เผยแพร่ |
---|
แกะสูตรความสำเร็จ “จิ๊นทอดป้าตือ” ทำไมกระแสแรง เพราะอะไร คนถึงยอมต่อคิวรอเป็นชั่วโมง
สายโซเชียลทั้งหลาย ต้องรู้จักร้าน “จิ๊นทอดป้าตือ” ซึ่งเป็นร้านอาหารทางภาคเหนือของ ป้าตือ–สมบัษร ถิระสาโรช ออร์แกไนเซอร์ชื่อดังของเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะเป็นงานไหนๆ ถ้าผ่านมือป้าตือรับรองได้ว่า ปังทุกงาน

ไม่นานมานี้ ป้าตือได้ผุดอีกหนึ่งอาชีพ คือการเป็นเจ้าของร้านอาหาร ซึ่งเป็นกระแสอย่างมาก เพราะว่ามีเหล่าอินฟลูฯ คนที่มีชื่อเสียงไปลิ้มรสทดลอง แล้วแชร์ต่อๆ กัน ทำให้เกิดเป็นความสนใจให้กับนักชิม
ต้องบอกว่าหลังจากเปิดไม่นาน ลูกค้าต่างไปรอต่อคิวกัน บางคนรอเป็นชั่วโมงก็มี รอ 2-3 ชั่วโมงก็มี สิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามในใจว่า ที่คนเขาไปกันเยอะๆ เป็นเพราะกระแส หรือว่าเป็นเพราะอาหารกันแน่
ไม่ผิดถ้าใครหลายๆ คนมองว่าที่คนไปต่อคิวกัน อาจจะเป็นเพราะกระแสในตอนนี้ แต่จากที่ได้อ่านความคิดเห็นของชาวเน็ตหลายๆ ท่าน รวมถึงคนที่มารีวิวลงช่องของตนเองแล้วนั้น ทำให้เห็นว่า แค่กระแสไม่เพียงพอ รสชาติ วัตถุดิบ และราคา ต้องดีด้วย
การสร้างตัวตน สร้างภาพจำ ในฉบับ “จิ๊นทอดป้าตือ”
สำหรับร้านจิ๊นทอดป้าตือ มีการทำ Personal Branding เพื่อนำเสนอตัวตนผ่านร้านอาหาร ไม่ใช่แค่ในเรื่องรสชาติเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตกแต่งร้าน การใช้ภาชนะ และวัตถุดิบต่างๆ ช่วยบ่งบอกและชูความเป็นพื้นถิ่น ให้คนรับรู้ถึงตัวตนและสร้างภาพจำให้กับลูกค้าได้
อาหารภายในร้านส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นถิ่นภาคเหนือ เช่น น้ำพริกหนุ่ม+ผักต้ม ไส้อั่วย่าง หมูยอทอด แคบหมู และอีกมากมาย ส่วนภาชนะที่ใส่ จะใช้จานสังกะสีเคลือบขาว เพื่อช่วยทำให้ดูเข้าถึงง่าย เหมาะกับลูกค้าทุกกลุ่ม และบรรยากาศร้าน ก็จะเป็นบรรยากาศร้านริมทาง สบายๆ
นอกจากนี้ ยังมีการใช้อินฟลูฯ เพื่อสร้างความน่าสนใจ หรือความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า ซึ่งป้าตือเองก็มีพื้นฐานความมีชื่อเสียงอยู่แล้ว และรู้จักกับเหล่าอินฟลูฯ ต่างๆ ซึ่งหลายคนก็มาช่วยประชาสัมพันธ์ในช่องของตนเอง ทำให้คนรู้จักร้านของป้าตือมากยิ่งขึ้น
อินฟลูเอนเซอร์ ก็เปรียบเสมือนผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ซึ่งจะมีผู้ติดตามจำนวนมาก มีความน่าเชื่อถือ สามารถโน้มน้าวใจผู้คนให้ตัดสินใจทำอะไรได้ ซึ่งการจ้าง อินฟลูฯ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่นิยมมากที่สุดในยุคนี้
ราคาที่จับต้องได้ยามเศรษฐกิจย่ำแย่
เรื่องราคา เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ หากอาหารที่มีราคาแพงจนเกินไป หลายๆ คนก็ยากที่จะเข้าถึงได้ แต่ร้านจิ๊นทอดป้าตือ ราคาอาหารค่อนข้างจับต้องได้ เพราะมีราคาอยู่ที่หลักสิบ ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกประเภท ตั้งแต่คนมีงบน้อยไปจนถึงกลุ่มไฮโซก็กินได้
เมนูในร้านมีราคาค่อนข้างดี เช่น
ไก่ทอด ราคา 70 บาท
หมูสามชั้นทอด 70 บาท
ไส้อั่วย่าง 60 บาท
หมูยอทอด 30 บาท
ปลาทูทอด 25 บาท
ไข่ต้ม 20 บาท
น้ำพริกหนุ่ม+ผักต้ม 30 บาท
น้ำพริกแดง+ผักต้ม 30 บาท
แคบหมู 30 บาท
ข้าวเหนียว 10 บาท
มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า
“อย่างน้ำพริกหนุ่ม+ผักต้ม กินกับข้าวเหนียว ในราคาประมาณ 40 บาท อิ่มคุ้มค่า และรสชาติถูกปาก ตอบโจทย์อย่างมากในราคานี้”
บ้างก็บอกว่า
“ราคาคละกันไป แต่ถ้าเทียบในกรุงเทพฯ ก็ถือว่าถูกมาก ได้กินหลายอย่างแบบที่ไม่ต้องสั่งเป็นเซตใหญ่ๆ”
และล่าสุด ป้าตือได้มีการขยับขยายพื้นที่ร้านออกไป จากเดิมที่มีเพียงแค่ 12 โต๊ะ ให้มีพื้นที่กว้างมากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าได้เยอะกว่าเดิม และรับมือกับหน้าฝนด้วย
สุดท้ายนี้ ต้องยอมรับว่ากระแสของร้านจิ๊นทอดป้าตือ ถือว่ามาแรงและช่วยเรียกลูกค้าได้ แต่ก็อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้คนรู้จักและเกิดความสนใจ เพราะยังคงมีเรื่องของราคา รสชาติ วัตถุดิบที่เป็นจุดแข็งหลักๆ ของร้านนี้ แต่หลังจากนี้ป้าตือจะใช้กลยุทธ์ในการทำร้านอาหารอย่างไรต่อไป เพื่อให้ร้านจิ๊นทอดป้าตือยังคงอยู่ได้ยาวนานมากที่สุด ต้องรอติดตาม