จบปริญญา มาเป็นแม่ค้า “ขายอาหารบนคอนโด” พื้นที่ 30 ตร.ม. กับโต๊ะ 1 ตัว รายได้หลักแสนต่อเดือน

จบปริญญา มาเป็นแม่ค้า
จบปริญญา มาเป็นแม่ค้า "ขายอาหารบนคอนโด" พื้นที่ 30 ตร.ม. กับโต๊ะ 1 ตัว รายได้หลักแสนต่อเดือน

จบปริญญา มาเป็นแม่ค้า “ขายอาหารบนคอนโด” พื้นที่ 30 ตร.ม. กับโต๊ะ 1 ตัว รายได้หลักแสนต่อเดือน

แม้จะเรียนจบนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง แต่ คุณอ้น-ธิดารัตน์ ยางคำ อายุ 24 ปี กลับยึดอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารบนคอนโด จากความตั้งใจแรก คืออยากหารายได้เสริมช่วยพี่สาวจ่ายค่าเช่าห้อง ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

จุดเริ่มต้นของการขายอาหารบนคอนโดมาจากช่วงโควิดระบาด ขณะนั้นคุณอ้นเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้าย ซึ่งต้องปรับการเรียนเป็นออนไลน์ เธอจึงย้ายลงมาอยู่คอนโดกับพี่สาวที่กรุงเทพฯ และคิดหาอะไรทำช่วงที่มีเวลาว่าง 

“เรามีเรียนออนไลน์แค่วันละ 3 ชั่วโมง มันก็ว่าง ไม่รู้จะทำอะไรต่อ ช่วงนั้นพี่สาวชอบออกกำลังกายตอนเช้า แล้วเราก็จะมาทำอาหารเฮลตี้กินกัน พี่สาวชอบถ่ายรูปอาหารลงไอจี ก็จะมีเพื่อนๆ เขาเข้ามาคอนเมนต์ว่าน่ากิน ให้ลองทำขาย เราก็เลยเริ่มพัฒนาสูตรอาหาร ศึกษาวิธีการเปิดร้านในแอปดีลิเวอรี กลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน A&A good food good mood ถึงปัจจุบันเปิดมา 2 ปีกว่าแล้ว”

แซนด์วิชอะโวกาโดไข่เยิ้ม
แซนด์วิชอะโวกาโดไข่เยิ้ม

คอนโดของคุณอ้น มีขนาด 30 ตารางเมตร เธอจัดสรรพื้นที่การทำอาหารได้อย่างลงตัว โซนครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งมีประตูระบายอากาศ ใช้เป็นพื้นที่สำหรับทอดวัตถุดิบต่างๆ ส่วนในห้องนั่งเล่น ตั้งโต๊ะ 1 ตัว วางวัตถุดิบสำหรับจัดเซตอาหาร รวมถึงไมโครเวฟ เครื่องทำไอศกรีม และมีตู้เย็นสำหรับแช่วัตถุดิบ

ในส่วนของการลงทุนวันแรก คุณอ้นใช้เงินจำนวน 2,000-3,000 บาท หารครึ่งกับพี่สาว ซื้อวัตถุดิบสำหรับทำแซนด์วิชอะโวกาโดไข่เยิ้ม ซึ่งเป็นเมนูแรกของร้าน ส่วนอุปกรณ์ครัวเธอยังใช้เท่าที่มี 

“เปิดร้านวันแรกตื่นเต้นมาก ขายได้ออร์เดอร์เดียว จากเพื่อนพี่สาวคนที่บอกให้เราลองเปิดร้าน เขาก็มาอุดหนุน มาเป็นกำลังใจให้เรา ทำไปมือสั่นไป ถึงจะได้ออร์เดอร์เดียว แต่ดีใจมากนะ เพราะเพิ่งเปิดร้านวันแรกเอง รวมทั้งเดือนขายได้ 4,000 บาท จากนั้นก็เริ่มมีลูกค้าสั่งและรีวิวให้ เอาไปบอกต่อบ้าง ลูกค้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” เธอเล่าถึงการเติบโต 

