เผยแพร่ |
---|
ขนมถ้วย พลิกชีวิต ‘Coco’s Story’ ขายยังไง โกยยอดขายวันละ 4 หมื่นบาท

“เราเดินไปข้างหน้าตลอด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้ผู้ประกอบการหลายๆ ท่าน อย่าไปหวังว่าทางข้างหน้ามันจะเป็นยังไง ถ้าเราไม่ลอง เราก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง”
จากความคิดที่ว่า “สินค้าเราดี อยู่ตรงไหนก็ขายได้ ยิ่งอยู่ริมถนน ลูกค้ายิ่งเห็น ยิ่งขายได้แน่นอน” แต่เมื่อเธอได้ลงสนามจริง ได้มาลองขายจริง มันผิดกับที่คิดไว้มาก ร้านริมถนนที่ลงทุนรีโนเวต ทำทุกอย่าง แต่แล้วผลก็ไม่เป็นดั่งใจหวัง
คุณออม-พชรพร ชิตกร อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขนมถ้วยใบเตยมะพร้าวอ่อน Coco’s Story ที่มีจุดเปลี่ยนพลิกชีวิต เมื่อเปลี่ยนทำเลขายแล้วปังทันที จากร้านเล็กๆ เริ่มจาก 2 เตา สู่ 8 เตา จนปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายได้พีกสุดเฉลี่ย 4 หมื่นบาทต่อวัน
จุดเริ่มต้น
คุณออม เล่าว่า จุดเริ่มต้นเกิดจาก “แฟนอยากลาออกจากงานประจำ” เธอจึงชวนมาขายขนมถ้วยใบเตยมะพร้าวอ่อน ที่เคยเป็นอาชีพเสริมของคุณออม
หากย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เธอได้เปิดร้านขนมถ้วย ชื่อว่า “บุญเฉลียว” เป็นการขายกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ตอนนั้นไม่ได้มีหน้าร้าน เป็นการทำขายโดยนำไปวางตามร้านอาหารต่างๆ และเปิดพรีออร์เดอร์ผ่านทางเฟซบุ๊ก
ซึ่งเธอจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 2 มาช่วยคุณแม่ทำขนม และต้องเป็นคนไปส่งขนมเองทุกวัน แต่ก็ทำบ้าง หยุดบ้าง แต่ไม่ว่าจะหยุดทำไปตอนไหน กลับมาขายอีกกี่ครั้ง ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี
เธอจึงชวนแฟนมาเปิดร้านขนมถ้วย ด้วยความเชื่อที่ว่า สินค้าที่มีมันขายได้ เพราะไม่ว่าจะทำขายกี่รอบ ก็สร้างรายได้ที่ดีมาโดยตลอด
หลังจากนั้น ได้มาขายที่ริมถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ หน้ากว้าง 2.50 เมตร เสียค่าเช่าที่เดือนละ 2,000 บาท มีการปรับปรุง รีโนเวตร้าน ให้ดูสวยงาม และมีความเชื่อที่ว่า ร้านอยู่ริมถนน จะขายได้แน่นอน

ขายของไม่ดี ยอดขายดิ่งเหว
หลังจากที่ได้เปิดร้าน ช่วงแรกก็ขายดี แต่หลังจากนั้นยอดขายก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ
“คือมันมีแต่รถวิ่งผ่าน แต่มันไม่มีคนเดินผ่าน” คุณออม กล่าว
แต่ตอนนั้นเธอก็ยังอดทน คิดว่าไม่เป็นไร ช่วงแรกอาจจะยังไม่มีคนรู้จัก จนผ่านมา 3 เดือน ยอดขายไม่ดีขึ้น ขายได้วันหนึ่งไม่ถึง 40 กล่อง
“ข้าวต้มมัดเอาไปวันละ 15 มัด ยังไม่หมดเลยค่ะ (หัวเราะ)”
“จนเราเริ่มเครียด แล้วก็คุยกับแฟนว่า จะหาทางออกกันยังไง ถ้าเกิดว่าเดือนที่ 3 ยอดขายยังไม่ดีขึ้น จะไปกันต่อไม่ได้แล้วนะ เงินเก็บมันไม่มีแล้ว จะเริ่มเข้าเนื้อเราสองคนแล้วนะ”
หลังจากนั้น เธอก็เริ่มไปออกบูธ ขายตามตลาดนัดต่างๆ
“ตอนนั้นก็สู้ชีวิตกันมากเลยค่ะ ต้องตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เพราะว่าตลาดนัดต้องตั้งตอนเช้า ตี 4 ครึ่งต้องออกจากบ้านแล้ว คือ 6 โมงเช้า จะต้องตั้งร้านเสร็จค่ะ”
ซึ่งเธอบอกว่าผลตอบรับดีขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม จนสามารถขายได้ถึงวันละเป็นร้อยกล่อง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า การไปขายที่ตลาดนัด จะมีแค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น จึงต้องหาตลาดนัดอื่นๆ เพิ่มเข้ามา เพื่อจะมีรายได้ในทุกๆ วัน

