เผยแพร่ |
---|
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่ ไปพร้อมๆ กับเสริมพัฒนาการเด็ก
เพราะการซื้อของเล่นให้ลูกในแต่ละครั้ง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และของเล่นเหล่านั้นอาจรกเต็มบ้านในไม่ช้า อีกทั้งในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้เช่าของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กสักเท่าไหร่
จึงนำมาสู่ไอเดียธุรกิจให้เช่าของเล่นและหนังสือเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ‘Keimen Kids’ ของหุ้นส่วนทั้ง 3 คนคือ คุณอุ้ม-พิมพ์จุฑา จิระวัฒน์พงศา คุณเกา หลี่ขุยหลิน (Gao Likuilin) และ คุณฝ้าย-พฤดา ตั้งพุทธสิริ ที่ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอยากสร้าง Circular Economy ให้กับของเล่น
คุณอุ้ม เล่าว่า ไอเดียธุรกิจนี้มาจากเพนพอยต์ (Pain Point) ของคุณเกา หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ที่มีลูกเล็กวัยเกือบ 1 ขวบ เขารู้สึกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้บริการเช่าของเล่นเสริมพัฒนาการ อีกทั้งการซื้อของเล่นมาจำนวนมาก ทั้งซื้อเพราะคิดว่าลูกจะชอบ ซื้อแล้วลูกเล่นครั้งเดียว จนของเหล่านั้นรกเต็มบ้านไปหมด จึงออกมาในคอนเซ็ปต์ให้เช่าของเล่นแบบรายเดือน

โดยคิดค่าบริการเช่า เริ่มต้นที่ 700 บาท ไปจนถึง 1,180 บาท ไม่มีค่าขนส่ง ไม่มีมัดจำ ไม่มีค่าปรับ แต่มีความต่างกันที่เครดิตในการเช่าของเล่น อย่างเช่น 700 บาท ได้ของเล่น 2-3 ชิ้น ส่วน 1,180 บาท อาจได้ของเล่นถึง 5 ชิ้น หรือได้เป็นชิ้นใหญ่
และภายใน 1 เดือนผู้ปกครองสามารถเปลี่ยนของเล่นได้อีก 1 ครั้ง เท่ากับว่าทุกเดือนจะได้ของเล่นเซตใหม่ 2 ครั้ง คือต้นเดือนกับปลายเดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ปกครองว่าอยากเปลี่ยนในช่วงวันไหน
โดยมีของเล่นหมุนเวียนจำนวน 500-600 ชิ้น สำหรับเด็กอายุ 0-5 ขวบ ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 5 ข้อคือ กล้ามเนื้อ, การแก้ไขปัญหา, ความคิดสร้างสรรค์, การเข้าสังคม และภาษา ซึ่งคัดเลือกจากความนิยมในตลาด ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาการเด็ก
และเพราะอยากหาของเล่นที่แตกต่าง จึงนำเข้าจากแถบสแกนดิเนเวีย เป็นของเล่นที่สามารถเทิร์นเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ รวมถึงการดีลกับแบรนด์ของเล่นโดยตรงเพื่อครีเอตของเล่น จากเดิมเล่นได้ 3 แบบ ให้สามารถเล่นได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างความคุ้มค่า เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กๆ และการมีส่วนร่วมของคุณพ่อคุณแม่กับลูกๆ
จุดเด่นของการเช่าของเล่น
หนึ่งในจุดเด่นของธุรกิจให้เช่าของเล่น คุณอุ้ม บอกว่า คือการช่วยผู้ปกครองประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้จำนวนมาก เพราะของเล่นเสริมพัฒนาการที่มีการวิจัย ใช้วัสดุอย่างดี มีราคาสูงหลักพันบาทต่อชิ้น และบางชิ้นสูงถึง 5,000-7,000 บาท
“ผู้ปกครองซื้อมาแล้ว การันตีเลยลูกๆ เล่นไม่นาน เพราะตั้งแต่ 0-5 ขวบ พัฒนาการลูกจะเปลี่ยนเร็วมาก โดยเฉพาะช่วง 2 ขวบปีแรก ตอนแรกแค่หยิบจับมือได้ สักพักจะนั่งได้ โยนได้ คิดบทบาท มีความคิดสร้างสรรค์ เลยต้องมีของเล่นที่เยอะมากๆ เราเห็นจากเพื่อนที่มีลูก จากบ้านมินิมอล ของก็เริ่มรกเต็มบ้าน

