เผยแพร่ |
---|
ในปัจจุบัน เกือบทุกๆ บ้านจะต้องมีเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายอากาศร้อน โดยเฉพาะฤดูร้อนบ้านเราที่ร้อนสุดๆ และแน่นอนว่าทำให้ค่าไฟในบ้านสูงตามมา ยิ่งถ้าเป็นเครื่องปรับอากาศที่ใช้งานมานานแล้ว ก็ย่อมกินไฟเป็นธรรมดา และการใช้อย่างไม่ถะนุถนอม ดูแลเป็นประจำ ก็จะทำให้เครื่องปรับอากาศของเราไม่เย็นเหมือนอย่างที่เคยใช้ และเสียค่าใช้จ่ายในการเรียกช่างมาซ่อมอีก วิธีการที่จะดูแลแอร์ไม่ให้เสียหรือไม่เย็นอยู่บ่อยครั้งที่ผู้ใช้ควรจะรู้ มีดังนี้
1.เช็คขนาดห้องและจำนวนคนให้เหมาะกับแอร์ที่เราเลือกซื้อมา เพราะว่าถ้าห้องขนาดใหญ่ แต่ซื้อแอร์เครื่องเล็กมา แน่นอนว่าตัวแอร์ย่อมทำงานหนัก เพื่อที่จะให้อากาศเย็นส่งทั่วถึง และ
2.ต้องตั้งโหมดความเย็นให้ถูกต้อง เพราะหลายๆ ครั้งเรามักจะตั้งโหมดความเย็นผิด ให้ลมธรรมดาออกมาอย่างเดียวก็ไม่แปลก ถ้าลองดูที่รีโมตดีๆ และปรับเป็นโหมดเย็นก็จะได้สูดอากาศเย็นจนชุ่มปอดเลย
3.หมั่นทำความสะอาดฟิลเตอร์ที่กรอกอากาศ เพราะว่าพวกฝุ่นหรือสิ่งสกปรกจะขวางทางแอร์ ทำให้ตัวแอร์ต้องทำงานหนัก และใช้พลังงานมากกว่าปกติ เพื่อไม่ให้พวกฝุ่นหรือสิ่งสกปรกมาขวางทางแอร์ ควรจะล้างฟิลเตอร์ทุกๆ สัปดาห์ ให้ลมเย็นๆ และอากาศที่สะอาดๆ ออกมา
4.เช็คคอมเพรสเซอร์แอร์ที่อยู่นอกบ้าน ว่ายังทำงานปกติอยู่หรือไม่ เพราะว่าเจ้าตัวคอมเพรซเซอร์แอร์จะทำงานสัมพันธ์กันกับตัวเครื่อง ถ้าหากว่าขัดข้อง ก็จะทำให้ลมเย็นออกมาไม่ได้ ลองตรวจสอบเบรคเกอร์ดูก่อน ถ้ายังไม่ทำงานก็ตามช่างมาดู
5.โดยปกติแล้วนำยาแอร์จะอยู่ในระบบความเย็นตลอดอายุการใช้งาน แต่สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นหรือว่ามีน้ำแข็งเกาะอยู่ ก็น่าจะมาจากท่อแอร์มีรอยรั่ว ทำให้น้ำยาแอร์ระเหยออกมาจนหมด จนลมที่ออกมาไม่มีลมเย็นเลย ในกรณีนี้ควรเรียกช่างมาซ่อมโดยเร็ว อย่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ จนท่อแอร์เสื่อมไป
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้แอร์เย็นและสามารถประหยัดค่าไฟไปได้พร้อมๆ กัน คือการเติมน้ำยาเร่งความเย็นของ IceCOLD เพราะว่าเจ้าน้ำยานี้จะเข้าไปช่วยทำความสะอาดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกที่เกาะตามท่อแอร์ และช่วยทำปฏิกิริยากับน้ำยาแอร์ที่เราเติมไปอยู่แล้วให้เย็นมากขึ้น หมุนเวียนได้ดีขึ้น ทำให้ลมแอร์ที่ออกมาเย็นเร็ว พออากาศเย็นเร็ว ตัวแอร์ก็ไม่ต้องทำงานหนัก สามารถประหยัดค่าไฟและยืดอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย