กว่าจะมาเป็น “Snapback Barbershop” บาร์เบอร์มาแรงแห่งยุค

ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ดัง ระบุให้เป็น 1 ใน 10 ร้านบาร์เบอร์…มาแรงแห่งยุค  สำหรับ  Snapback Barbershop (สแนปแบ็ก บาร์เบอร์ช็อป) แห่งตลาดนัดสุดฮิป เจเจ กรีน จตุจักร

กิจการเจ้าของเรื่องราวนี้ ใช้เวลาไม่กี่ปี ด้วยทุนตั้งต้นสามพันบาท  และ หัวใจ “สู้-สู้” ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง

ทำให้ร้านบาร์เบอร์สไตล์ “ลมโชย” กลางตลาดนัดกลางคืน  ที่มีราคารับตัดเฉพาะลูกค้าผู้ชายหัวละ 60 บาท

สามารถเติบโตกลายเป็น ร้านหรูหราถาวร   แถมยังมีลูกค้าไม่ขาดสาย ขนิดที่วันธรรมดาควรโทร.จองคิวล่วงหน้า ส่วนวันศุกร์-  เสาร์-อาทิตย์  ไม่มีรับจองคิว ต้อง วอล์ก อิน อย่างเดียวเท่านั้น!

คุณบอย -คุณมีมี่ เจ้าของกิจการ สแนปแบ็ก บาร์เบอร์ช็อป

 คุณมีมี่-ณัฎฐนิช ฐิติรัตนศาสน์ วัยสามสิบต้น หนึ่งในหุ้นส่วนคนสำคัญ สละเวลามาให้ข้อมูลด้วยอัธยาศัยร่าเริงกันเอง เล่าให้ฟัง จบปริญญาตรีนิเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เคยผ่านงานด้านอีเวนต์ในบริษัทเอกชนชื่อดังอยู่หลายปี  ก่อนมาเป็นพนักงานประจำบริษัทรถไฟฟ้าใต้ดิน

ทำงานที่ใหม่ได้ปีเศษ เริ่มอยากมีกิจการของตัวเอง เลยปรึกษากับ คุณบอย – นที อ้อมณฑา แฟนหนุ่ม  ก่อนชวนกันลาออกมาเปิดร้านขายหมวกอยู่ที่ตลาดนัดเจเจกรีน ซึ่งช่วง 3-4 ปี ก่อนหน้านี้ยังไม่คึกคักเท่าไหร่ชนิดขายไปนั่งตบยุงไปก็ว่าได้

เลยพยายามช่วยกันคิดมีธุรกิจอะไรน่าลงทุน  โดยทางคุณพ่อของเธอ เคยแนะนำให้ไปเรียนเป็นช่างตัดผม เพราะสมัยที่ยังวัยรุ่น ท่านเคยเป็นช่างตัดผมผู้ชายมาก่อน เลยมีเพื่อนอยู่ในวงการหลายคน และทราบว่าแต่ละคนสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวและครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ประกอบกับคุณบอย-แฟนหนุ่ม เป็นคนชอบตัดผม มักหาทรงผมแบบแปลกๆ ไปให้ช่างตัดเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่ ช่างทำไม่ได้อย่างต้องการ  จึงคิดไปเรียนตัดผมเพื่อมาตัดให้แฟน จะได้ไม่ต้องเสียเงินให้ร้านตัดผมบ่อยๆ

ช่วงระหว่างเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายหมวก ทั้งสองจึงพากันไปสมัครเรียนตัดผมที่โรงเรียน ฝึกอาชีพ ดินแดง 2 เสียค่าเรียนคอร์สละ 105 บาท ใช้เวลาเรียน 6-7 เดือน สำหรับ  3 คอร์ส จึงสำเร็จหลักสูตรทั้งหมด

พอมีวิชาติดตัว รู้สึกคันไม้คันมือ เลยตระเวนตัดผมฟรีให้บรรดาเพื่อนหลายสิบคน จนคุณพ่อถามเมื่อไหร่จะเปิดร้านตัดจริงจังซักที  เธอบอกยังทำไม่ได้เพราะทุนไม่พอ

คุณพ่อ จึงแนะให้ดัดแปลงที่ว่างข้างรถตู้ ซึ่งเปิดขายหมวกอยู่ก่อนในตลาดนัดเจเจกรีน ให้เป็นร้านตัดผม

ช่างมือใหม่ทั้งสอง ถึงกับงงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนบอกไม่เห็นด้วยเพราะไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน

“ตอนนั้นเถียงคุณพ่อจะตัดผมข้างรถได้ยังไง ต้องมีร้านมิดชิดเป็นเรื่องเป็นราวซิ  แต่ท่านบอก ทำไมจะทำไม่ได้ ให้เอาไฟมาแขวนเอาโต๊ะมาตั้ง เอาเสื่อนำมันมาปู เอาเต็นท์มากาง ก็ได้แล้ว” คุณมีมี่ ย้อนจุดเริ่ม

 แม้ไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับคำแนะนำของคุณพ่อ แต่คุณมีมี่และคุณบอย ไม่อยากขัดใจ เลยใช้เวลากว่าหนึ่งเดือน  ในการเตรียมความพร้อมเพื่อดัดแปลงแผงขายหมวกในตลาดนัดกลางคืน  ให้กลายเป็นร้านตัดผมแบบโอเพ่นแอร์

“เปิดร้านวันแรกเมื่อ 5 ตุลาคม 2556  ตัดแค่หัวละ 60 บาท จำได้มีลูกค้า 20 คน เข้ามาไม่หยุดเลย ตั้งแต่เปิดจนปิดร้าน” คุณมีมี่ เล่าน้ำเสียงยังตื่นเต้น

พอเห็นแนวโน้มน่าจะไปได้ดี จึงไปปรึกษาอาจารย์ที่เคยสอน ซึ่งตอนแรกไม่เห็นด้วย ที่ไปเปิดร้านตัดผมตัดอย่างนั้น เพราะอาจไม่ได้มาตรฐาน เพราะการ เปิดโล่งอาจมีความสกปรกฝุ่นควันอะไรลอยมา และที่สำคัญต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกค้าด้วย

แต่เมื่อเธอและคุณบอยยืนยันจะทำต่อ  อาจารย์ท่านเดิม จึงให้เพื่อนร่วมรุ่นมาช่วย 2 คน เลยรับรองลูกค้าได้มากขึ้น

นึกสงสัยขายหมวกอยู่ดีๆหันมาเปิดเป็นร้านตัดผม ทางเจ้าของตลาดว่าอย่างไรบ้าง คุณมีมี่ บอกไม่มีปัญหา เพราะผลตอบรับจากลูกค้าดีมาก ทำให้คนพูดถึงตลาดเจเจกรีนมากขึ้น  ดูได้จากแฟนเพจ อินสตาแกรม ที่ใช้เวลาไม่ถึงเดือนมีคนกดไลค์กันไม่น้อย

และอาจเพราะความแปลกใหม่ ไม่ค่อยเคยเห็นร้านไหนทำมาก่อน  หลังจากเปิดได้ไม่นาน  มีรายการโทรทัศน์มาขอถ่ายทำ หลังจากออกอากาศ เริ่มเป็นที่รู้จักและพูดถึงมากขึ้นไปอีก ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลถึงจำนวนลูกค้าที่เข้ามามากขึ้นตามลำดับ

คุณมีมี่ เล่าต่อ เปิดร้านได้แค่เดือนเดียว มีรุ่นพี่มาชักชวนให้ไปเปิดสาขาสองที่ย่านอาร์ซีเอ ช่วงนั้นจึงต้องวิ่งรอกทั้งสองร้าน แต่เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องราคาค่าเช่า เลยต้องกลับมาทำร้านที่ตลาดนัดเหมือน   เดิม

แต่คราวนี้ตัดสินใจลงทุนด้วยเงินหลักแสน เปิดร้าน   Snapback Barbershop หนึ่งคูหาโอ่โถง   ติดแอร์เย็นฉ่ำ รูปลักษณ์ดูดีมีมาตฐาน สมฐานะร้านสุดฮิต ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 มาจนถึงทุกวันนี้

ย้อนถามไปเมื่อครั้งมีสองสาขา รายรับเป็นอย่างไร คุณมีมี่ ตอบทันควัน

“เปิดร้านในตลาดนัดเวิร์คกว่าเยอะ เพราะได้จำนวนคนมาเดิน ขณะที่เปิดเป็นร้านเสียค่าเช่าแพงกว่า แต่ลูกค้าไม่มากพอ สู้ตลาดนัดไม่ได้”

คุณมีมี่ บอกส่งท้ายด้วยว่า  ลงทุนทำร้านใหม่ ด้วยงบฯแสนต้นๆ และคืนทุนเรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบัน ร้าน “สแนปแบ็ก บาร์เบอร์ช็อป” เปิดทุก วันอังคาร-อาทิตย์ เวลาบ่ายสองถึงสามทุ่ม หยุดเฉพาะวันจันทร์

สนใจติดตามความเคลื่อนไหวหรือใช้บริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์  095-779-9393 Facebook/ Snapbackbarbershop