ตลาด Portobello ใหญ่สุดในโลกนะเขาว่า

คนไทยที่ไม่เคยมาลอนดอน จะรู้จักลอนดอนแถวริมแม่น้ำเทมส์ แถวหอนาฬิกา แถวสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ เพราะเป็นที่สวย ใครต่อมิใครก็พากันไปที่นั่น ไปเดินเล่น ไปถ่ายรูป ตอนเย็นๆ นั่งริมน้ำดูผู้คนก็สุขเกินจะกล่าวแล้ว รูปลอนดอนที่กระจายไปทั่วโลกก็มักจะมาย่านนี้

นักท่องเที่ยวที่มาลอนดอนเขาจะพากันไปเที่ยวที่นั่นที่นี่มากมายทั้งวัน แต่ตอนค่ำจะมารวมกันแถวแม่น้ำเทมส์ เหมือนกับที่นักท่องเที่ยวในปารีสจะพากันไปรวมตัวกันที่หอไอเฟลเพื่อดูไฟ ดังนั้น อยากเจอใครให้มาเดินหากันแถวนี้ จะไม่พลาด

คนไทยอีกไม่น้อยที่ไม่เคยมาลอนดอน แต่รู้จักลอนดอนผ่านหนังเรื่อง Notting Hill ที่ถ่ายทำในย่านน็อตติ้งฮิลล์ (Notting Hill) ซึ่งเป็นชานเมืองลอนดอน อยู่ทางทิศตะวันตกของลอนดอน เป็นย่านเล็กๆ ฮิปๆ มีร้านหนังสือ ร้านกาแฟ ร้านดอกไม้ ร้านขายงานศิลปะ เรียกว่าโรแมนติกมากงั้นเถอะ นักท่องเที่ยวจำนวนมากมายพากันตามรอยหนังเรื่องนี้ ย่านน็อตติ้งฮิลล์จึงเป็นที่รู้จัก ผู้คนแห่แหนไปเดินเล่น ไปถ่ายรูปกันครึ่ดๆ แต่ที่ฉันเห็นนะ ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวรุ่นเดียวกับหนังนั่นแหละ คือเป็นหนุ่มสาวเมื่อ 20 ปีก่อน ส่วนพวกคนรุ่นใหม่วัยต่ำกว่า 40 นี่ไม่ค่อยเห็นเขาตื่นเต้นเท่าไหร่ เขาไปตื่นเต้นตอนนั่งลอนดอนอาย ชิงช้าสวรรค์ใหญ่ยักษ์ริมแม่น้ำเทมส์กันมากกว่า

ลอนดอนมีที่ควรเที่ยวอยู่ 4 อย่าง พิพิธภัณฑ์ ปราสาท ตลาด และสวนสาธารณะ ซึ่งมีมากมาย และส่วนใหญ่ให้บริการฟรี

ตลาดนัดของลอนดอนก็ขึ้นชื่อว่าน่าเดินนัก เพราะอากาศดี บ้านเมืองสวยงาม สะอาดสะอ้าน (ว่าไปทำไมมี ฉันเคยเจอเขาจัดงานวิ่งมาราธอนข้ามแม่น้ำเทมส์มีคนหลายพัน เสร็จงานแล้วขยะแทบจะถมเมืองได้ แต่เขาก็จัดการให้เสร็จโดยไวนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่นี่ไม่ทิ้งขยะแบบหน้ามึนนะ มึนเหมือนกัน)

ตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของลอนดอนก็คือ ตลาดพอร์โทเบลโล (Portobello) เขามีทุกวันเสาร์ ตั้งอยู่บนถนนชื่อเดียวกับตลาดนั่นแหละ อยู่ในเขตน็อตติ้งฮิลล์อันแสนโด่งดัง (สำหรับคนรุ่นฉัน)