โอ๊ตมิลค์
โอ๊ตมิลค์

จากนั้นจึงได้เพิ่มเมนู ถึงปัจจุบันมีให้เลือกเกือบ 100 รายการ ทั้งข้าว สลัด แซนด์วิช เป็นต้น แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำร้านคือ แซนด์วิชอะโวกาโดไข่เยิ้ม โอ๊ตมิลค์ และกรีกโยเกิร์ต ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 55 บาท ถึง 200 บาท คือ เมนูสเต๊ก พอร์คชอป

“โอ๊ตมิลค์ เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเราเลย ข้างล่างเป็นโอ๊ตมิลค์ ทานคู่กับโยเกิร์ตที่เราหมักเองด้วยอุณหภูมิคงที่ 8 ชั่วโมง แล้วก็ทานคู่ผลไม้ต่างๆ ราดน้ำผึ้ง อร่อยลงตัวมากๆ ส่วนเมนูข้าว ก็เป็นข้าวที่พ่อแม่เราปลูกเอง ส่งตรงมาจากอุดรฯ ส่วนผัก ก็สั่งจากฟาร์มออร์แกนิก ผลไม้ก็ใช้เกรดพรีเมียม อย่าง อะโวกาโด รับจากสวนบนดอยเลย ซึ่งต้นทุนจะถูกกว่าซื้อตามตลาดทั่วไป”

เมนูข้าว
เมนูข้าว

คุณอ้น เล่าต่อว่า นอกจากวัตถุดิบคุณภาพแล้ว การขายอาหารต้องมีรสชาติที่ถูกปากลูกค้า ซึ่งร้านของเธอได้รับคำชมอยู่เสมอ เช่น อร่อยมาก อร่อยแสงออกปาก บางคนถึงกับบอกว่าห้ามเลิกขาย  ซึ่งทุกครั้งที่ได้เห็นก็จะเป็นกำลังใจได้อย่างดี

และอีกจุดเด่นคือ อาหารตรงปก ซึ่งมาจากการจัดเซตอาหารด้วยความตั้งใจ ใช้สีสันของผักและผลไม้วางสลับให้ดูมีลูกเล่น รวมถึงปริมาณก็คุ้มค่ากับราคา

เมนูสลัด
เมนูสลัด

สำหรับการขายในแต่ละวัน คุณอ้นจะตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง ต้องขายให้ได้วันละ 5,000-7,000 บาท โดยจะเตรียมตัวเปิดร้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า และเปิดร้านในแอปดีลิเวอรีในไลน์แมน แกร็บ เวลา 6 โมงครึ่ง หากวันไหนได้ยอดตามเป้าก็จะปิดร้านไปพักผ่อน

“รายได้ต่อเดือนหลักแสนบาท จำนวนนี้ยังไม่หักต้นทุน ถ้าหักแล้วกำไรครึ่งๆ เลย แต่ว่ามันก็แล้วแต่เดือนนะ เพราะบางเดือนเราก็ไม่ได้เปิดแบบเต็มเดือน บางวันทำแล้วเหนื่อย ปิดร้านนอนก็มี หลังขายอาหาร เราก็มีเวลานอนดูซีรีส์บ้าง และอ่านหนังสือเตรียมสอบทนายด้วย เพราะเราเรียนด้านนี้มา ถ้าสมมติสอบติด อาชีพนี้ก็ไม่ทิ้ง เพราะมีฐานลูกค้าพอสมควรแล้ว ถ้าต้องปิด แล้วมาเริ่มใหม่ มันก็เหมือนนับหนึ่งใหม่”

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายอาหารบนคอนโด คุณอ้นสามารถส่งให้พ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดได้ใช้จ่าย รวมถึงยังแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าห้อง และซื้ออุปกรณ์ครัวเพิ่มเติมเพื่อช่วยทุ่นแรงของเธอด้วย

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2024