เผยแพร่ |
---|
ทายาทรุ่น 3 “วุ้นผงตราโทรศัพท์” สู่คาเฟ่ “อาการากา” รังสรรค์จากวุ้นของอากง ด้วยความเชื่อ วุ้นเป็นได้มากกว่าของทานเล่น
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินผ่านหู ได้เห็นผ่านตากันมาบ้าง วุ้นผงตราโทรศัพท์ แบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 66 ปี ก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2501 ตั้งอยู่ที่ถนนทรงวาด ย่านเก่าแก่ เป็นวุ้นผงที่สกัดจากสาหร่ายทะเลแดงเกรดพรีเมียม ไม่มีส่วนผสมที่ทำจากสัตว์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ และผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ด้วยความโดดเด่นนี้ จึงทำให้วุ้นผงตราโทรศัพท์กลายเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้ในการทำอาหาร

แต่ไม่น่าเชื่อว่า “วุ้น” จะทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางไปถนนทรงวาด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานวุ้นผงตราโทรศัพท์ (บริษัท เซ้งฮวด จำกัด) แต่ใกล้ๆ กัน เดินไม่ไกลจะมีคาเฟ่อยู่ เมื่อได้อ่านชื่อร้านหรือข้อความที่เขียนไว้ ถึงกับแปลกใจ และชวนให้ต้องเข้าไปหาคำตอบ
คาเฟ่ที่ผู้เขียนกล่าวมานั้น ชื่อว่า AGAR RAGA – อาการากา ที่มาพร้อมข้อความที่บอกว่า “คาเฟ่แรกที่ใช้วุ้นในทุกจาน” เมื่อย่างเท้าเข้าไปในร้าน เด็กสาววัยรุ่น เดินเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอคือ คุณพาริ-สิตาภา สกุลดีเลิศ เจ้าของร้าน วัย 30 ปี จึงได้มีโอกาสนั่งคุยพร้อมถามถึงที่มาของเจ้าคาเฟ่นี้
“วุ้น” ไม่ได้ทำได้แค่ของหวาน อาหารคาวก็ทำได้
จากที่ได้กล่าวถึงวุ้นผงตราโทรศัพท์ตอนต้น อาจมีคำถามในใจว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับคาเฟ่นี้ บอกได้อย่างเต็มปากว่า เกี่ยวแน่นอน เพราะคุณพาริเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของวุ้นผงตราโทรศัพท์ โดยคนที่เข้ามาบริหารคือพี่ชายของเธอ ส่วนเธอเองก็มาต่อยอดจากของที่มีอยู่เป็นคาเฟ่วุ้นแห่งแรก
“แบรนด์วุ้นมีอยู่ไม่กี่เจ้าในไทย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรุ่นเก่า เขาอาจจะไม่ได้สนใจว่าโปรดักต์เขาคืออะไร เขาก็แค่ขาย แต่พอเราเป็นเจน 3 เราสามารถนำสิ่งที่มีอยู่มาทำให้มีคุณค่ามากขึ้นได้ เราสามารถรีเสิร์ชได้เยอะ เปิดโลกให้ตัวเองมากขึ้น แล้วก็มีพื้นฐานจากการเรียนทำอาหารมาบ้าง
เราก็เลยรู้ว่า วุ้นสามารถเอาไปทำของคาวได้ อย่างใน Fine dining kitchen เขาก็จะเอาวุ้นไปใช้เยอะ แต่มันก็จำเพาะเจาะจง รู้เป็นบางกลุ่ม อาจจะดูเข้าถึงยาก คนไทยส่วนมากก็จะมองว่า วุ้นก็ทำเป็นวุ้นกะทิไปเลย”
ด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้คนรู้ว่า วุ้น มันทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวและหวาน และยังสามารถนำไปทำอย่างอื่นได้อีก หากทุกคนรู้และเข้าใจในส่วนผสมของวุ้นผงจริงๆ แต่สิ่งที่เธออยากจะนำมาเป็นจุดแตกต่าง คือการนำวุ้นผงมาประยุกต์กับเมนูอาหารต่างๆ ที่ทางร้านเน้นย้ำว่า ทุกๆ จาน ทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่ม รังสรรค์จากวุ้นเกรดพรีเมียม ผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นของถนนทรงวาดได้อย่างลงตัว
สำหรับการเปิดคาเฟ่ ใช้เวลาไม่มากในการพัฒนา เพราะมีคลังความรู้เดิมที่สามารถนำมาต่อยอดได้เลยทันที
“คือถ้าเป็นเรื่องสูตร พัฒนาไม่นาน เพราะมีคลังความรู้ของเราอยู่แล้ว เราทำโซเชียลมีเดียให้วุ้นผงตราโทรศัพท์ แล้วก็พัฒนาเมนูมาเรื่อยๆ มันเลยไม่ได้ช้าขนาดนั้น แต่ในเรื่องของการทำร้าน การจัดร้านก็ใช้เวลาพอสมควร” เธอเล่า
ชื่อว่า AGAR RAGA – อาการากา มาจากคำว่า AGAR แปลว่า วุ้น จึงได้นำคำว่า อากา มาสลับต่อท้ายเป็น รากา เลยได้ชื่อนี้มา
เรื่องพนักงาน! ปัญหาใหญ่ที่ต้องเจอ
สำหรับการทำร้านอาหาร แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การทำอาหาร แต่จะต้องมีสิ่งที่ตามมาอีกมากมาย ทั้งการวางระบบหลังบ้าน การคำนวณต้นทุน การหาวัตถุดิบ แต่สิ่งที่หนีไม่พ้นเลย และเรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ร้านอาหารมักจะเจอคือ ลูกน้อง
ปัญหาพนักงานออกบ่อย ทางร้านจึงต้องคอยแก้ไขอยู่ตลอด ด้วยที่เธอเองยังไม่ได้มีประสบการณ์การทำร้านอาหารมามากเท่าไหร่นัก จึงต้องค่อยๆ เรียนรู้กับปัญหา และแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป ประมาณว่า “Learning by Doing”
อีกอย่าง ด้วยทางร้านมีเกณฑ์ในการจ้างที่ค่อนข้างกว้างเพราะว่ามันต้องมีความรู้เกี่ยวกับวุ้นเยอะ ต้องหาคนที่พูดเก่งและต้องพูดภาษาอังกฤษได้ดีเพราะถนนย่านนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก
ย่านทรงวาด เป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ ผู้เขียนได้ถามไปยังคุณพาริว่า ทำไมถึงเลือกทำเลนี้ และทำเลมีผลกับธุรกิจมากน้อยแค่ไหน เธอตอบมาทันทีว่า
“เราไม่ได้เลือกทำเล เรามีอยู่แล้ว แต่ข้อดีคือ ทำให้เราอินกับทรงวาด มันยิ่งชูเรื่องราวของวุ้นผงตราโทรศัพท์ว่าอยู่ที่ทรงวาดมายาวนานมาก แล้วคาเฟ่ของรุ่น 3 ก็อยู่ทรงวาดเหมือนกัน
แล้วด้วยที่ทรงวาดเป็นชุมชนที่แข็งแรงมาก ทางร้านจึงใช้ของที่มาจากทรงวาด ทั้งเครื่องหอม เครื่องเทศต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมในการทำอาหาร จึงเป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันไปได้”
ตั้งเป้าผิดคาด หมุดหมาย คือ คนรุ่นใหม่ แต่กลายเป็นขวัญใจเจน X
การตั้งเป้ากลุ่มลูกค้า ทำให้ร้านมีขอบเขตชัดเจนยิ่งขึ้น เดิมที อาการากา ตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้แต่ไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งไว้เลย ในตอนแรกที่ตั้งไว้ คืออยากจะขายให้กับคนที่เป็น Working People แต่ความจริงคือ คนที่มากินเป็นแนวๆ ครอบครัว เป็นรุ่นที่เป็นเจน Y ขึ้นไป เจน X ค่อนข้างเยอะ หรือแม้กระทั่ง Boomer แต่เจน Z ไม่มีเลย
“เจน Z ยังไม่ค่อยมีกำลังซื้อ มาถ่ายรูปแล้วก็ไป แต่คนที่ได้เงินจากเขาจริงๆ เพราะมีกำลังจะจ่าย ส่วนใหญ่จะเป็นเจน X เพราะเหมือนเขารู้จักวุ้นผงตราโทรศัพท์ เขาก็จะตั้งใจมาร้านนี้เลย”
พูดถึงรายละเอียดมากันพอสมควร ต่อไปขออนุญาตพูดถึงเมนูอาหารของทางร้านกันบ้าง
ผัดไทยเส้นวุ้นกุ้งสด มาในราคา 270 บาท เรียกได้ว่าเป็นจานที่ขายดีที่สุด ด้วยความที่เข้าถึงง่าย รสชาติถึงเครื่อง พร้อมเส้นที่ทำจากวุ้นและแป้งถั่วเขียว เป็นการนำเสนอเมนูอาหารไทยในรูปแบบใหม่ๆ แต่รสชาติยังคงความดั้งเดิมเอาไว้ ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงกลายเป็นจานโปรดของใครหลายๆ คน