ที่ว่ามีทุกวันเสาร์หมายถึงเขาจะปิดถนนให้เดินกันทั้งวัน แต่วันธรรมดานี่ร้านรวงต่างๆ ก็เปิดขายกันปกติ เรียกว่ามีตลาดทุกวันนั่นแหละ เพียงแต่ไม่ปิดถนนเท่านั้น อ้อ! วันอาทิตย์เขาปิดกันเกือบหมดนะคุณ อย่ามา

พอร์โทเบลโลเป็นย่านเก่าแก่นะ แต่ก่อนโน้นเคยเป็นบ้านนอกคอกตื้อ ชื่อพอร์โทเบลโลนั่นก็มาจากชื่อฟาร์มใหญ่ที่ตั้งอยู่สมัยร้อยกว่าปีโน้น คือ จะมาแถวนี้ไม่รู้จะเรียกอะไรก็เรียกชื่อฟาร์มนั่นเอา

ตลาดของเขานี่ก็สืบทอดกันมาเป็นร้อยปีเหมือนกัน ก่อนนี้ก็เป็นตลาดขายกับข้าวกับปลาธรรมดา จนเมื่อ 70 กว่าปีก่อน ก็เริ่มมีคนเอาข้าวของอย่างอื่นเข้ามา แล้วก็ค่อยๆ ขยับขยายมาจนใหญ่โต และกลายเป็นจุดสนใจของคนทั่วโลกที่มาลอนดอน

ตลาดจะทอดตัวยาวไปตามถนน เป็นระยะทางกว่า 2 กิโล เขาบอกว่าเป็นตลาดขายของเก่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เอาละสิ ฉันไปมาหลายตลาดแล้วที่เขาว่าเขาใหญ่ที่สุดเนี่ย ฉันยังปักใจไม่ชัดระหว่างตลาดพอร์โทเบลโลนี่ กับตลาดโรสโบว์ล (Rose Bowl) ที่เมืองพาซาดีนา แคลิฟอร์เนีย ที่ฉันรู้สึกว่ามโหระทึกมาก เพราะเล่นกระจายกันไปทั้งท้องทุ่ง อันไหนจะใหญ่กว่ากัน

ในตลาดจะมีร้านรวงมาขายของกว่า 1,000 ร้าน ไล่กันตั้งแต่ของเก่าที่วางขายกันกองๆ เหมือนคลองถม ของเก่าที่คัดสรรขัดสีฉวีวรรณมาพอควร ของเก่าหายาก ของโบราณ งานศิลปะ ของสวยของงาม ไปจนถึงสินค้าธรรมดาที่หาซื้อได้ทั่วไป มีอาหาร ดนตรี มีศิลปินนั่งวาดภาพ เรียงรายไปตลอดแนวยาวของถนน

ฉันชอบเดินตลาด แต่ฉันไม่ค่อยซื้อข้าวของนัก อยากได้น่ะอยากอยู่ แต่ฉันขี้เกียจหอบหิ้ว เวลาซื้อนั้นมันสนุกดีแท้ แต่กว่าจะหอบหิ้วมันไปถึงบ้านได้นี่ แสนสาหัส ฉันจึงเลือกที่จะนั่งกินกาแฟมองนักดนตรีกับศิลปินหล่อๆ มากกว่า ทำเป็นเนียนถามนั่นถามนี่ก็ดีนะ มันชุ่มชื่นหัวใจยิ่งนัก

บนถนนนี้มีร้านขายของเก่าที่ขึ้นชื่อมานานอยู่ร้านหนึ่ง ชื่อร้าน Alice’s! It มีข้าวของแปลกๆ ให้เลือกสรรมากมาย ไปเดินตลาดอย่าลืมแวะเข้าไปด้วยนะ

เวลาไปเดินตลาดพวกนี้ต้องแต่งตัวสวยนะคุณ บรรยากาศมันเหมาะสำหรับการแต่งตัวสวยมาก และพ่อค้าก็หล่อๆ ทั้งนั้นน่ะ

 อันนี้ย้ำแล้วนะ อย่าหาว่าไม่เตือน