เผยแพร่ |
---|
โอวา กะเทยขายข้าว ชาวนาออนไลน์ เน้นสร้างจุดแข็งแบบมีตัวตน ลูกค้าเกิดภาพจำของสินค้า ช่วยทำตลาดขายข้าวยั่งยืน
“ข้าว” ถือเป็นอีกหนึ่งพืชทางเศรษฐกิจสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนไทยมาอย่างยาวนาน เพราะตั้งแต่เล็กจนโตการได้เห็นทุ่งนาและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการทำนานั้น ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวสำหรับใครหลายๆ คน ที่ได้เห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัดและสื่อโซเชียลมีเดียที่มีการปลูกข้าวสร้างรายได้ คุณโอวา-ธนาวัฒน์ จันนิม เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เรียกได้ว่ามีสายเลือดของความเป็นลูกชาวนาอย่างเต็มตัวได้ต่อยอดการทำตลาดข้าวให้กับครอบครัวจนประสบผลสำเร็จ พร้อมกับขยายการผลิตช่วยให้ชุมชนเกิดรายได้ไปพร้อมๆ กัน

เปิดเวทีเสวนา ฉบับโอวา ต้นแบบกะเทยขายข้าวออนไลน์
คุณโอวา กล่าวในงานมหัศจรรย์ข้าวไทย 2024 ช่วงเวทีเสวนาเกี่ยวกับเวทีโชว์เคสข้าวไทยว่า เริ่มแรกมองว่าการทำนาของครอบครัวยิ่งทำยิ่งรู้สึกว่ายิ่งจน เพราะครอบครัวเป็นเกษตรกรทำนามาอย่างยาวนาน ทำให้มองว่าสมัยก่อนแม้จะช่วยเหลืองานครอบครัวมากเท่าไร แต่รายได้ก็ไม่มากพอที่จะพาก้าวผ่านความยากจนไปได้ จึงทำให้ในช่วงแรกได้ทิ้งอาชีพเกี่ยวกับการทำนาไป คือการเข้าเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครเข้ามาเรียนและทำงานสร้างรายได้
เมื่อได้เข้าทำงานบริษัทเอกชนอย่างเต็มตัว และอยู่กับงานที่ทำมาเรื่อยๆ จึงเริ่มเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณโอวา และช่วงเจอสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้ได้ปรับเปลี่ยนสายอาชีพและได้กลับมาอยู่บ้านเกิดและขายข้าวออนไลน์ให้กับครอบครัว
“พอเราได้กลับมาอยู่บ้าน ด้วยความที่เราเป็นกะเทย เราก็ต้องแบกข้าวเปลือกไปสีให้แม่ เชื่อไหมคะช่วงนั้นเราเหนื่อยมาก แต่ข้าวที่ขายได้ 10 ตัน ได้เงินมาแค่ 72,000 บาท ซึ่งมันทำให้เราเห็นว่า ช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ นั้นข้าวที่ขายให้เรากินแพงอยู่นะคะ แต่ทำไมข้าวที่เราขายได้มันถูกลงได้ขนาดนี้ จึงเกิดความคิดที่จะทำตลาดเองทั้งหมด เพื่อเป็นการตัดวงจรบางช่วงออกไป”

การขายข้าวออนไลน์ แบบจริงจัง จุดเริ่มต้นให้ครอบครัวเชื่อมั่น
คุณโอวา เล่าว่า สิ่งที่จะช่วยให้ครอบครัววางใจและเชื่อในสิ่งที่ทำได้จริง คือการทำให้ครอบครัวได้เห็นว่าการขายข้าวออนไลน์ เป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน เพราะการทำตลาดข้าวต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น การนำเสนอหรือการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนรู้จักว่าคุณโอวาทำอะไรอยู่นั้น จึงเริ่มต้นประชาสัมพันธ์โดยเอาตัวเองเข้าไปมีบทบาทให้มากขึ้นทางช่องทางออนไลน์
“พอโอวาเริ่มสร้างตัวต้นมากขึ้น ข้าวที่ขายได้ราคาถูกจาก 72,000 บาท ราคาขายได้ก็เริ่มมีมูลค่าเพิ่มขึ้น พอทำไปเรื่อยๆ สินค้าที่มีเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ต่อมาการขยายตลาดก็เริ่มต้นขึ้น โดยโอวาก็ได้เกิดการรวมกลุ่มขึ้นมา เพื่อสร้างเป็นสังคมเครือข่ายมากขึ้น จากพื้นที่นาไม่มากแบบสมัยเกิด ปัจจุบันโอวาสามารถมีพื้นที่นาที่ผลิตข้าวขายได้มากกว่า 500 ไร่ในเวลานี้ค่ะ”