ยำวุ้นกุนเชียง มาในราคา 180 บาท เมนูนี้ก็มีความแปลกใหม่ไม่แพ้กัน ทางร้านได้นำกุนเชียงไปต้ม เพื่อนำรสชาติที่เข้มข้นออกมาแล้วไปผสมกับวุ้น คลุกเคล้ากับน้ำยำรสเด็ด เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ดีเลยทีเดียว

เหลียงเฝิ่น มาในราคา 190 บาท เป็นเส้นวุ้นเย็นสดชื่น มาพร้อมกิมมิกที่ลูกค้าจะได้ตัดเส้นเองจากกระบอกตัดเส้น มีการผสมผสานกับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น แต่จะกินคู่กับน้ำยำสไตล์จีน ถือว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัว

มะเขือทอดคานาเป้ มาในราคา 210 บาท มะเขือยาวชุบแป้งทอด จิ้มคู่กับแยมวุ้นซีอิ๊วสูตรเฉพาะ โปะด้วยคาเวียร์ซอสพริกศรีราชา เรียกได้ว่าแปลกใหม่และไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลากหลายเมนู อาทิ วุ้นหูฉลาม น้ำแข็งไสวุ้นบอลผลไม้ต่างๆ น้ำวุ้นรสชาติต่างๆ ฯลฯ
สุดท้ายนี้ หากใครอยากมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับวุ้น สามารถมาลองกันได้ที่ AGAR RAGA – อาการากา ตั้งอยู่ที่ 948 ถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร