กว่าจะมาเป็น “เชฟกอล์ฟ” Top Chef เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย

กว่าจะมาเป็น “เชฟกอล์ฟ” Top Chef เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย

“โอ้ย เป็นผู้หญิงอะ เป็นได้แค่เดมี่แหละ ไม่ได้เติบโตไปกว่านั้นหรอก” (เดมี่ คือ ผู้ช่วยเชฟ)

ประโยคเหล่านี้ คือสิ่งที่ เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ ได้ยินมาตลอดตั้งแต่ตอนเป็นผู้ช่วยกุ๊ก ด้วยความที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ในท่ามกลางเชฟผู้ชายตัวใหญ่ๆ ทำให้หลายคนมักมองข้ามความเก่งของเธอ สบประมาทว่าความฝันของเธอนั้นเป็นไปไม่ได้

โดยคำพูดเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันให้เชฟกอล์ฟ ก้าวมายืนในจุดที่สูงสุดของเชฟ ในตำแหน่ง Executive Chef หรือหัวหน้าเชฟ ของโรงแรมชื่อดังระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง และได้ไปแข่งขันในรายการชื่อดังอย่าง Top Chef Thailand 2023 อีกด้วย

เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์
เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์

จุดประกายความฝัน

เชฟกอล์ฟเกิดที่ราชบุรี โดยมีคุณแม่ที่เปิดร้านอาหาร ทำให้เธอได้รับอิทธิพลตรงนั้นมา นั่นคือการที่ได้คลุกคลีอยู่ในครัว เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ได้ช่วยคุณแม่เด็ดพริก เด็ดใบกะเพรา ก่อนที่จะออกไปเล่นข้างนอก ทำให้ฝีมือการทำอาหารของเธอพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ และความมุ่งมั่นที่ไม่เคยท้อถอย

หากย้อนไปเมื่อประมาณ 18 ปีที่แล้ว เธอเล่าว่า ชีวิตการเป็นเชฟของเธอนั้นไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ ด้วยความที่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ทำให้โดนใครหลายๆ คนมองว่า เป็นผู้หญิงตัวเล็กคงจะไม่ได้เติบโตได้ดีเท่าผู้ชาย

แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนชอบเรียนรู้ ชอบจด ชอบฝึกฝน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทำให้เติบโตได้เร็วกว่าคนอื่น จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง Executive Chef ในที่สุด เพราะเธอบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า

“เราต้องทำดีให้เขาดู ต้องเติบโตให้ได้ คือเราไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นแบบไหน แต่เราเป็นคนชอบเรียนรู้ เป็นคนไม่หยุดนิ่ง บางทีไม่มีใครสอนเรานะ เราก็จะไปดูใน Google บ้าง อ่านหนังสือเก่าๆ ที่สะสมไว้บ้าง ก็เรียนรู้เพิ่มเติม จากแหล่งความรู้ที่เราสะสมไว้นี่แหละ”

เธอยังเล่าอีกว่า เหตุผลที่ชอบสะสมและอ่านหนังสือเก่าๆ เพราะว่า ได้เรียนรู้ว่าสมัยก่อนเขาทำกันแบบไหน ใส่เครื่องแกงอะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงอร่อย การสะสมหนังสือจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิตเชฟกอล์ฟเลยก็ว่าได้

เส้นทางสู่ Executive Chef

ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการที่ได้มายืนในจุดนี้ เธอตอบว่า 

“มันภาคภูมิใจนะ ชีวิตเชฟไม่ได้โรยมาด้วยกลีบกุหลาบ เป็นชีวิตผู้หญิงแกร่งจริงๆ กว่าจะผ่านอะไรมาแต่ละอย่าง ไม่ได้ว่าสบาย คือต้องเหนื่อย ต้องใช้ความสามารถ ใช้ความอดทน บางทีมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า กลับบ้าน 4 ทุ่ม ก็จะเป็นประมาณนี้เลย”

เธอเล่าว่า บางคนก็จะพูดจาเหมือนด้อยค่าเธอ ประมาณว่า “ทำได้เหรอ” เพราะเห็นแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่เธอเก็บคำพวกนั้นมาทำให้ตนเองเติบโต และนำความสำเร็จไปโชว์พวกเขา

จากเงินเดือนเริ่มแรก 5,400 บาท จนทุกวันนี้เติบโตอย่างมีเกียรติ และภาคภูมิใจ จนสามารถพูดได้เต็มปากว่า “เชฟภูมิใจ ในการเป็นเชฟ” 

แต่หน้าที่ของเชฟไม่ได้ทำอาหารอย่างเดียว แต่ต้องถ่ายทอดให้ทีมงาน รุ่นน้อง ได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องคุณภาพ ต้องทำให้รสชาติอาหารที่เสิร์ฟให้แขกทุกจาน มีมาตรฐาน อร่อย และสะอาด

การรังสรรค์เมนู

ในเมนูแต่ละจาน จะมีคอนเซ็ปต์ที่ทำให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า อาหารที่เชฟกอล์ฟทำ จะเป็นเมนูจากรสมือแท้ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการทำพริกแกงเอง เธอบอกว่า ที่ต้องทำเองทุกขั้นตอน ไม่ซื้อสำเร็จรูป ก็เพราะว่าในรสชาติอาหารนั้นจะมีกลิ่นอายความเป็นตัวเอง และไม่เหมือนใคร มีมนต์เสน่ห์ในแต่ละจานอาหาร

“เชฟอยากให้คนกิน รู้สึกว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีในอาหารทุกเมนูที่เราครีเอตไป และรู้สึกประทับใจไปกับเรา” เธอกล่าว

วัตถุดิบหลักที่ขาดไม่ได้เลยก็จะเป็น ข้าวสวยร้อนๆ ที่เสิร์ฟคู่กับอาหารไทย ซึ่งเธอเล่าว่า ข้าวที่ใช้เสิร์ฟนั้น เป็นข้าวหอมมะลิ ที่มีความนุ่ม มัน เม็ดเงา ไม่เละเกินไป ไม่แห้งเกินไป ทานเข้าไปแล้วจะมีความหอม และถ้าทานข้าวเปล่าๆ แล้วมีความหวาน นั่นคือข้าวที่อร่อยจริงๆ ที่เธอเลือกใช้เสิร์ฟ

และหากเราได้รู้ประวัติความเป็นมาของจานที่เสิร์ฟ ว่ามีความเป็นมายังไง จะทำให้คนทานรู้สึกเพลิดเพลิน รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ทำให้อาหารอร่อยทวีคูณขึ้นไปอีก เพราะลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับบ้านไป

เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์
เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์

บนเวที Top Chef Thailand 2023

เชฟกอล์ฟ เล่าว่า สาเหตุที่เลือกมาเข้าแข่งขันในรายการนี้ เพราะอยากลอง Challenge ตัวเองดู เธอบอกว่า ถ้าไม่ได้ทำตามสิ่งที่อยากทำ จะรู้สึกเสียดาย ถึงแม้จะโดนด่าก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจทำ ตอนนั้นที่ได้รับคัดเลือก เธอถึงกับน้ำตาคลอด้วยความดีใจเลยทีเดียว

ในขณะเดียวกัน การแข่งขันที่ดุเดือด จึงทำให้เกิดความกดดันทุกครั้ง เพราะในรายการไม่ได้มีการจัดฉากขึ้น ทุกอย่างคือจริงหมด เธอเล่าว่า ตอนไปแข่งรอบแรก คิดในใจเลยว่า อย่าตกรอบแรกนะ อายเพื่อน (หัวเราะ)

สิ่งที่เห็นในรายการอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะความจริงมันมีอุปสรรคมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ทำกับข้าว จุดไฟอยู่ดีๆ กระดาษก็ปลิว วางโหระพาไว้ ก็ปลิว เธอเล่าด้วยน้ำเสียงตลกขบขัน ทำให้เห็นเลยว่าการแข่งขันในรายการ Top Chef Thailand นอกจากจะต้องทำอาหารเก่งแล้ว ยังต้องแข่งกับคนที่เก่งกว่า และเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเจออะไรบ้าง

แรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่

เชฟกอล์ฟ เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ที่ใฝ่ฝันอยากประกอบอาชีพเชฟ เธอแสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้ามุ่งมั่น ตั้งใจเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะทำให้ความฝันเป็นจริง และประสบความสำเร็จ

เธอบอกว่า การเป็นเชฟมันไม่ง่าย เธอเชื่อว่าทุกคนที่เลือกมาเป็นเชฟ ต้องมีใจรัก เพราะอาชีพเชฟ เป็นอาชีพที่เหนื่อย ต้องยืนตลอดทั้งวัน บางทีเข้างาน 10 ชั่วโมง ยืนตลอด 10 ชั่วโมง หรือบางวันต้องยืน 12 ชั่วโมงก็มี เพราะฉะนั้น

“เป็นเชฟต้องอดทน มีใจรัก มีความ Creative มีความ Unique ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา เพราะว่าความรู้มันจะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จ”

.

.

พิเศษสุดๆ สามารถมาเจอกับ “เชฟกอล์ฟ Top Chef” ตัวจริงเสียงจริงได้ที่งาน “มหัศจรรย์ข้าวไทย 2024” จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค – 2 มิ.ย. 67 สถานที่สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 5 

งานนี้เชฟกอล์ฟจะมารังสรรค์เมนู “ข้าวผัดอเมริกัน” ที่เป็นเมนูโปรดในวัยเด็กของเชฟเอง โดยจะได้ทั้งความอร่อย ความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่ามาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน 

———————————————————————————————————————

มาแน่! #มหัศจรรย์ข้าวไทย2024 🍚 งานที่มัดรวมข้าว GI สุดแสนหายากจากทุกสารทิศทั่วไทยมาไว้ในงานเดียว พร้อมเดินทัวร์ให้รู้ว่าข้าวไทยทำถึง กับนิทรรศการข้าวสุดอลัง ฟังเสวนาที่ครบรสทั้งความรู้และความบันเทิง

จัดเต็มกับเวิร์กช็อป และการสาธิตสารพัดเมนูจากข้าวทั้งคาว-หวานครบรส #ข้าวไทย ก็ทำได้จริง แถมได้ช้อปปิ้งสินค้าเกี่ยวกับข้าวที่หลากหลายกันให้หนำใจ

มาชิมให้รู้ มาชมให้เห็นกับตา  📅 เตรียมตัวพบกันวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายนนี้ 🏬ที่ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสารสาธารณะ, รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสามย่าน ทางออกที่ 2 เข้าฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย