‘หล่อเจริญ’ โชห่วย 50 ปี เป็นมากกว่าร้านค้าคือหัวใจของชุมชน ท่ามกลางยุคร้านสะดวกซื้อครองเมือง

‘หล่อเจริญ’ โชห่วย 50 ปี เป็นมากกว่าร้านค้าคือหัวใจของชุมชน ท่ามกลางยุคร้านสะดวกซื้อครองเมือง

ลุงหล่อ-ณรงค์วิทย์ หล่อสุวรรณศิริ และ คุณบิ๊ก-นฤเศรษฐ์ หล่อสุวรรณศิริ
ลุงหล่อ-ณรงค์วิทย์ หล่อสุวรรณศิริ และ คุณบิ๊ก-นฤเศรษฐ์ หล่อสุวรรณศิริ

แม้ว่าร้านสะดวกซื้อและการขายของออนไลน์จะมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่ร้านโชห่วยแห่งนี้ยังคงมีการปรับตัว และมีจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเวลาแวะมา เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองก็ว่าได้

“หล่อเจริญ” ร้านโชห่วยที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 ยาวนานกว่า 50 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นอากง สู่รุ่นพ่อ ลุงหล่อ-ณรงค์วิทย์ หล่อสุวรรณศิริ และปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 คุณบิ๊ก-นฤเศรษฐ์ หล่อสุวรรณศิริ ทายาทที่เข้ามาสานต่อกิจการนี้ 

ลุงหล่อ-ณรงค์วิทย์ หล่อสุวรรณศิริ
ลุงหล่อ-ณรงค์วิทย์ หล่อสุวรรณศิริ

ที่มา “หล่อเจริญ”

ชื่อร้าน “หล่อเจริญ” มีที่มาจาก “แซ่ล้อ” ซึ่งเมื่อดัดแปลงให้เป็นคำสำหรับการค้า จึงกลายเป็นคำว่า “หล่อเจริญ”

ลุงหล่อ เล่าว่า ร้านนี้เปิดวันที่ 15 มีนาคม 2515 เป็นร้านค้าห้องแถว มีตู้เล็กๆ 1 ตู้ มีของจุกจิกไม่กี่อย่าง 

“ตอนนั้นถ้ามีคนมาซื้อของแล้วถามว่าตัวนี้มีไหม ถ้าเราไม่มีเราก็จะไปหามาให้ ของก็จะเพิ่มมาเรื่อยๆ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องไปหาซื้อเองเลย” 

ลุงหล่อ เล่าให้ฟังต่อว่า “สมัยก่อนคนน้อยไม่เยอะ ขายได้วันหนึ่งไม่เท่าไหร่ บางคนมีร้านค้าอยู่แถวนี้ ก็ซื้อกระจายกันไป เวลาลูกค้ามาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เขาก็เข้ามาเรื่อยๆ จนบางร้านพูดว่า โอ้ย ไปแย่งเขาขายหมดแล้ว”

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ขายจะมี ‘น้ำเก๊กฮวย’ แก้วละ 2 บาท เฉาก๊วย น้ำแห้ว น้ำรากบัว น้ำมะตูม แต่ตอนนี้ลดเหลือแค่ 3 อย่าง เพราะว่าการทำเฉาก๊วยไม่ได้ง่ายเลยเลิกทำไป 

จุดแข็งที่ลอกเลียนแบบได้ยาก

คุณบิ๊ก เล่าถึงเส้นทางชีวิตก่อนกลับมารับช่วงต่อว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานมาหลายอย่าง ทั้งเซลส์ขายรถ ขายอาหารอยู่ที่เมืองนอก แต่เมื่อคุณพ่อป่วย เขาจึงตัดสินใจกลับมาสานต่อกิจการของครอบครัว

“เมื่อก่อนจะมีของแขวนเต็มร้านกว่านี้ เพราะว่าร้านโชห่วยที่ผ่านมาจะวางของระเกะระกะ เดินไม่สะดวก ผมก็เลยรีโนเวตใหม่ จัดวางของให้น่าสนใจ ให้ลูกค้าเข้ามาเลือกของง่ายขึ้น”

