“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ…ห้อยไข่” กิมมิกชื่อร้าน เรียกลูกค้าได้ตรึม!

พิษณุโลก เมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เดินทางไปเยือนกันจำนวนไม่น้อย โดยแหล่งสำคัญซึ่งเป็นไฮไลต์ของจังหวัดนี้ เห็นจะเป็นวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาววิหาร หรือที่เรียกกันติดปากทั่วไปกันว่า “วัดใหญ่” มี พระพุทธชินราช  เป็นพระประธาน ประดิษฐานอยู่ในวิหารแสนงดงาม

เมื่อเป็นโซนที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ละแวกใกล้เคียงวัดสำคัญแห่งนี้ จึงมีอาหารการกินเป็นตัวเลือกละลานตา แต่ถ้าจะเลือกว่าร้านไหนผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด เห็นจะเป็น  ร้านก๋วยเตี๋ยว “ห้อยขา”แถวริมน้ำใกล้วัดใหญ่ เรียกว่าถ้าคนต่างถิ่นแวะมาไหว้หลวงพ่อพุทธชินชราช ต้องไม่พลาดที่จะมาทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขา พร้อมกับเก็บภาพเก๋ๆอัพโซเชียลกันแทบทุกราย

แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสดังในโลกออนไลน์ มีการกดไลค์ กดแชร์ กันจนกลายเป็นข่าวออกมาว่า พิษณุโลก ไม่ได้มีแต่ก๋วยเตี๋ยวห้อยขานะ มีร้าน “ก๋วยเตี๋ยวห้อยไข่”แล้วด้วย

“ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาหน้าวัดใหญ่ซึ่งโด่งดังมากอยู่แล้ว ไม่น่าจะค้อนผมนะครับ เพราะเป็นคนละแบบกัน ของผมติดถนน หน้าร้านมีสระน้ำเล็กๆ เลยต่อที่นั่งแบบห้อยขาไว้ให้ลูกค้าชมวิวได้บ้าง ขณะที่ก๋วยเตี๋ยวของร้านผมเน้นรสชาติต้มยำและใส่ไข่ต้มยางมะตูมทุกชาม เลยสรุปรวมกันออกมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำห้อยไข่”

คุณกิต-กิตติพงศ์ เฟื่องเพียร วัย 32 ปีเศษ เจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ…ห้อยไข่” ตั้งอยู่บนถนนเส้นเลี่ยงเมืองพิษณุโลก ใกล้สี่แยกแสงดาว หมู่ 2 ต.หัวรอ อ.เมือง เริ่มต้นให้ฟังอย่างนั้น

ก่อนแนะนำตัว พื้นเพเป็นคนพิษณุโลก หลังเรียนจบชั้นม.ปลาย ได้โควต้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัย       สุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ในสาขาวิศวกรรมขนส่ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ ใช้เวลาเรียนจบตามปกติ ออกมาทำงานประจำในโรงงาน 3-4 แห่ง จนเริ่มรู้สึกอิ่มตัว ตัดสันใจลาออกมามามองหาธุรกิจแบบที่ชอบ นั่นคือ ร้านอาหาร

ถอยหลังไปราว 3 ปีก่อน คุณกิต เคยเปิดร้าอาหารมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำได้ไม่นานจำใจต้องปิดตัวลง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องลูกน้อง มาบ้าง ไม่มาบ้าง ทะเลากันบ้าง การบริการจึงไม่ได้ดังใจ สุดท้ายไปไม่รอด

หลังจากนั้นจึงหันมาเปิดร้านรับซ่อมคอมพิวเตอร์ รับทำป้ายไวนิล ดำเนินกิจการได้สองปีเศษ ความคิดที่อยากทำร้านอาหาร ยังคงคุกรุ่นอยู  เมื่อได้ทำเลที่น่าจะเหมาะสม เลยคิดเปิดร้านอาหารอีกครั้ง แต่คราวนี้มีการสร้าง “หลักคิด”ที่แตกต่างจากเดิม

“เปิดร้านใหญ่ ต้องใช้ลูกน้องเยอะเลยมีปัญหา คราวนี้ เลยคิดสเกลร้านให้เล็กลง ใช้ลูกน้องแค่คนเดียว และโฟกัสไปที่อาหารชนิดเดียว คือ ก๋วยเตี๋ยว การจัดการจะได้ง่ายขึ้น”คุณกิต ย้อนถึงแนวคิดเริ่มต้น

หลังจากตัดสินใจจะเปิดร้านขายอาหาร(อีกครั้ง) คราวนี้ คุณกิต  ต้องทำ “การบ้าน”หนักมาก เริ่มจากการหาสูตรเฉพาะ เพราะถึงแม้จะทำก๋วยเตี๋ยว “ต้มยำ”ทานเองที่บ้านมาตลอด แต่ยังหา “เอกลักษณ์” ที่เด่นชัดไม่ได้

กระทั่งได้ไปทานก๋วยเตี๋ยวใส่ไข่ต้มยางมะตูมที่ร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี เกิดความชอบ ประกอบกับที่พิษณุโลกยังไม่มีใครทำขายมากนัก เลยจับความชอบมาผสมผสานกัน กลายเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ใส่ไข่ต้มยางมะตูมด้วย ซึ่งคิดว่ารสชาติเข้ากันได้ดีทีเดียว

เปิดร้านได้เพียงเดือนเศษ มีสื่อให้ความสนใจจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็น คำว่า “ห้อยไข่”        คุณกิต จึงชี้แจง เป็นเพียง “กิมมิก” ในการตั้งชื่อ หวังให้ลูกค้าเห็นอมยิ้ม และลองเข้ามาชิม ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นลูกเล่นได้ผลดี สามารถดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด

“ใครขับรถผ่าน เห็นชื่อร้านเป็นต้องชะลอดูและอมยิ้มทุกคน  เราเพิ่งเปิดใหม่  ไม่มีใครรู้จัก  ไม่รู้รสชาติว่าเป็นยังไง แต่แค่เห็นชื่อ เขาก็เข้ามาลอง ทำให้ขายดิบขายดีแบบไม่ทันตั้งตัว ช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษาที่ผ่านมาบริการให้แทบไม่ทัน”คุณกิต เล่า ก่อนยิ้มกว้าง

มีคนรู้จักชื่อร้านและรสชาติ นับเป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ต้องมีการ “ซื้อซ้ำ”ด้วย เรื่องนี้ คุณกิต บอก เขาให้ความสำคัญมาก ช่วงนี้จึงพยายามเข้าไปพูดคุยกับลูกค้า ถามไถ่ถึงสิ่งที่ต้องการให้ปรับปรุงแก้ไข

ซึ่งได้คำตอบจากคนใกล้ชิดว่า “มันก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวต้มยำทั่วไป” เขาจึงพยายามหนักขึ้นไปอีก เพื่อหาเอกลักษณ์ของตัวเองให้ได้  กระทั่งเมื่อไม่นาน ได้ทำ “ซอสต้มยำ”ออกมา ใช้ในร้านของตัวเอง และมั่นใจว่าซอสดังกล่าวนี้  จะเป็น “ตัวขาย”สำคัญ ทำให้รสชาติก๋วยเตี๋ยวของร้านเขานั้นแตกต่างจากที่อื่น

“การที่มีลูกค้าสนใจชื่อร้าน จนลองเข้ามาทาน นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่แค่นั้นคงไม่พอ เพราะอยากให้กิจการยั่งยืน เลี้ยงตัวได้ ลูกค้าอยู่กับเรานานๆ และกลับมาทานอีก ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญและยากที่สุด คือ รสชาติและคุณภาพของอาหารที่เราขาย ว่าจะมีความคงเส้นคงวาแค่ไหน ไม่ใช่วันนี้อร่อย พรุ่งนี้ไม่แน่ แบบนั้นผมว่าไปไม่รอดนะ”คุณกิต บอกทิ้งท้าย

เมนูของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ…ห้อยไข่”  จังหวัดพิษณุโลก รายนี้ มีให้เลือกหลากหลายทั้งต้มยำน้ำใส น้ำข้น พริกเผา ส่วนเนื้อสัตว์ ทั้งหมูตุ๋น หมูเปื่อย  ปลา และทะเล และต้องมี “ไข่ต้มยางมะตูม”ห้อยประดับไว้ทุกชาม

สนใจอยากไปลองชิม สอบถามไปได้ที่ คุณกิต เจ้าของร้าน โทรศัพท์ 081-605-3404