เปลี่ยนทำเลปุ๊บ ปังเลย
“มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าเราไม่ลองลุยอันนี้ ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น”
ตอนที่เธอกำลังหาทำเลใหม่อยู่นั้น ก็ได้มีโอกาสจากคุณอาของเธอ ที่ขายดอกไม้อยู่ที่ปากคลองตลาดใหม่ เขาก็ได้ชวนเธอให้มาขายของที่นี่ ค่าที่เดือนละประมาณ 7,500 บาท สูงกว่าที่เก่า 3 เท่า
โดยเป็นช่วงใกล้เทศกาลวันวาเลนไทน์พอดี ตลาดดอกไม้ปากคลองตลาดใหม่ จะขายดีมากในช่วงเทศกาล วันที่คุณอาชวนนั้น เป็นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ และจะต้องมาตั้งร้านให้เสร็จทันภายในวันที่ 11 กุมภาพันธ์
“ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องทัน สุดท้ายก็ตั้งร้านทัน แล้วผลตอบรับแค่ขายที่นี่วันแรก คือรู้เลยว่าออมจะไม่กลับไปที่เก่าแล้ว ทิ้งที่เก่าไปเลย ไม่ต้องไปเสียดาย มาเริ่มใหม่ที่นี่”

จาก 2 เตา สู่ 8 เตา
“ขนมของเราจะราคาถ้วยละ 6 บาท ขาย 35 บาท 3 กล่อง 100 บาท โดยยอดขายเฉลี่ยจะอยู่ที่วันละ 5,000 ถ้วย และพีกสุดวันละ 8,000 ถ้วย”
คุณออม เล่าว่า เริ่มแรกที่ขายมีเพียง 2 เตาเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ 2 เตาไม่เพียงพอแล้ว เพราะทำให้ลูกค้ารอนาน เนื่องจาก 1 ซึ้ง ใช้เวลาทำ 20 นาที ได้ผลผลิตออกมาแค่ 10 กล่อง
จึงเพิ่มเตาเป็น 8 เตา และก็เพิ่มไลน์ขนมเพิ่มเติม จนตอนนี้มีขนมทั้งหมด 10 เมนู ได้แก่ ขนมถ้วยใบเตยมะพร้าวอ่อน ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ขนมเผือก ขนมมันม่วง ขนมมันสำปะหลัง ขนมต้มมะพร้าวน้ำหอม ข้าวต้มมัด ขนมตาล และวุ้นมะพร้าว
ซึ่งแหล่งวัตถุดิบหลักๆ จะเป็นมะพร้าวน้ำหอม ใช้จากสวนที่บ้านแพ้วเท่านั้น จะใช้อยู่ประมาณวันละ rummy gold
กิโล ส่วนใบเตยจะรับซื้อจากกระทุ่มแบน
โดยขนมถ้วยของทางร้าน จะเป็นคอนเซ็ปต์ “หอม นุ่ม ละมุนลิ้น หวานน้อย” และที่สำคัญ จะทำสดใหม่ทุกวัน ไม่มีขนมค้างคืน
ล้มเหลวกี่ครั้ง แต่ก็ต้องไปต่อ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณออมทำมาหลายอย่าง ทั้งเคยทำโรงงานน้ำดื่ม ขายน้ำยาฟอกไต เปิดร้านเค้ก เป็นต้น ซึ่งเธอนั้นเรียนจบธุรกิจการบินมา อาจจะไม่ได้ตรงสายกับงานที่ทำเลย แต่เธอพร้อมจะเรียนรู้ และลองอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
แม้จะล้มเหลวกี่ครั้ง แต่ก็เดินหน้าต่อ ซึ่งขนมถ้วยนั้นเป็นอาชีพเสริมให้คุณออมมาตลอด all rummy apps ปี จากงานเสริมมาเป็นงานหลัก ด้วยที่เธอนั้นยังมีความเชื่อในตัวสินค้านี้ ว่าสามารถขายได้ ไปต่อได้
“สิ่งที่เราตั้งใจทำตลอดมาระยะเวลา 10 ปี มันไม่เสียหายเลย ขอบคุณตัวเองที่อดทน ขอบคุณตัวเองที่สู้ ขอบคุณตัวเองที่ยังเชื่อมั่นขนมถ้วยใบเตยมะพร้าวอ่อนนี้มาโดยตลอด เราไม่เคยทิ้งมันเลย แม้ว่าจะต้องทำๆ หยุดๆ ไปกี่รอบ จนมาทุกวันนี้มันทำให้เราประสบความสำเร็จแบบนี้ได้ เพราะว่าขนมถ้วยเลย” เธอกล่าว
ถ้าเราไม่เปลี่ยน ผลลัพธ์มันก็ไม่เปลี่ยน
“เราเดินไปข้างหน้าตลอด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้ผู้ประกอบการหลายๆ ท่าน อย่าไปหวังว่าทางข้างหน้ามันจะเป็นยังไง ถ้าเราไม่ลอง เราก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง”
ซึ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เกิดจากการที่เธอกล้าตัดสินใจ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และยอมรับความจริง พัฒนาปรับปรุงมาเรื่อยๆ จนได้กลายเป็นร้านที่ใหญ่ขึ้น และประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้


เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2024