เขาได้ทำการพลิกโฉมร้านใหม่ให้ดูสะอาดตาและเป็นระเบียบมากขึ้น มีการนำของแปลก ของใหม่ และของโบราณ มาวางโชว์เพื่อดึงดูดลูกค้า อีกทั้งยังมีการขายสินค้าตามเทรนด์ เช่น เครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล เครื่องดื่มวิตามิน เป็นต้น พร้อมทั้งหาของเล่นมาตั้งไว้ เพื่อให้เด็กๆ พาผู้ใหญ่มาซื้อที่ร้าน

“รายได้ถือว่าไม่ได้เป็นก้อนครับ แต่มาทุกวันทีละนิดก็พออยู่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้เราบวกกำไรแค่ 10% สมัยก่อน 20% ครับ ส่วนการสต๊อกของป๊าสอนว่าให้สั่งเท่าไหน เอาเท่าที่สั่งได้ อย่าให้ของเก่า ของหมดอายุ ไม่งั้นเสียชื่อเลย” คุณบิ๊ก กล่าว

เสน่ห์ของร้านค้าชุมชน

“ร้านหล่อเจริญเวลามีลูกค้ามาซื้อของ เราก็คุยยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีการตวาด เรารู้จักลูกค้าทุกคน บางทีเขามาถึงก็ช่วยขายของก็มี”

ร้านหล่อเจริญมีสินค้าหลายอย่าง ซึ่งที่เป็นจุดเด่นเลยนั่นคือ ‘สินค้าโบราณ’ ที่เด็กรุ่นใหม่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก หรือหายไปตามกาลเวลาแล้ว อาทิ ยาใส่ผมโบราณ แป้งโบราณ ยาสีฟันรุ่งอรุณ ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยรุ่นอาม่า 

คุณบิ๊ก เล่าให้ฟัง ถึงบรรยากาศร้านตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ

“ตอนเช้าที่ร้านจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มานั่งจิบกาแฟ ส่วนรอบเย็นจะมานั่งคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ เขาบอกว่ามาที่นี่เหมือนหายเครียดจากงาน”

หัวใจหลักคือ “ความเป็นกันเอง”

“คนในชุมชนจะรู้ว่ามาที่นี่ติดไว้ก่อนได้ ไม่มีก็กินได้ พรุ่งนี้มาจ่ายก็ไม่เป็นไร อยู่ด้วยกันมานานก็ช่วยเหลือเขาไปครับ”

โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาจะไม่ได้แค่ซื้อของ แต่เหมือนมาพูดคุยเล่นกันบ้างเป็นบางครั้ง 

“จุดแข็งคือการบริการแล้วก็ความเป็นกันเองของคนขายกับลูกค้าที่สนิทกันครับ เหมือนไม่ได้มาซื้อของ แต่มาหากัน มาคุยเล่น แล้วค่อยมาซื้อของนิดหน่อย” 

“การจะขายของดีมีลูกค้า จะอยู่ที่คนขาย อยู่ที่การพูดจา การต้อนรับลูกค้า เราก็ค้าขายไปแบบนี้ไม่มีอะไร ลูกค้ามาขอติดเราก็ให้ ไม่มีก็ติดได้ บางทีเขาบอกลดให้หน่อยนะ เราก็ลดให้ อยู่ที่เราบริการ ข้อนี้สำคัญมาก”

ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ เราสู้อะไรกับเขาได้บ้าง?

“เราแก้ปัญหาด้วยการคุยกับลูกค้า แถมของให้บ้าง ลดราคาบ้าง แบ่งขายของอย่างที่เขาไม่มี บางคนเขารายได้อาจจะน้อย บางทีซื้อไม่เยอะมาก เราก็แบ่งเขาได้ทุกอย่าง ทั้งข้าว น้ำตาล แบ่งขายได้หมดครับ” เขากล่าวย้ำถึงจุดแข็งที่สู้กับคู่แข็งที่ยักษ์ใหญ่กว่า

📍พิกัด : ร้านหล่อเจริญ ซอยสำราญราษฎร์

⏰เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-23.00 น.

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ธ.ค. 2024

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง