“อยู่ประเทศไทย ไม่รักในหลวงแล้วจะไปรักใคร” คำจากใจ “เจ๊ลัง” ผู้จงรักภักดี

ใครที่เคยมีโอกาสผ่านไปแถวคลองสอง ถนนรังสิต-นครนายก ขาออก อาจเคยเห็นตลาดนัดขนาดใหญ่ ที่เปิดขายกันช่วงเย็นไล่ไปจนถึงราวสามทุ่มเศษ

 

และถ้าได้เดินเข้าไปด้านในเพื่อหาซื้อของกินของใช้ จะต้องได้เห็นการตกแต่งภูมิทัศน์ของตลาดด้วยภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขนาดใหญ่ เรียงรายเป็นระเบียบ งดงามน่าทึ่ง

สอบถามถึงที่มาแนวคิดดังกล่าว คุณสุดใจ แซ่แต๋ง เจ้าของตลาดพระรูปคลองสอง ดังเกริ่นมาข้างต้น กรุณาสละเวลามาพูดคุยด้วย แม้กำลังง่วนกับการขายข้าวสวยอยู่

“พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ ปัจจุบันอายุ 61 ปี ชื่อเล่นไม่มี แต่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า เจ๊ลัง” คนต้นเรื่อง เริ่มต้นพูดคุยด้วยบุคลิกเป็นกันเอง

ก่อนย้อนความเป็นมาให้ฟัง ก่อนทำตลาดนี้ เคยทำเสื้อผ้าส่งออกมาก่อน พอเลิกทำเสื้อผ้า มีโอกาสมาพักร้อนย่านรังสิต ลูกน้องชวนมาส่งขนมปังในตลาดนัด เลยคิดอยากเช่าที่ทำตลาดนัดบ้าง จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ราว 17 ปีกว่าแล้ว

คุณสุดใจ แซ่แต๋ง เจ้าของตลาดพระรูปคลองสอง

“ปัจจุบันเช่าที่ดินไว้หนึ่งร้อยไร่ เพื่อทำตลาดนัดนี้  และด้วยความที่นับถือเสด็จพ่อ ร.5 ตอนทำตลาดเลยนำรูปของพระองค์ท่านมาตั้งไว้ด้านหน้า คนแถวนี้เลยเรียกกันติดปากว่า ตลาดพระรูป เลยใช้ชื่อนี้ตั้งแต่นั้นมา” เจ๊ลัง เล่าให้ฟังอย่างนั้น

ปัจจุบันตลาดพระรูปแห่งนี้ มีผู้ประกอบการน้อยใหญ่ราว 300 ราย โดยเจ๊ลัง เจ้าของตลาดนั้น มีแผงขายของตัวเองอยู่หนึ่งแผง คือ ข้าวสวยห่อละห้าบาท

และด้วยความที่เป็นคนกระตือรือร้น ที่ผ่านมาในฐานะผู้ดูแลภาพรวมทั้งหมดของตลาด เจ๊ลัง จึงมักจัดกิจกรรมภายในอยู่เป็นประจำ เพื่อความเป็นเอกภาพของคนทำมาค้าขาย ใต้ชายคาเดียวกัน

“ตอนในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังไม่สิ้น จะให้พ่อค้าแม่ขาย ใส่เสื้อเหมือนกันเจ็ดสีเจ็ดวันเลย เราแจกเพื่อความเรียบร้อยสวยงาม ใส่เอี๊ยม ใส่หมวก ตามสีของวันด้วย  พอท่านสิ้น ก็แจกเสื้อสีดำ เอี๊ยม หมวกสีดำ ให้หมด ใส่ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ปีที่แล้ว เป็นต้นมาจนถึงวันนี้” คุณสุดใจ เล่าเสียงหม่น

เมื่อถามถึงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร. 9 ขนาดใหญ่ ที่มีการนำมาตกแต่งไว้ทั่วตลาด ประดับประดาอย่างเป็นระเบียบสวยงาม คำนวณด้วยสายตาคงต้องใช้งบประมาณการทำมากโขอยู่ คุณสุดใจ บอกด้วยเสียงดังฟังชัด

“อยู่ประเทศไทยไม่รักในหลวง แล้วจะไปรักใคร  อย่าไปคิดเป็นตัวเงินเลยว่าลงทุนไปเท่าไหร่ มันมากมายมหาศาล แต่คุณค่ามีมากกว่านั้น สำหรับพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ ที่ผ่านมาเคยให้มหาวิทยาลัย โรงเรียน นำไปประดับหอประชุมมาแล้ว  ใครมาขอเราให้หมดเพราะทำไว้แจกอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าจะนำไปติดตรงไหน ต้องสมพระเกียรติด้วยถึงจะให้”

คุณสุดใจ ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้าวันที่ 13 ตุลาคม ปีที่แล้ว กิจกรรมสำคัญของพ่อค้าแม่ขายนับร้อยชีวิตในตลาดพระรูป จะต้องทำตอนห้าโมงเย็นและหลังสามทุ่มของทุกวัน นั่นคือการร่วมกันร้องเพลงเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9

แต่หลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคต พวกเราจะร่วมกันร้องเพลง “รักพ่อ…ไม่มีวันพอเพียง” ตอนเวลาห้าโมงเย็น ก่อนเริ่มทำการค้าขาย จากนั้นราวเวลาหลังสามทุ่มก่อนกลับบ้าน จะร่วมกันร้องอีกสามเพลง คือ “ผู้ปิดทองหลังพระ”, “ค่าของแผ่นดิน” และ “รักพ่อ…ไม่มีวันพอเพียง” ซึ่งตลอดที่ร่วมกันทำมา ได้รับความร่วมมือจากบรรดาพ่อค้าแม่ขายเป็นอย่างดี

เจ้าของตลาดพระรูป วัย 61 ปี ท่านนี้ บอกส่งท้ายถึงความตั้งใจในอนาคตอันใกล้นี้ว่า กำลังติดต่อสถาปนิก ให้มาช่วยออกแบบการตกแต่งอาคารด้านหลังตลาด  จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ในหลวงรัชกาลที่ 9  เพราะตัวเธอเองนั้นสะสมสิ่งของเกี่ยวกับพระองค์ท่านมานานแล้ว ปัจจุบันจึงมีอยู่มากมาย ทั้งพระบรมรูปปั้น พระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ เหรียญตรา ฯลฯ

“พิพิธภัณฑ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตั้งใจจะสร้างขึ้นในครั้งนี้ หวังให้ลูกหลานรุ่นต่อไปได้ศึกษาเรียนรู้ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์สืบต่อไปตราบนิรัดร์” คุณสุดใจ บอกเสียงแผ่ว แววตาโศกเห็นได้ชัด