ลูกเกษตรกร จ.ร้อยเอ็ด ชีวิตลำบาก รับจ้างหาเงินตั้งแต่เด็ก ใฝ่ฝันอยากทำธุรกิจ จับทางถูกขายสบู่ ปีเดียวโกย 300 ล้าน

ลูกเกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด ชีวิตลำบากตั้งแต่ยังเล็ก ต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการรับจ้างทุกอย่างจนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี ก่อนมาเป็นเจ้าของธุรกิจความงามอดีตเคยขาดทุนโดนเจ้าหนี้นอกระบบซ้อมเกือบปางตาย ถูกโกงหมดตัว ทั้งชีวิตมีเงิน 60 บาท สุดท้ายจับทางถูกไปขอความช่วยเหลือให้โรงงานผลิตสบู่ จากนั้นนำไปขาย อาศัยทำการตลาดแบบบ้านๆ ไม่น่าเชื่อยอดขายปีเดียว 300 ล้าน

คุณธนกฤต ผ่องใส หรือ คุณเอ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีออนไวท์ ไทยแลนด์ จำกัด  เผยเรื่องราวชีวิตว่า เป็นลูกชายคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน พ่อและแม่เป็นเกษตรกรทำนาอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ครอบครัวฐานะยากจน พี่ชายได้เรียนหนังสือจนถึงชั้นมัธยมศึกษา ส่วนตัวเองอาศัยทำงานรับจ้างทุกอย่าง ทำอาหาร ทำขนมไปขายที่โรงเรียน จ่ายค่าเทอมเองจนจบปริญญาตรี

ลักษณะนิสัยที่โดดเด่นของคุณเอ คือ ชอบค้าขาย เขาฝันไว้ตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นนักธุรกิจ ฉะนั้น จึงเลือกเรียนด้านการตลาด พร้อมกับเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่จังหวัดมหาสารคามตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์โดนหลอกเข้าสู่ระบบเงินกู้ผิดกฎหมาย อายุ 21 ปีเป็นหนี้เกือบ 2 แสนบาท โดนซ้อมปางตาย ในที่สุดดรอปเรียน

“ผมรับจ้างทำงานสารพัดตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษา กระทั่งชั้น ปวช. เป็นลูกจ้างร้านเช่าแผ่น VCD พอมีเงินเก็บก็นำไปลงทุนซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นมาขาย ช่วงนี้เองถูกหลอกเข้าสู่เงินกู้นอกระบบ สรุปเป็นหนี้เกือบ 2 แสน ต้องหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่อยู่พัทยา ทั้งที่มีเงินติดตัวเพียง 60 บาท ไปอยู่พัทยาได้ 5 เดือน สุดท้ายได้กลับมาจังหวัดมหาสารคามอีกครั้งเพราะมีการกวาดล้างแก๊งเงินกู้”

เมื่อได้กลับมาเรียนต่อ จนสามารถคว้าใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามสำเร็จ คุณเอ บอกว่า ด้วยความรักงานแฟชั่นตัดสินใจมาเปิดห้องเสื้อที่กรุงเทพฯ ตัดเย็บชุดราตรี ชุดนางงาม ปรากฏโดนโกงขาดทุนยับเยิน ถึงขั้นต้องกลับไปทำนา  

“ปี 2559 กลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิด คิดว่าจะทำอะไรดี ส่วนตัวรักสวยรักงาม เกิดมาตัวดำอยากขาว เลยคิดจะทำสบู่ ทว่าไม่มีเงินทุน อาศัยขอความช่วยเหลือจากโรงงานให้ช่วยผลิตสินค้าให้ก่อน ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์นั้น”

คุณเอ เล่าต่อว่า ได้สบู่มา 3 สูตร นำไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง 3 หมู่บ้าน จำนวน 30 คน สุดท้ายได้สูตรที่ลงตัว สกัดจากมะขามป้อม สบู่ล็อตแรกที่ผลิตออกมาจำนวน  300 ก้อน ขายออนไลน์ทั้งหมด

สบู่ในช่วงแรกถูกขายผ่านเฟซบุ๊ก โดยเจ้าของใช้วิธีการตลาดแบบบ้านๆ ไม่มีพรีเซ็นเตอร์ ไม่มีสื่อโฆษณา มีเพียงคนใกล้ตัวที่มีปัญหาสภาพผิวสีเข้มมารีวิวสินค้าด้วยการใช้จริง อาทิ ชาวนา ชาวสวนยาง คนซ่อมรถ ยอดขายดีขึ้นจากวันละ 1 หมื่นบาท ค่อยๆ ทะยานขึ้นสู่หลักล้าน กระทั่งสูงสุดยอดขายวันละ 1.5 ล้านบาท ขายดีเกือบปี รายได้พุ่งขึ้นสูงถึง 300 ล้านบาทเลยทีเดียว

กระทั่งเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คุณเอ บอกว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันสูง  ยอดขายลดลงจากวัน 1.5 ล้าน เหลือ 6 แสนบาท   ดังนั้น ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ มีสกินแคร์ และอาหารเสริม เจาะตลาดคนอยากมีผิวขาวใส นอกจากนั้น ยังจัดกิจกรรมชวนลูกค้าร่วมทำบุญน้ำท่วม เป็นต้น

สำหรับกลยุทธ์ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กรรมการผู้จัดการ ระบุว่า จะขยายธุรกิจด้วยตัวแทนจำหน่าย จังหวัดละ 1 คนเพื่อกระจายสินค้า  จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ตามเวทีประกวดต่างๆ ส่วนในปีหน้า จะสร้างบิวตี้สโตร์เน้นบุกตลาดภูธรก่อน