เริ่มต้นไม่ตั้งใจ ปัจจุบันกลายเป็น “เจ้าใหญ่” แวดวงจักรยานญี่ปุ่นมือสอง

ตั้งต้นตั้งแต่ยังไม่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง กระทั่งถึงวันนี้ ธุรกิจก็ยังดำเนินมาได้แบบไม่ต้องอิงกระแส

หากใครเคยผ่านไปแถวถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เลี้ยวซ้ายซอยวิภาฯ 60 แล่นเข้าไปราว 200 เมตร เห็นป้ายแยก 1 มองทางซ้ายมือ อาจต้องตื่นตา-ตื่นใจ กับภาพที่เห็นตรงหน้า

บนที่ดินขนาดหลายร้อยตารางวา ด้านหน้าเป็นลานซีเมนต์กว้างขวาง ถัดเข้าไปเป็นโกดังขนาดใหญ่หลังคาสูง  มีจักรยานมือสองสารพัดแบบ ทั้งจอดทั้งแขวน เรียงรายเป็นทิวแถวสุดลูกหูลูกตา อยู่ภายในจำนวน…นับพันคัน

BB Bike (บีบี ไบค์) คือ ร้านขายจักรยาน ขนาด “อลังการ” มี คุณเบน-พาสิษฐ์ อนันต์ธนานุกูล  เถ้าแก่หนุ่ม วัยยี่สิบเศษมาเป็นตัวแทนธุรกิจให้ข้อมูล

“ที่ดินตรงนี้แต่เดิมเปิดเป็นอู่รับซ่อมรถโฟร์วีล ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว” คุณเบน เริ่มต้นอย่างนั้น ก่อนบอกต่อว่า คุณพ่อ-คุณแม่ของเขา ทำธุรกิจหลายอย่าง อาทิ เปิดบริษัท Shipping เป็นตัวแทนนำเข้าอะไหล่รถยนต์ รวมทั้งเปิดอู่ซ่อมรถโฟร์วีล แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจจักรยานแต่อย่างใด

กระทั่งเมื่อราว 3-4 ปีก่อนหน้านี้ มีเพื่อนของคุณพ่อคนหนึ่ง ซึ่งนำเข้าจักรยานมือสอง ทั้งเสือหมอบ เสือภูเขา จักรยานพับ จักรยานแม่บ้าน ฯลฯ จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามา 1 ตู้คอนเทนเนอร์ หวังมาขายในไทย แต่เกิดปัญหาติดขัดจนทำไม่ไหว จึงขอนำรถจักรยานดังกล่าวมาฝากไว้ในอู่โฟร์วีลที่บ้านของตนก่อน

ต่อมาไม่นานหลังจากเขาเดินทางกลับมาจากดูงานที่ญี่ปุ่น จึงทราบว่า คุณพ่อของเขารับซื้อรถจักรยานจำนวนกว่า 1,000 คัน จากเพื่อนคนดังกล่าวไว้ทั้งหมด ก่อนจะมีคำสั่งออกมาสั้นๆ “ช่วยกันทำหน่อย” ให้เขาและ คุณบ๊อบ พี่ชาย ดำเนินงานทันที

“จักรยานกว่า 1,000 คัน ที่ซื้อต่อมาล็อตแรก มีหลายแบบคละกัน ทั้งหมดถูกถอดชิ้นส่วนออกแล้ว ต้องนำมาทำความสะอาดและประกอบใหม่ ตอนนั้นยังไม่มีความรู้อะไรมากนัก อาศัยแค่มีความชอบมอเตอร์ไซค์เป็นทุนเดิม เลยชวนเพื่อนสมัยเรียนมัธยมฯ ราว 4-5 คน ระดมมาช่วยกัน หยิบทีละคันมาประกอบก่อนนำออกขาย” คุณเบน เล่าเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้น

เมื่อได้จักรยานสารพัดแบบพร้อมจำหน่ายออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไป เพียงนำไปวางเรียงในโกดัง ไม่มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อใดๆ

แต่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ก็ “วอล์กอิน” เข้ามาเลือกซื้อหากันไปคนละคันสองคัน แทบทุกวัน ทำให้จักรยานจำนวนกว่า 1,000 คัน ขายหมดภายในเวลาไม่เกิน 4 เดือน

แม้จะเริ่มต้นธุรกิจด้วยความไม่ตั้งใจเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นว่า “ขายได้ กำไรดี” ครอบครัวอนันต์ธนานุกูล จึงมีความเห็นและลงมติพ้องกัน เดินหน้าธุรกิจซื้อขายจักรยานญี่ปุ่นมือสองต่อไปอย่างจริงจัง โดยให้ญาติผู้พี่ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ออกตระเวนซื้อหารถจักรยานมาเก็บไว้ในสต๊อก เมื่อได้ตามจำนวนต้องการจึงนำใส่ตู้คอนเทนเนอร์ก่อนลงเรือส่งมายังประเทศไทย โดยไม่ผ่านคนกลาง

นึกสงสัยทำไมญี่ปุ่นจึงเป็นแหล่งสำคัญในการรับซื้อจักรยานมือสอง คุณเบน อธิบายให้หายข้องใจ

“ที่ญี่ปุ่นมีจักรยานมือสองเหลือใช้กองเป็นภูเขา นับแสนๆ คัน เหล่านี้มักมาจากการยึดโดยทางราชการ เช่น ทะเบียนขาด จอดที่สถานีรถไฟแล้วกลับมาไม่ทัน เมื่อหน่วยงานนำออกประมูลขาย เราจะไปซื้อต่อมา”

 หลังจากมี “สินค้า” อยู่ในมือ ขั้นตอนต่อไปของการทำธุรกิจ BB Bike คือ จ้างช่างประจำร้านมาทำหน้าที่หลัก คือ ประกอบจักรยาน ปัจจุบันมีทีมงานอยู่ 5 คน แบ่งเป็นช่างล้าง 2 คน ช่างประกอบ 3 คน แต่นั้นยังไม่เพียงพอกับการรับ “งานนอก” เพราะลำพังรถจักรยานที่สั่งเข้ามาแต่ละครั้งก็มีจำนวนนับพันคันแล้ว

“อุปสรรค ของการทำธุรกิจนี้ คือ ลูกน้องหายาก ทั้งช่างล้างและช่างประกอบ อาจเพราะ งานซ่อมจักรยาน เป็นงานจุกจิก คนประกอบต้องมีความละเอียดมาก เราอาจเห็นแค่ มีโซ่ มีล้อ มีเฟรม ก็จริง แต่พอเจาะลึกจริงๆ แล้วมันยาก คนล้างก็ต้องล้างเป็นไม่งั้นสีถลอก ขายไม่ได้” คุณเบน เผยอย่างนั้น

ถามไถ่ถึงลูกค้าเข้ามาอุดหนุน เจ้าของกิจการ ยิ้มกว้าง ก่อนบอก มีหลากหลาย เริ่มตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงวัยอาวุโส แต่ลูกค้ากลุ่มใหญ่มักอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะมีการบอกต่อกันทางสื่อออนไลน์เป็นระยะ ทุกวันนี้เขาเลยทำเว็บไซต์ของร้าน และมีแฟนเพจในเฟซบุ๊กแล้ว

เกี่ยวกับราคาขายสินค้าในร้าน คุณเบน อธิบาย เริ่มต้นต่ำสุดอยู่ที่ 2,200 บาท ไล่เรียงไปถึงหลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาท ส่วนหลักในการตั้งราคาขายนั้น จะสำรวจในท้องตลาดก่อนว่า “เปิด” กันอยู่ที่เท่าไหร่ จากนั้นเขาจะตั้งราคาถูกกว่า เหตุผลที่ดำเนินธุรกิจลักษณะนี้ได้ เป็นเพราะนำเข้ามาเองไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

สำหรับคู่แข่งในวงการเดียวกัน คุณเบน บอก ไม่ให้ความสำคัญมากนัก เพราะกิจการของเขามักเน้นการบริการให้ดีที่สุดมากกว่า

“ลูกค้ามาที่นี่ สามารถทดลองปั่น จนกว่าจะพอใจ หากอยากลองคันไหน ราคาขายกี่หมื่นกี่แสน ลองได้เต็มที่เลย อยากให้คนที่สนใจเข้ามาคุยกันก่อน ไม่ซื้อไม่เป็นไรครับ” คุณเบน ฝากประชาสัมพันธ์ ทิ้งท้าย

BB Bike ศูนย์จำหน่ายจักรยานญี่ปุ่นมือสอง ทั้งปลีก-ส่ง เปิดจันทร์-เสาร์ ปิดเฉพาะวันอาทิตย์

ตั้งอยู่ เลขที่ 21/59 ถนนวิภาวดีรังสิต ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แยก 1 แขวงตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-579-0144 Facebook/BB bike

 

.ภาพจาก Facebook/BB bike