เมื่อโลกไร้พรมแดน แคบลงมาทุกขณะ สมัยนี้ใครจะหยิบจะจับค้าขายอะไรก็เป็นไปได้หมด ยกตัวอย่าง คนขายอยู่นครปฐมติดต่อขาย “ปลากัด”ให้ลูกค้าที่สหรัฐอเมริกา ใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนก็เป็นคู่ค้ากันได้แบบชิว-ชิว  แต่กว่าจะจะก้าวเป็นผู้ประกอบการ “ข้ามชาติ”ดังว่ามานั้น ใช่จะเป็นเรื่องง่ายดายนัก

สองสามีภรรยา เจ้าของกิจการ

คุณหน่อย – รมิดา ตาณธนพันธ์ เจ้าของกิจการ BettaberryThailand (เบตต้าเบอร์รี่ ไทยแลนด์)        ผู้จำหน่าย “ปลากัด”สายพันธุ์ต่างๆ แต่ไม่มีหน้าร้านแม้แต่คูหาเดียว อาศัยเพียงช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์เท่านั้น หากสามารถทำรายได้เลี้ยงตัวและครอบครัวได้เป็นอย่างดีมานานนับปีแล้ว กรุณสละเวลามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมากิจการในแบบของเธอด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้ม

เริ่มต้นด้วยความเป็นมาส่วนตัวว่า  พื้นเพเป็นชาวนครปฐม  จบปริญญาตรีด้านบริหาร จาก มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ส่วนคุณจิ๋ว-ณภัทร ตาณธนพนธ์ หุ้นส่วนทั้งชีวิตและธุรกิจ เป็นคนกรุงเทพฯ จบคณะนิเทศศาสตร์  จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  ก่อนหน้านี้ เคยเป็นลูกจ้าง ทำงานในบริษัทเกี่ยวกับโรงพิมพ์ด้วยกันทั้งคู่

ทำงานประจำอยู่กว่าสิบปี ทั้งตัวเธอและสามี  รู้สึกอิ่มตัวกับการเป็นพนักงานประจำ เพราะขยันมากเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น และคิดว่าน่าจะมีอะไรที่เป็นของเราเองดีกว่า จังหวะนั้นเอง มีเพื่อนสมัยเรียน คือ คุณก้อย-สิรินุช ฉิมพลี  ซึ่งเวลานั้นเป็น “เบอร์หนึ่ง”เรื่องปลาสวยงามและเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2558  ชวนให้ไปฟังสัมมนาที่จังหวัดราชบุรี ที่จะขึ้นพูดบนเวทีเรื่องปลากัด

“บนเวทีมีผู้ทรงคุณวุฒิเรื่องปลากัด 3-4 ท่าน ตอนนั้นไม่ได้มีแนวคิดอยากทำธุรกิจนี้ แต่เพื่อนชวนไปฟังก็ฟัง  และหนึ่งในวิทยากร บอกข้อมูลมาว่าเป็นวิศวกรฯแล้วมาทำปลากัด ขายผ่านออนไลน์ไปยังต่างประเทศ มีรายได้เดือนละเป็นแสนบาท เรามาคิดว่าเป็นไปได้เหรอ”คุณหน่อย เล่ายิ้มๆ

แม้คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่สองสามีภรรยา ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆหลุดมือไป ตัดสินใจไปเข้ารับการอบรมคอร์ส

จำหน่ายปลาสวยงามผ่านช่องทางออนไลน์ กับทางกรมประมง  ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เป็นเวลา 2 วัน

“ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมครั้งนั้น มีประโยชน์มาก แม้ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนก็เข้าใจได้ นับตั้งแต่การสร้างเพจ  การแพ็คปลา การจัดส่ง และ การทำตลาดต่างประเทศ”คุณหน่อย เล่าอย่างนั้น

กระทั่งปี 2558 แฟนเพจ  BettaberryThailand ขายปลากัดออนไลน์ ก็เกิดขึ้น  รวมทั้งมีการเข้าไปโพสต์ขายในเว็บไซต์  www.aquabid.com

“เราทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ต้องขยันถ่ายรูปและโพสต์เยอะๆ  ตอนนั้นตั้งใจว่าขอรายได้แค่อาทิตย์ละหมื่น แต่ปรากฏว่าได้มาเดือนละเกือบแสน เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่คิดอยากทำอยู่นานหลายปีแล้ว เพราะถ้าไม่ลาออกตั้งแต่ตอนนั้นก็คงต้องอยู่ถึงเกษียณ”คุณหน่อย เล่าอารมณ์ดี

ก่อนย้อนให้ฟัง ลงทุนเริ่มแรก ด้วยการหาซื้อปลามาจากตลาดปลา โดยคัดตัวสวยๆมา 5 ตัว ตัวหนึ่งไม่เกิน 30 บาท และซื้อ   ”เหลี่ยมใส่ปลา”มาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ จากนั้นนจึง “ไอโฟน”ถ่ายรูปปลาหลายๆมุมตามที่ถูกสอนเทคนิคมา ก่อนพากันเข้าร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อโพสต์รูป เสียค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 30 บาท

“โพสต์ขายปลากัดตัวแรกที่เว็บขายปลา ตั้งราคาประมูลไว้ที่ 30 ดอลล่าร์สหรัฐ  แต่จบที่ 36 ดอลล่าร์ ตอนนั้นตื่นเต้นมากและกำลังใจเริ่มมา ก่อนเดินหน้าทำธุรกิจอย่างจริงจังมาถึงทุกวันนี้”คุณหน่อย บอกอย่างนั้น

และว่าถึงอุปสรรคในการทำธุรกิจนี้ให้ฟัง ในวงการปลากัด คนขายมักชอบขายตัดราคากัน แต่จากการไปอบรมเรื่องการสร้างแบรนด์มา ทำให้รู้ว่าสินค้าราคาถูกใช่ว่าจะมีคนต้องการซื้อเสมอไป

“ปัญหาที่เจอมีตั้งแต่แรก คือ กลัวจะขายไม่ได้ พอขายได้แล้ว ก็มีปัญหาลูกค้าไม่จ่ายเงินบ้าง เมื่อลูกค้าโอนเงินมาแล้วปลาตายบ้าง นอกจากนี้เราต้องถ่ายรูปแล้วส่งให้ลูกค้าดูเพื่อให้แน่ใจว่าว่าไม่ได้เอาปลาไปขายให้ลูกค้าเจ้าอื่นในราคาที่สูงกว่า สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แถสหรัฐอเมริกาและยุโรป  ส่วนภาษาสื่อกันนั้น ไม่ใช่อุปสรรคอะไร เพราะใช้กูเกิ้ลช่วยแปล”คุณหน่อย บอกก่อนหัวเราะร่วน

เมื่อถามถึงความตั้งใจในธุรกิจ คุณหน่อย บอก ปัจจุบันแหล่งรับซื้อปลากัดก่อนนำไปโพสต์ขายออนไลน์ ได้กำไรมาหลายเท่าตัวนั้น ส่วนใหญ่เป็นฟาร์มเลี้ยงของเกษตรกรที่อยู่ในจังหวัดนครปฐมบ้านเกิดของเธอเอง ช่วงที่ไปตระเวนรับซื้อ   เลยเสนอราคาให้สูงกว่าราคาขายส่งทั่วไป พร้อมกับพยายามแนะนำลูกหลานของเกษตรกรผู้เลี้ยงว่า ถ้านำปลากัดที่เพาะพันธุ์ได้ไปโพสต์ขายออนไลน์ จะได้ราคาดีกว่าขายส่งหลายเท่าตัว ซึ่งหลายคนให้ความสนใจและไปลองทำบ้างแล้ว

“ปลากัดของไทย กำลังเป็นที่นิยมของชาวต่าง อาชีพขายผ่านออนไลน์นี้ สามารถทำได้ทั้งเป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลัก แต่ต้องอาศัยคนรุ่นใหม่มาช่วยกันพัฒนาสายพันธุ์และเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้หลากหลายขึ้น มากกว่าเพาะเลี้ยงไว้แล้วรอลูกค้ามาซื้อแค่หน้าฟาร์ม”คุณหน่อย บอกส่งท้าย

สนใจเพิ่มติดต่อ 098-253-6369 หรือ Facebook/Napat Tantanaporn( Bettaberry Thailand)