“กล้องถ่ายภาพของพระองค์ท่าน คือ กล้องมหัศจรรย์ที่สุดในโลก”

การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าให้ถ่ายภาพกันเพื่อความสนุกสนาน หรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

พระราชทานแก่คณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

…………………

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา คุณวีระยุทธ  ทองโชติ อายุ 38 ปี พนักงานประจำในโรงงานสกรีนเสื้อแห่งหนึ่ง มักใช้เวลาว่างหลังเลิกงานตั้งแต่เย็นจนถึงดึกดื่นค่อนคืน ไปคอยเก็บขยะรอบสนามหลวง และอาสา “ถ่ายรูปฟรี” ให้กับประชาชนทุกเพศทุกวัยที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ นับแต่วันแรกถึงวันนี้ นับได้กว่า 50 ครั้งเห็นจะได้

“เมื่อใดที่นึกถึงกล้องที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก กล้องที่ถ่ายภาพถิ่นทุรกันดาร ให้กลับมาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ กล้องที่ถ่ายพื้นที่แห้งแล้งให้กลายมาเป็นพื้นที่ทำกิน กล้องที่ถ่ายทุกข์ยากความลำบากของพสกนิกรให้กลับกลายเป็นความสุข ด้วยพระอัจฉริยภาพจากโครงการในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผมจะต้องนึกถึงกล้องถ่ายภาพของพระองค์ท่าน” คุณวีระยุทธ เริ่มต้นอย่างนั้น

และว่า จากแนวคิดที่ว่า กล้องของตัวเองน่าจะทำประโยชน์ให้ผู้อื่นได้บ้าง ไม่มากก็น้อย จึงอยากถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้ประชาชนไทยที่มาสักการะพระบรมศพ จึงเริ่มเดินทางไปท้องสนามหลวงและบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง โดยใช้เวลาที่ว่างหลังเลิกงาน โดยทำป้ายบอกแสดงตัวว่า “ถ่ายรูปฟรี”  โดยอาศัยใช้ช่องทางการนำส่งรูปโดยการรวมเป็นอัลบั้มโพสต์ไว้ใน Facebook /รักคนปั่น ซึ่งแต่ละคนสามารถเข้าไปเซฟรูปของตัวเองได้ตามสะดวกหรือใครอยากได้ไฟล์ที่มีความละเอียดสูงเพื่อนำไปอัดขยาย เขาก็ส่งให้ได้ฟรีทางอีเมล

“ช่วงแรกจะนำถุงขยะติดตัวไปด้วย เนื่องจากมีประชาชนมารวมตัวกันมหาศาล ย่อมก่อให้เกิดขยะจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อาจต้องใช้กำลังจำนวนไม่น้อยในการจัดการ ซึ่งความคิดนี้ไม่เสียเปล่า มีจิตอาสาอีกมากมายเต็มใจมาถือถุงเก็บขยะเป็นเพื่อนกัน” คุณวีระยุทธ เล่าอย่างนั้น

ก่อนบอกต่อ เวลานั้นสิ่งที่ทำเป็นประจำเวลาไปที่ท้องสนามหลวง คือ เดินถือถุงเก็บขยะไปด้วยและถ่ายรูปให้ประชาชนไปด้วย แต่ช่วงหลังเริ่มวางแผนการทำงาน  เปลี่ยนเป็นเมื่อไปถึงจะเน้นเดินเก็บขยะก่อนสักรอบหรือสองรอบสนามหลวง แล้วค่อยปักหลักรอถ่ายรูป พอต่อมา มีการจัดระเบียบการเก็บขยะดีขึ้นมาก และมีการงดให้แจกจ่ายอาหารบริเวณท้องสนามหลวง สิ่งที่เขาทำเลยเหลือเพียงอย่างเดียว คือ ถ่ายรูปฟรี

“52 วันที่ได้ไปทำสิ่งนี้ คือ ตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2559 ถึง 12 กันยายน 2560 เป็นช่วงเวลาที่ได้เจอหลากหลายเรื่องราวและหลากหลายผู้คนที่มา แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นจากทุกคนที่มานั่นคือ การน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้ของในหลวงรัชกาลที่ 9  ที่ประชาชนทุกคนล้วนแต่ตั้งใจที่จะมาสักการะ ไม่ย่อท้อต่อความเหนื่อย ความหิว การรอ หรือทุกอุปสรรคใดๆ ทุกคนล้วนมาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน บ่อยครั้งที่ขากลับจากสนามหลวง ผมจะเห็นประชาชนจำนวนไม่น้อย มานั่งคอยปูเสื่อรอหรือนอนรอเพื่อที่จะได้คิวเข้าสักการะในรุ่งเช้าหลังจากวันนั้นหมดเวลาเข้าสักการะแล้ว บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดและยินดีที่จะรอข้ามคืนเพื่อให้ได้เข้าสักการะตามความตั้งใจที่มา

คุณวีระยุทธ ทองโชติ

หลายคนมาเป็นหมู่คณะ หลายคนมาคนเดียว ส่วนมากมักถ่ายภาพได้แค่จากโทรศัพท์มือถือของตัวเอง แม้บางคนมีกล้องถ่ายรูปมาก็ไม่สามารถถ่ายตัวเองได้ การที่ผมได้มาถ่ายรูปให้ประชาชนฟรีแบบนี้ จึงไม่แปลกที่จะได้รอยยิ้มและคำขอบคุณเป็นการตอบแทนกลับมา และแต่ละคำขอบคุณทุกคำนี่เอง ที่เป็นกำลังใจและแรงขับให้อยากจะมาถ่ายรูปฟรีเป็นที่ระลึกให้ประชาชนตราบเท่าที่จะมีโอกาส” คุณวีระยุทธ ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น

…………

ภาพประกอบจาก Facebook/รักคนปั่น