เคยเห็นยัง! Dogdays โรงแรม 5 ดาว บริการ“น้องหมา”

แม้จะเป็น “น้องใหม่”ของแวดวงงานบริการด้านที่พัก

แต่เจ้าของกิจการ อาจไม่ใช่หน้าใหม่ในธุรกิจสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นผู้ให้บริการรรถรับ-ส่งสุนัข  แบรนด์  PetXi Limo (เพ็ทซี่ ลีโม่)  มาได้หลายปีแล้ว

 

คุณเพอรี่(ซ้าย) คุณแอน (ขวา) ต้อนรับคุณแทมมี่ นักเทนนิสคนดัง

คุณแอน-ฐิติพร น้อยพานิช และ คุณเพอรี่ –สุทิศา ปาติยเสวี สองสาวเจ้าของกิจการที่เกริ่นไว้ กรุณาสละเวลามาให้ข้อมูลด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้ม  เริ่มต้นให้ฟัง กิจการเพ็ทซี่ฯ ผลตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้ามีการบอกต่อว่าสะดวกและไว้ใจได้ และใช้บริการเป็นประจำอยู่กลุ่มหนึ่ง

แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้มีการ “ต่อยอด”มาทำธุรกิจโรงแรมน้องหมา เพราะความจริง โครงการสร้างโรงแรมนี้มีมาก่อนเพ็ทซี่ฯเสียอีก  แต่เพราะยังติดขัดในหลายเรื่องจึงเลือกทำเพ็ทซี่ฯก่อน

ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบ เพราะมีโอกาสเรียนรู้นิสัยของสุนัขแต่ละสายพันธุ์รวมถึงนิสัยของเจ้าของแต่ละคนมากขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้กับกิจการล่าสุดนี้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่างสองธุรกิจ สองสาวฯช่วยกันเล่า ลูกค้าของเพ็ทซี่ฯ ส่วนใหญ่มีความต้องการด้านความช่วยเหลือ เช่น พาไปหาหมอ พาไปส่งบ้าน ฯลฯ ซึ่งความยากจะอยู่ที่การเข้าถึงลูกค้าได้ทันเวลา

หากสำหรับโรงแรม “น้องหมา” ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการพาสุนัขมาพักผ่อน หาความสนุกสนาน  ฉะนั้นโจทย์ความยากของการทำธุรกิจนี้  จึงอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรให้ทั้งหมาและเจ้าของมีความสุข

“การฝากหมา-แมว สมัยนี้พัฒนาขึ้น เมื่อก่อนอาจมีแค่คลินิกหรือโรงพยาบาล  ที่พอไปฝากก็นำเข้ากรง ปล่อยให้นอนเหงาๆไป  แต่โรงแรมฯของเรา อยากทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแค่พาน้องหมา มาเปลี่ยนบ้านอยู่แค่นั้น”คุณแอน อธิบายแนวคิด

 

ก่อนบอกต่อถึงสภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน ทุกวันนี้ผู้ประกอบการด้านนี้เริ่มมีมากขึ้น อาจเป็นเพราะหลายคนมองภาพรวมว่าน่าจะทำได้ไม่ยาก และมีกำไรดี แค่สร้างห้องให้สวย-น่ารัก สร้างสระว่ายน้ำ ก็ทำเป็นโรงแรมน้องหมาได้แล้ว

แต่แนวทางในการประกอบธุรกิจของแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกัน เพราะสำหรับ Dogdays                     การสร้างความสุขให้น้องหมา จนเจ้าของสัมผัสและมองเห็นได้ นับเป็นความท้าทายที่จะต้องไปให้ถึงให้ได้

“ตลาดโรงแรมสุนัข มีดีมานด์ไม่มากแต่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ คนเลี้ยงสุนัขเริ่มมีความสนใจธุรกิจบริการแบบนี้กันมากขึ้น  การแข่งขันจึงเพิ่มขึ้นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งเมื่อก่อนผู้ประกอบการอาจคิดว่าขายแค่คน ทำโรงแรมขึ้นมาให้ดูน่ารัก คนพอใจจบแล้ว เพราะว่าคนจ่ายเงินคือคน  แต่มาถึงวันนี้แค่นั้นคงไม่พอ ความยากจึงอยู่ที่ทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วสัมผัสได้ว่าของเรามีความแตกต่าง”คุณแอน เผย

ใช้เวลา 4 ปีกว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างโรงแรมน้องหมาอย่างที่เห็น มีความยากง่าย มากน้อยแค่ไหน สองสาว หัวเราะร่วน ก่อนลากเสียงยาว บอกพร้อมกัน  ยากกก….มากกก ค่ะ

พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟัง เริ่มจากรายละเอียดของวัสดุในการก่อสร้างนั้น เพราะถ้าจะทำโรงเรือนเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง    สิ่งแรกที่จะต้องสื่อออกไปให้ได้ ความสะอาด นับตั้งแต่กลิ่นและมลภาวะทั้งหมดขณะเดียวกันวัสดุหรือโครงสร้างสิ่งปลูกสร้างที่จะใช้กับสัตว์เลี้ยง นอกจากจะสวยงามน่ารักแล้วยัง ต้องมีความคงทนเป็นพิเศษด้วย

เพราะโรงแรมสุนัข ต้องมีการทำความสะอาดมากกว่าโรงแรมคนร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีเรื่องของกลิ่นและขน เป็นปัญหาสำคัญ ฉะนั้นวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจึงต้องแตกต่างออกไป ซึ่งแน่นอนราคาก็ต้องสูงขึ้นตามคุณภาพด้วย

นอกจากนี้ เรื่องของพื้นที่ใช้งาน มีความสำคัญไม่แพ้กัน  ต้องออกแบบเป็นพิเศษให้ปลอดภัยสูงสุด  น้องหมาไม่หลุด ไม่หาย ไประหว่างที่มาพัก

“ประสบการณ์ที่ได้มาจากการทำเพ็ทซี่ฯ ทำให้มีความรู้หลายเรื่อง  โดยเฉพาะพฤติกรรมของน้องหมา อย่างตัวเล็กๆ หลายคนอาจไม่ทราบว่ากระโดดเก่งมาก ฉะนั้นความสูงและระบบเปิด-ปิด ของรั้ว จึงสำคัญอย่างยิ่ง กลอนประตู จะเลือกใช้แบบทั่วไปไม่ได้ ต้องเลือกระบบล็อกโดยอัตโนมัติกับทุกประตู เพราะแค่เสี้ยววินาทีเดียว น้องหมาอาจวิ่งเตลิดออกไปแล้ว”คุณแอน บอกจริงจัง

กระซิบบถามถึงงบฯลงทุน เฉพาะสิ่งปลูกสร้างไม่รวมราคาที่ดิน สองสาวมองหน้า ยิ้มกว้างให้กัน ก่อนบอกตรงๆ

“ตั้งเป้าไว้ที่ 3 ล้านบาท แต่เอาเข้าจริงบานปลายไปสองเท่าแล้ว และคิดไว้น่าจะคืนทุนได้ใน 2-3 ปี    แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วค่ะ”

ใกล้จบบทสนทนา ขอให้ฝากไปถึงผู้ที่กำลังสนใจอยากลงทุนทำโรงแรมสัตว์เลี้ยงบ้าง คุณแอน อาสาเป็นตัวแทน บอกว่า การเลี้ยงลูกคนอื่น ไม่ใช่งานง่าย  ตอนแรกตัวเธอเอง ก็เข้าใจว่า เก็บเข้าห้อง พาลงสระ เจ้าของพอใจ

แต่พอเข้ามาทำจริงๆ ต้องดูแลน้องหมาทุกตัว เหมือนดูแลลูกคนอื่น ห่วงไปสารพัด กินหรือยัง อึสีอะไร ฉี่หรือเปล่า จนแทบไม่มีเวลาดูแลลูกตัวเอง

ฉะนั้นการจะเป็นนักลงทุนอย่างเดียวคงไม่พอ จะต้องมีทุนของการเป็นคนรักสัตว์อย่างมากด้วย

Dogdays (ด็อกเดย์) บาย Petxi Limo (เพ็ทซี่ ลี่โม่)  เป็น โรงแรมและสระว่ายน้ำเพื่อน้องหมา สไตล์  โมเดิร์น อาร์ต แห่งแรกในประเทศไทย พื้นที่โดยรอบนำเสนอด้วยภาพวาดเก๋ๆ ของน้องหมาสายพันธุ์ต่างๆ ในรูปแบบ Grafifti ตั้งแต่ทางเข้าสู่ภายในโรงแรม เสริมบรรยากาศโดยรอบให้มีความน่ารัก-สนุกสนาน

พื้นที่ภายในโรงแรมประกอบด้วย

ห้องพักส่วนตัว ไฮไลท์ คือ ห้องสไตล์ พูล วิลล่า เพิ่มความพิเศษ ด้วย Connecting Room เพื่อให้น้องหมาที่มาด้วยกันสามารถเดินหากันได้

สระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่ 5*10 เมตร สามารถรองรับน้องหมาตัวใหญ่ ได้วิ่งเล่นรอบสระ และกระโดดน้ำได้อย่างสบาย

สนามหญ้า และร้านกาแฟชิคๆ ที่ให้คุณจิบกาแฟ และนั่งมองน้องหมาของคุณวิ่งเล่นได้อยย่างใกล้ชิด

สำหรับการบริการ ประกอบด้วย  สระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือ ที่เจ้าของสามารถลงเล่นกับน้องหมาได้อย่างสบายใจ เพราะมีการตรวจสอบค่าน้ำและทำความสะอาดทุกสัปดาห์

ด็อกโฮเทล มีทั้งฝากเลี้ยง แบบเช้าไปเย็นกลับ และพักค้างคืน น้องหมาจะไม่ต้องเหงาอีกต่อไป เพราะมีเจ้าหน้าที่พาไปขับถ่าย วิ่งเล่นในสนามหญ้า

ส่วนอัตราค่าบริการในส่วนของห้องพัก แบ่งออกตามขนาดห้องและน้ำหนักตัวของน้องหมา โดยห้องพักมี 3 ขนาด คือ มินิ พูล ควีนส์ พูล และ  คิงส์ พูล

เริ่มต้นมินิพูล  คืนละ 500 บาท สำหรับน้องหมาน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม ควีนส์ พูล คืนละ  600-700 บาท และ คิงส์ พูล  เริ่มต้นที่ 800 บาท ทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศเปิดบริการ 24 ชั่วโมง

ส่วนค่าบริกาสระว่ายน้ำ คิดราคาตามน้ำหนักตัวและประเภทขน เริ่มต้นที่ 400 บาท

Dogdays  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 178 ตารางวา บนถนนรามอินทรา เข้าซอย รามอินทรา 62 แยก 1 แขวง-เขต รามอินทรา กรุงเทพฯ

สอบถามเส้นทางและรายละเอียดการขอใช้บริการได้ที่ โทรศัพท์ 088-688-5444 อีเมล [email protected]  หรือ เฟซบุค/ อินสตาแกรม/ไลน์ : dogdaysbkk

…………

ภาพประกอบ : Facebook/dogdaysbkk