เทรนด์คนรักสุขภาพ กลุ่มเป้าหมายหลัก
สำหรับการขายข้าวเพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนั้น คุณโอวา พูดในช่วงของการเสวนาให้ฟังว่า การรู้เป้าหมายที่ชัดเจนและสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าถือเป็นเรื่องสำคัญ คุณโอวาได้ไปทำการสำรวจตลาดและทราบว่าเทรนด์อาหารสุขภาพเป็นสิ่งที่กำลังเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก ทำให้ข้าวที่เข้ามาทำการจำหน่ายนั้นเน้นสร้างเป็นข้าวที่อยู่ในห่อบรรจุประมาณ 5 สายพันธุ์ และให้ชื่อว่าข้าวจักรพรรดิ โดยนำข้าวของแต่ละสายพันธุ์ที่มีลักษณะที่ดีมาผสมเขาด้วยกัน จนเกิดเป็นสินค้าที่มากประโยชน์
“พอเราสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับการทำตลาด เชื่อไหมคะว่ารายได้ที่โอวาได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่าเดิมมาก จนทำให้รายได้แต่ละปีของโอวาอยู่ที่หลักล้านบาท ซึ่งการขายก็จะอยู่ในเพจของโอวาเป็นหลัก เพราะฉะนั้น โอวาจะบอกว่า การทำตลาดที่ดีเราคิดว่าเราอยู่ตรงไหนได้ เราต้องพาตัวเองในอยู่ในที่นั้นๆ ให้ได้ เพื่อให้คนที่เห็นเกิดภาพจำ และอย่างน้อยไม่ว่าเขาอยากชิมข้าวแบบไหน โดยเฉพาะข้าวเพื่อสุขภาพหรือว่าข้าวหอมมะลิสุรินทร์ เขาก็ต้องนึกถึงหน้าโอวา”

การสร้างตัวตนที่ชัดเจน ช่วยให้ลูกค้าเกิดความไว้ใจ
ในส่วนของการสร้างตลาดให้มีความเข้มแข็งและลูกค้าเกิดความเชื่อใจ คุณโอวา พูดในช่วงเสวนาต่ออีกว่า การทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ลูกค้าเห็นชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการไถนา การตัดหญ้าตามหัวไร่ปลายนา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เกิดเรื่องราวที่ทำให้ลูกค้าเห็น และจะรู้ว่าเราทำอะไรบ้างในบริบทของการทำนา เพราะฉะนั้น ความมั่นใจและเชื่อใจจึงเป็นสิ่งที่ทำให้การขายข้าวยั่งยืน
“อย่างที่เราทราบกันดีว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพค่อนข้างมากพอสมควร เพราะฉะนั้น ยิ่งเราขายสินค้าออนไลน์ด้วยแล้ว การสร้างตัวตนถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง แล้วมูลค่าของสินค้าที่มีจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เชื่อไหมว่าตอนนี้สินค้าของโอวามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และสินค้าสามารถขายแบบเงินสดได้ทั้งหมด โดยที่ไม่มีการวางบิลให้เกิดความวุ่นวายในการทำสินค้า”
ความสุขจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทำให้อาชีพชาวนายั่งยืน
สำหรับในเรื่องของการสร้างความสุขในสิ่งที่ได้จากการเป็นชาวนานั้น คุณโอวา ทิ้งท้ายในช่วงของเวทีเสวนาว่า การไม่คาดหวังกับสิ่งรอบตัวมากจนเกินไป จะช่วยให้ในแต่ละวันสามารถมีความสุขกับสิ่งต่างๆ ได้อยู่เสมอ จากนั้นเมื่อสิ่งที่ได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ การดำเนินตลาดต่อไปก็ค่อยๆ ทำและขยับขยายออกไปเรื่อยๆ จะช่วยให้การทำตลาดไม่ใช่เรื่องยากถ้าเริ่มลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ
“อย่างที่เราทราบกันว่า ทุกวันนี้มีคนเก่งๆ เยอะมาก โดยเฉพาะชาวนา สำหรับใครที่สนใจอยากจะขายข้าวออนไลน์ให้สำเร็จ สิ่งที่ต้องเริ่มเลยคือลงมือทำ จากนั้นประสบการณ์ที่สั่งสมเรื่อยๆ จะทำให้เรามีศักยภาพในการขายข้าวได้ไม่ยาก ขอเพียงเราลงมือทำอย่างสม่ำเสมอและมีความต่อเนื่องของเวลา โดยอยู่กับมันจนเราประสบผลสำเร็จ” คุณโอวา กล่าวทิ้งท้าย