และต้องหาวิธีปล่อยของ อาจจะขายต่อ หรือให้คนอื่นต่อ แต่ยังมีบางส่วนที่ทิ้งไป ทำให้เกิดเป็นขยะของเล่นจำนวนมาก เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราอยากสร้าง Circular Economy ให้ของเล่น 1 ชิ้นสามารถหมุนเวียนและใช้ได้นาน โดยสามารถเช่าหรือซื้อของเล่นกับเราได้ รวมถึงการให้ความรู้กับผู้ปกครองในเรื่องพัฒนาการเด็กในแพลตฟอร์ม
ซึ่งสเต็ปต่อไปของเราคือการให้คุณพ่อคุณแม่สามารถขายของเล่นคืนกลับมาให้แพลตฟอร์มได้ โดยมีการันตีราคาให้ ถ้าอยู่ในสภาพดีเราก็เอากลับไปให้เช่าได้อีก ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทุกคนดูแลของ หรือถ้าฟังก์ชันหายจนกระทบต่อการเล่น ก็พิจารณานำออกจากเชลฟ์ และนำไปบริจาคให้เด็กด้อยโอกาสและผู้ที่ขาดแคลน พร้อมๆ กับการทำกิจกรรมอื่นๆ”

ฟีดแบ็กจากคุณพ่อคุณแม่
เมื่อตอนเริ่มธุรกิจนี้แรกๆ คุณอุ้มและทีมเดินทางไปส่งของเล่นด้วยตัวเอง คล้ายรถไอศกรีมเพราะมีเด็กๆ มายืนรอหน้าบ้าน เรียกว่าเป็นความรู้สึกดี และได้มีการพูดคุยกับผู้ปกครอง ทำให้รู้ฟีดแบ็กว่าการเช่าของเล่น ช่วยฝึกให้ลูกๆ รู้จักรักษาของ เพราะหากเสียหาย ในครั้งหน้าจะเช่าของเล่นได้น้อยชิ้นลง โดยไม่ปรับเป็นเงิน
“เด็กๆ ก็จะรู้จักระวัง รู้เก็บของมากขึ้น เพื่อรอเปลี่ยนของเล่นเซตใหม่ที่เขาจะได้รับ เมื่อช่วยกันเก็บก็เป็นการสร้างช่วงเวลาดีๆ ได้สอนได้พูดคุยกันในครอบครัว”
สำหรับการทำความสะอาดของเล่น จะใช้น้ำยาทำความสะอาดออร์แกนิกสำหรับเด็ก รวมทั้งฆ่าเชื้อด้วยแสง UV หากจัดส่งจะนำมาเช็ดด้วยผ้าเปียกอีกครั้ง แล้วจัดส่งด้วยขนส่งฟรีของแบรนด์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนการส่งคืนผู้ปกครองไม่ต้องทำความสะอาด แต่สามารถส่งคืนให้รถขนส่งที่ไปให้บริการถึงหน้าบ้านได้เลย

กลุ่มลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ
ในปัจจุบันมีลูกค้าหมุนเวียนเช่าของเล่นเดือนละ 100 กว่าบ้าน โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมจะมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาสลับกับผู้เช่ารายเก่าที่หายไป เนื่องจากบางบ้านเป็นเด็กอินเตอร์ที่นิยมไปต่างประเทศช่วงปิดเทอม
อีกทั้งเป็นลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยพร้อมๆ ลูก ประมาณ 15 วัน แต่ไม่อยากซื้อของเล่นเพราะพักในคอนโด
“ลูกค้าบางบ้านอยู่กับเราเป็นปี ส่วนใหญ่มาเช่าตอนมีลูกคนที่สอง เพราะเรียนรู้จากลูกคนแรก เราก็จะแนะนำให้เริ่มจาก 700 บาทก่อน ถ้าชอบก็เพิ่มราคาได้”
ถึงปัจจุบัน Keimen Kids ให้บริการเช่าของเล่นมานาน 2 ปีกว่า คุณอุ้ม กล่าวถึงความสำเร็จว่า ในเชิงของตัวเลข ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะยังให้บริการอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ละปริมณฑล แต่ในแง่คอนเซ็ปต์ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
หากสนใจอยากเช่าของเล่นให้ลูกน้อย สามารถติดตามได้ที่เพจ Keimen Kids