อดีต ซาวด์เอนจิเนียร์ รับไม้ต่อกิจการที่บ้าน “แหลมเจริญซีฟู้ด” ขยายกว่า 43 สาขาทั้งไทยและต่างประเทศ

อดีต ซาวด์เอนจิเนียร์ รับไม้ต่อกิจการที่บ้าน “แหลมเจริญซีฟู้ด” ร้านชื่อดังระดับประเทศ ขยายกว่า 43 สาขาทั้งไทยและต่างประเทศ

ใครหลายคนคงรู้จักกับ “แหลมเจริญซีฟู้ด” ร้านอาหารทะเลไทยที่ไม่เพียงแต่อาหารอร่อย สดใหม่ รสชาติไทยแท้เท่านั้น แต่ยังมีการรักษาคุณภาพให้คงมาตรฐานในทุกๆ สาขา ทำให้กลายเป็นร้านซีฟู้ดชื่อดังระดับประเทศ

วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับ เชฟปอง-ปยุต กองสุวรรณ Executive Chef ของกลุ่มบริษัทในเครือ แหลมเจริญซีฟู้ด กรุ๊ป ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจเส้นทางความสำเร็จของเชฟปอง จากอาชีพนักดนตรีสู่การเป็นเชฟใหญ่ และเติบโตอย่างต่อเนื่องขยายกว่า 43 สาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เชฟปอง-ปยุต กองสุวรรณ Executive Chef ของกลุ่มบริษัทในเครือ แหลมเจริญซีฟู้ด กรุ๊ป
เชฟปอง-ปยุต กองสุวรรณ Executive Chef ของกลุ่มบริษัทในเครือ แหลมเจริญซีฟู้ด กรุ๊ป

จุดเริ่มต้นและความหลงใหลในดนตรี

ชีวิตที่ผ่านมาของเชฟปองเปรียบเสมือนการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง เริ่มต้นด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรี ตั้งแต่อายุ 12 ปี เมื่อเขาได้เรียนกีตาร์แล้วรู้สึกถึงความสุข ที่สามารถส่งต่อให้คนฟังได้ เชฟปองจึงเลือกที่จะเข้าเรียนดนตรีที่ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาดุริยางคศิลป์ แต่กลับพบว่าความชอบของตน ไม่ได้ตรงกับการเล่นดนตรีคลาสสิค จึงตัดสินใจดรอปเรียน และได้ไปเรียนที่สถาบัน SAE ประเทศออสเตรเลีย 

เมื่อเรียนจบ เชฟปองก็ได้ไปฝึกงานที่ Broadcast Television นั่นถือเป็นการทำงานครั้งแรกในฐานะนักดนตรี ต่อมาได้มาทำงานที่ กมลสตูดิโอ เปิดประสบการณ์ในการทำงานกับศิลปินชื่อดัง และสุดท้ายมาจบที่ GMM Grammy ได้มาทำงานในห้องอัดแบบจริงจัง เชฟเล่าว่า ช่วงเวลาที่ได้ทำงานนี้เหมือนได้ทำในสิ่งที่ชอบจริงๆ และใช้เวลาอยู่กับงานดนตรีช่วงนั้นกว่า 15 ปี

จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อวงการดนตรีเริ่มเผชิญกับปัญหา MP3 ทำให้งานเพลงลดลง ทางครอบครัวเชฟปองจึงแนะนำให้เขาลองไปเรียนทำอาหารที่โรงแรมดุสิต เป็นหลักสูตรระยะสั้น และเริ่มรู้สึกหลงใหลในการทำอาหารมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงเส้นทางสู่อาหาร

เชฟปองจึงได้พัฒนาตัวเองด้วยการสอบเข้า OHAP ของโรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งที่นี่จะเคร่งเรื่องการบริการอย่างมาก แต่ทว่าการสอบนี้ต้องแข่งขันกับผู้สมัครกว่า 700 ชีวิต แต่แล้วเชฟปองก็สามารถสอบเข้ามาเรียนที่นี่ได้

“เป็น 1 ปีเต็มที่ไม่มีปิดเทอม ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย วนทุก Outlet ที่โรงแรมโอเรียนเต็ลจะมีได้ ต้องปรับตัวเยอะพอสมควร ตอนนั้นเลยตัดสินใจออกจากแกรมมี่ และเลือกมาทางสายอาหาร” เชฟกล่าว

การเดินทางเพื่อพัฒนาฝีมือทำอาหารยังไม่จบเพียงเท่านี้ เชฟปองตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียอีกครั้ง โดยครั้งนี้เลือกที่จะเรียนหลักสูตร Commercial Cookery เป็นการทำงานควบคู่กับการเรียนในครัวจริงๆ จากเช้าจรดเย็น ที่ร้านอาหารหลากหลายประเภท จุดนี้ยิ่งทำให้ทักษะของเชฟพัฒนาขึ้น

เมื่อพร้อมกลับมาไทย เชฟเริ่มทำงานกับครอบครัวที่ร้าน แหลมเจริญซีฟู้ด โดยเรียนรู้จากทุกหน้าที่ ตั้งแต่การบริการลูกค้าจนถึงการจัดการในครัว 

“เริ่มจากสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นพนักงานบริการส่วนหน้า คือเหมือนว่าเราต้องเริ่มจาก 0 คือผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้าอยู่ๆ เราเข้ามาในครัวเลย แล้วไปสั่งคนนู้นคนนี้ ผมคิดว่าอาจจะไม่ได้รับการเคารพจากเพื่อนร่วมงานหรือกับพนักงานที่รับคำสั่งเรา”

เชฟเล่าต่อว่า “เราก็เริ่มจากยกอาหารไปเสิร์ฟลูกค้า พูดคุย จัดคิว ก็หาข้อมูล สังเกตอาหารไปด้วย ว่าทอดมันกุ้ง แหลมเจริญใส่กี่ชิ้น ทอดมันปลาใส่กี่ชิ้น ปลาต้องเอาไปทำอะไรก่อน ก็เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ”

หลังจากนั้นเมื่อแหลมเจริญซีฟู้ดเริ่มขยายสาขาไปกว่า 30 สาขา ทำให้จำเป็นต้องมีการพลิกโฉมใหม่ เริ่มต้องทำให้เป็นระบบมากขึ้น โดยการมีครัวกลาง ทำให้สามารถคงความอร่อยไว้ได้ ซึ่งปัจจุบันแหลมเจริญซีฟู้ด ขยายสาขากว่า 43 แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แหลมเจริญซีฟู้ด สาขาเอกมัย
แหลมเจริญซีฟู้ด สาขาเอกมัย

แหลมเจริญซีฟู้ด สาขาเอกมัย

สาขานี้เป็น Flagship Store สาขาแรกของแหลมเจริญซีฟู้ด ที่มีการผสมผสานเอกลักษณ์ดั้งเดิมของร้าน และตกแต่งให้ดูทันสมัยมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่

แหลมเจริญซีฟู้ด
แหลมเจริญซีฟู้ด
แหลมเจริญซีฟู้ด
แหลมเจริญซีฟู้ด

ที่มาของ “สด แซ่บ เวอร์”

แหลมเจริญซีฟู้ดต้องควบคู่มากับความ “สด” ของอาหารทะเล และวัตถุดิบที่ดีที่สุด จากระยอง ทำให้ลูกค้าที่มาทานสามารถเชื่อมั่นได้ว่าแหลมเจริญซีฟู้ดคัดเลือกอาหารทะเลที่สดจริงๆ

ต่อมาคำว่า “แซ่บ” ความหมายของคำว่าแซ่บไม่ได้หมายถึงความเผ็ดอย่างเดียว แต่ในภาษาอีสาน คำว่าแซ่บหมายถึงความอร่อยได้อีกด้วย อาหารที่แหลมเจริญซีฟู้ดเป็นรสชาติที่ไม่ประนีประนอม รสมือที่คนไทยคุ้นเคย

สุดท้าย “เวอร์” คำนี้ไม่ได้มาจากโอเวอร์ หรือเวอร์วัง แต่มาจาก “ซีฟู้ดเลิฟเวอร์” นั่นเอง เปรียบเสมือนแหลมเจริญซีฟู้ดเป็นศูนย์รวมของคนรักในอาหารทะเล

แหลมเจริญซีฟู้ด
แหลมเจริญซีฟู้ด

แพลนในอนาคตการขยายสาขา

“ถ้าในประเทศมีแพลนจะเปิดเรื่อยๆ ครับ ส่วนในต่างประเทศเรามีสาขาที่มาเลเซีย 3 สาขาแล้ว มี PAVILLION KUALA LUMPUR (พาวิลเลียน กัวลาลัมเปอร์), 1Utama (วัน อุตามา), Sunway Pyramid (ซันเวย์พีระมิด) และล่าสุดกำลังจะเปิดที่ปีนัง”

เชฟเล่าว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาได้มีแผนกใหม่ขึ้น คือ ทีม R&D นักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีการนำทีมวิจัยไปศึกษาพฤติกรรมการกินของชาวมาเลเซีย ทำให้ทราบได้ว่าลูกค้าต้องการรสชาติและประสบการณ์แบบไหน

ซึ่งชาวมาเลเซียเป็นประเทศที่มีความชื่นชอบอาหารไทยอยู่แล้ว การเข้าไปของแหลมเจริญซีฟู้ด ถือเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี และยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้

“ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่อยู่กับคนค่อนข้างเยอะ เราก็จะแก้ปัญหาอยู่ตลอด ก็มีมาตรการในการจำกัดปัญหาในระดับต่างๆ มีวิธีการรับมือกับเลเวลต่างๆ”

แหลมเจริญซีฟู้ด ได้มีพาร์ตเนอร์ที่ดี อย่าง บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “KTC”) ในการทำกิจกรรมร่วมกัน และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น

สำหรับผู้ถือบัตร KTC ที่เข้ามาใช้บริการที่แหลมเจริญซีฟู้ด ค่าอาหาร 1,000 บาท รับส่วนลด 5% ต่อที่ 2 สามารถนำคะแนน KTC มา Burn Point ที่แหลมเจริญซีฟู้ดได้ และ 1,000 คะแนน สามารถแลกส่วนลดได้ 100 บาท สำหรับร้านแหลมเจริญซีฟู้ด

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th หรือสอบถามที่ KTC PHONE 02 123 5000 

สมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนเต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี