“ทาโกะยากิ” หมึกไซซ์เป้ง อันโด่งดังในโซเชียล ไม่มีร้านประจำ แค่ออกอีเว้นต์ รายได้แตะล้าน

โด่งดังในโลกออนไลน์มาสักพักแล้ว สำหรับทาโกะยากิ ปลาหมึกเป็นตัวๆ ของเจ้านี้ “Bloc 26th baby octopus takoyaki”

“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ไปพบกับ คุณชาลินทร์  วรางคณา วัย 35 ปี เจ้าของร้าน ที่งานอีเว้นต์แห่งหนึ่ง เลยได้มีโอกาสพูดคุยกัน และนำเรื่องราวที่น่าสนใจ ทั้งที่มาที่ไป แนวคิด และยอดขายที่รู้แล้วก็แทบจะต้องกดว้าวให้ในทันใด

คุณชาลินทร์ หรือคุณต้น เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จด้วยอายุยังน้อย เราไปค้นหาพร้อมๆกัน ว่าอะไรเป็นปัจจัยที่สำคัญ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ทาโกะยากิ เจ้านี้ไม่มีหน้าร้าน ออกงานอีเว้นต์อย่างเดียว การออกงานในแต่ละครั้ง  มีลูกค้าเข้าคิว หรือแม้ไม่ถึงกับเข้าคิว แต่ก็มีลูกค้ามาเรื่อยๆ มาทั้งวัน  พนักงานแทบจะไม่มีเวลาว่าง ลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว ก่อนกินก็ถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ทำให้เกิดภาพ การบอกกันปากต่อปาก และกระแสนี้ทำให้ยอดขาย เคยพุ่งสูงสุดถึง 10,000 กล่อง ต่องาน (งานอีเว้นต์ที่ห้างใหญ่ใจกลางกรุง ในเวลา 15 วัน ราคาขายกล่องละ 100 บาท/ ทาโกะยากิชิ้นบิ๊ก 3 ชิ้น) นั่นหมายถึงยอดขาย ที่ 1 ล้านบาท!!!

อะไรคือจุดขายของทาโกะยากิ ของเจ้านี้

คุณต้น บอกว่า เหตุผลเดียว เหตุผลสั้นๆ ที่ทาโกะยากิ ของเขาได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ ความต่าง

ทาโกะยากิ ทั่วไป คือแป้งกลมๆ มีไส้หมึกชิ้นเล็กๆ (ทาโกะ ภาษาญี่ปุ่น คือ หมึก ยากิ คือการทำอาหาร cooking) แต่ของคุณต้น มีหมึกทั้งตัว (ตระกูลหมึกยักษ์) โปะหน้า

“เราได้ไอเดีย จากการที่ลูกค้าบ่นว่า ทาโกะยากิ ส่วนใหญ่มีแต่แป้ง มีหมึกนิดเดียว  บวกกับได้ไอเดียจากการไปเดินเที่ยวที่ญี่ปุ่น ทำให้เราพยายามหาว่า จะทำอย่างไรให้ดีขึ้น น่ากินขึ้น เลยออกมาหน้าตาแบบนี้”

สำหรับราคาขายคือ 1 กล่อง  3 ชิ้น ราคา 100 บาท ทำมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงตอนนี้ ผลตอบรับดีมาก ลูกค้าให้ความสนใจมาก ขายตามงานอีเว้นต์อย่างเดียว ไม่มีหน้าร้านประจำ โดยเฉลี่ย 1 เดือน จะออกงาน 1-3 งาน บางงานที่ได้ออกห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ  ราว 15 วัน ก็ขายได้แล้ว 10,000 กล่อง ยอดขายราว 1 ล้านบาท แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ อีกทั้งทางห้างก็หักไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์

คุณต้น เล่าให้ฟังอีกว่า ก่อนที่จะมาขายทาโกะยากิ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวนี้ เขาเคยผ่านงานมานับไม่ถ้วน เริ่มตั้งแต่ เรียนจบม.6 แล้วไม่ยอมเรียนต่อ เพราะเกเร เที่ยว

“ที่บ้านผมเคยมีกิจการร้านอาหาร พอกิจการเจ๊ง ก็เคว้งเลย ทำงานจับกังไปเรื่อย ไปขับแท็กซี่ ไปเป็นพนักงานสกรีนเสื้อผ้า และไปเป็นลูกจ้างร้านอาหารญี่ปุ่น  ซึ่งที่ร้านนี่แหละที่ผมได้เห็นการทำทาโกะยากิ แล้วนำมาพัฒนาสูตรเองในภายหลัง”

“หลังจากออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น เคยทำงานสถานบันเทิงย่านพัทยา เป็นลูกจ้าง แต่เจ้านายเขาก็มาเชิญให้ผมออก เนื่องจากผมไม่ได้ภาษาอังกฤษ” คุณต้น เล่าให้ฟัง

หลังจากตกงาน คุณต้น ก็ปรึกษากับแฟน ว่าจะหาอะไรทำดี

“มีเงินทุนก้อนสุดท้ายอยู่ 6 หมื่นบาท แฟนก็ออกไอเดียให้ทำร้านอาหารญี่ปุ่น ในแหล่งใกล้มหาวิทยาลัย ผลตอบรับก็ดี แต่เมื่อคำนวณต้นทุนกำไรแล้ว  แทบจะไม่มีเหลือ พอดี ได้ยินนักศึกษา บ่นว่า ไปกินทาโกะยากิที่ไหนๆ ก็มีแต่แป้งๆ หมึกนิดเดียว  นั่นจึงเป็นตัวจุดประกายไอเดียให้ผม” คุณต้น ว่าอย่างนั้น

และตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้น ของทาโกะยากิ อันโด่งดัง และยอดขายพุ่งปรี๊ดในปัจจุบัน

“คิดว่าตัวเองถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง”  เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ถามออกไป

คุณต้น ตอบว่า “ยังนะครับ ผมว่าผมไปได้ต่ออีก  ผมดูจากที่มีรายการต่างประเทศมาถ่ายทำอาหารที่ผมทำ ผมขาย แล้ว มีฟีดแบ็กที่ดีมาก  โดยดูจากคอมเม้นต์ต่างๆ ที่เข้ามา  บางคนก็บอกอยากจะกินของเรา บางคนส่งข้อความมาเลย มาขอซื้อแฟรนไชส์โน่นนี่ นี่เป็นจุดที่ผมคิดว่าจะไปได้อีก

แน่นอนว่า อาหารที่มีรสชาติดี เป็นที่นิยม และค่อนข้างมีชื่อเสียงในปัจจุบัน ย่อมมีคนต้องการอาชีพในลักษณะสูตรสำเร็จ ซึ่งที่ผ่านมา คุณต้นเริ่มขายแฟรนไชส์ไปแล้ว 3 ราย

“ผมเริ่มมีแฟรนไชส์ที่ พัทยา เซ็นทรัลโคราช และที่เดอะมอลล์บางแค  เงื่อนไขคือ ค่าแฟรนไชส์ 160,000 บาท  เราให้คีออส อุปกรณ์การทำ  เตา 2 เตา  ส่วนวัตถุดิบ เขาซื้อได้เอง โดยเราชี้เป้าแหล่งวัตถุดิบ แต่ต้องซื้อซอส หัวเชื้อ และบรรจุภัณฑ์จากเรา ส่วนการควบคุม ผมใช้ เครื่องคิดเงินออนไลน์ ที่ผมสามารถเข้าไปเช็กได้ทุกยอด โดยทุกเดือนเราจะหักเป็นค่าบริหารงาน อีก 3 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย”

และนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวการสร้างอาชีพ ใครจะไปคิดว่า คุณต้นในอดีตที่ผ่านมาหลายประเภท วันหนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการที่มีอนาคตแจ่มใส แต่ด้วยปัจจัยของไอเดีย การขายความต่างนี่เอง ที่ทำให้ ถูกใจผู้บริโภค และกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างท่วมท้น

รายละเอียดการติดต่อ