมูลร้านอาหาร การใช้บริการแท็กซี่

อีกกรณี คือ ร้านบลู ลีฟ คาเฟ่ ในเมืองเซนไดของญี่ปุ่น ที่จับมือกับบริษัทโทรคมนาคม KDDI เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์แบบเสมือนจริง โดยจำลองตัวละครที่ชื่อ “ฮะสุเนะ มิกุ” ผ่านเทคโนโลยีที่ผนวกสภาพแวดล้อมจริงกับวัตถุเสมือนเข้าด้วยกัน ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกเหงา

เทรนด์ที่ 4 “ให้โอกาสแก้ตัว” เรื่องนี้เป็นเทรนด์ห้ามพลาดในปีนี้ เพราะผู้บริโภคมีความคาดหวังมากขึ้น ทั้งการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้าแบบไร้รอยต่อ

ผู้บริโภคยุค 2018 คาดหวังโอกาสแก้ตัวหลังจากซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นคอลเล็กชั่น ไซซ์ รวมถึงบริการ ที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ในวันข้างหน้า

ยกตัวอย่าง RYU แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติแคนาดา ที่เริ่มเกาะเกี่ยวกระแสนี้แล้วตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว โดยนำเสนอแคมเปญลดราคาเสื้อผ้าออกกำลังกายให้กับลูกค้าที่มีรูปร่างผอมลง หรือฟิตจนมีกล้ามแน่น สามารถนำสินค้าที่ซื้อไปแล้วกลับมาแลกซื้อตัวใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นเดิมหรือใกล้เคียงกัน พร้อมกับลดราคาลงครึ่งหนึ่ง

เทรนด์สุดท้าย “ข้างในกล่องกระจก” เป็นเรื่องของความโปร่งใสของภาคธุรกิจ เพราะโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นจากเทคโนโลยี ทำให้บุคคลภายนอกสามารถมองเห็นภายในองค์กรด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลากร กระบวนการ และคุณค่าขององค์กร

อย่างเรื่องฉาวกรณีล่วงละเมิดทางเพศที่มีข่าวเกิดขึ้นหลายระลอกในปีที่แล้ว ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อบุคคลที่ก่อเหตุ แต่ยังส่งผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องตระหนักในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเป็นพิษ ที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตตามมา

 

ที่มาภาพ

https://news.cgtn.com

https://yicaiglobal.com

https://nmgprod.s3.amazonaws.com

https://cdn.vox-cdn.com

http://www.trbimg.com

https://cdn.trendhunterstatic.com

https://content.presspage.com