เผยแพร่ |
---|
มูลนิธิบ้านมานา แสงแห่งความหวัง ส่องประกายสู่อนาคต เป็นมากกว่าที่พักพิง
ในสังคมปัจจุบันนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมีหลายเรื่องเกี่ยวกับเด็กๆ ที่ขาดแคลนในหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของการศึกษา สภาพแวดล้อม สังคม ความเป็นอยู่ ยังคงมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย
จุดมุ่งหมายที่จะพาเด็กๆ ออกมาจากสังคมที่เสื่อมโทรม เด็กๆ ที่ตกเป็นเหยื่อทางสังคมในรูปแบบต่างๆ ทั้งถูกล่วงละเมิดทางร่างกาย จิตใจ เพศ รวมไปถึงพ่อแม่ไม่มีความพร้อมที่จะดูแล

ด้วยปัญหาเหล่านี้จึงได้เกิดเป็น มูลนิธิบ้านมานาโพธารามเพื่อสตรีและเด็ก ปัจจุบันดูแลโดย ครูซิ้ม-มณฑิตา ไชยสมบัติ มูลนิธินี้ตั้งอยู่ที่ ตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ในพื้นที่ 3 ไร่ โดยมีอาคารที่พัก 3 หลัง และมีส่วนกลางเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีเด็กๆ ตั้งแต่อายุ 1 ขวบครึ่ง ไปจนถึง 18 ปี

มูลนิธิบ้านมานาโพธารามเพื่อสตรีและเด็ก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยกลุ่มคุณครูคริสเตียน เพื่อเป็นที่พักพิงให้กับเด็กๆ เหล่านั้น ได้มีความหวังและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเก่า เพราะไม่ใช่เป็นเพียงที่พักพิง แต่ยังเป็นสื่อกลางระหว่างเด็กๆ และคนในสังคมที่ไม่ได้มาหาพวกเขาเพียงเพราะความสงสาร แต่มาด้วยความรักและความเมตตา
โดยรับเด็กที่ประสบปัญหาและตกเป็นเหยื่อทางสังคม ไม่ว่าจะถูกทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจ บางคนก็เป็นเด็กที่มีข้อจำกัดบางอย่างจากรัฐบาล โดยพ่อหรือแม่ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ทางมูลนิธิแห่งนี้ก็จะเข้าไปรับเด็กมาดูแล
นอกจากจะให้ที่พักพิงแล้ว ยังส่งมอบความรู้ให้กับทุกคน เพื่อในอนาคตข้างหนาจะได้มีวิชาความรู้ และเอาตัวรอดได้ในสังคม
มากกว่าที่พักพิง
มูลนิธิแห่งนี้ ให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการศึกษา เด็กๆ ทุกคนที่เข้ามา ไม่ว่าจะเผชิญกับอะไรต่างๆ ภายนอกมาหนักหน่วงแค่ไหน สถานที่แห่งนี้จะโอบกอดและส่งเสริมพวกเขาให้พบเจอแต่สิ่งดีงาม
“เราเห็นว่า เด็กที่ไม่มีการศึกษามันจะลำบากกว่าคนที่เขามี เราเชื่อว่า การศึกษาเป็นพื้นฐาน เป็นใบเบิกทาง เป็นต้นทุนที่เขาจะไปถึงอนาคต” ครูซิ้ม กล่าว
เด็กๆ ทุกคนจะได้เข้าโรงเรียนในพื้นที่คือ อำเภอโพธาราม เพื่อเป็นใบเบิกทางได้ในอนาคต แต่ว่าในกระบวนการศึกษา จะต้องมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเทอม ค่าอาหารของเด็กๆ ที่ทางครูซิ้มจะต้องจ่ายให้ในทุกวัน
ครูซิ้ม บอกว่า ในเรื่องของค่าเทอม ก็ยังถือว่าโชคดีที่โรงเรียนที่เด็กๆ เรียน ไม่ได้มีการเก็บค่าเทอมมากมาย แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายในบางเรื่อง ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินพอสมควร ในบางครั้งก็จะมีผู้ใหญ่ใจดี ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
จากวิกฤต สู่ ความอบอุ่น
เด็กๆ หลายต่อหลายคน ต่างมีเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจมามากมาย แต่เมื่อได้ก้าวเข้ามาสู่บ้านหลังนี้ ทุกคนจะสลัดความปวดร้าวเหล่านั้นออกไป และจะถูกเยียวยาเข้าด้วยจากความอบอุ่นจากคุณครู เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยู่ด้วยกัน
“ทุกคนดีขึ้น จะไม่มีใครถามว่าทำไมมาอยู่ที่นี่ ครูบอกว่าไม่ต้องถาม ทุกคนมีปัญหา มีบาดแผลเหมือนกัน เราจะไม่พูดเรื่องของกันและกัน พี่จะดูแลน้อง พากันทำอะไรร่วมกัน และเด็กๆ ก็จะลืมไปเลยว่าเคยเจออะไรมา” ครูซิ้ม เล่า

บ้านมานา…ต้องการ
ระหว่างนั่งคุยกับครูซิ้มไปเรื่อยๆ ก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า แล้วความต้องการที่แท้จริงของมูลนิธิแห่งนี้คืออะไร ทางด้านครูซิ้มรีบตอบกลับมาทันทีว่า
“การเยี่ยมเยียน การมาพบปะเด็ก ไม่จำเป็นต้องมาทำกิจกรรม ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงอาหารหรือนำสิ่งของมาให้ แต่การที่มีคนหนึ่งคนใดจากภายนอกที่เด็กไม่รู้จัก การเข้ามาแบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่า เขามีค่า เขาเป็นที่ห่วงใยของสังคม”
นอกจากนี้ เธอยังกล่าวเสริมอีกว่า
“บ้านมานาเป็นสื่อกลาง ระหว่างเด็กๆ และคนภายนอก ที่ไม่ได้มาเพราะแค่ความสงสาร แต่มาพร้อมด้วยความรักและความเมตตา”
ในพื้นที่มูลนิธิก็จะมีการปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพื่อเป็นวัตถุดิบในการนำมาบริโภค นอกจากนี้ ก็จะมีคนเข้ามาบริจาคทั้งในเรื่งของอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ อีกด้วย
…………………………………………………….
ทุกคนสามารถสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความอบอุ่นนี้
ในกิจกรรม “เส้นทางเศรษฐี ตะลอนทัวร์” วิถี • ท้องถิ่น • สร้างสรรค์ กรุงเทพฯ-ราชบุรี-เพชรบุรี ในระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2567 พร้อมพาทุกคนตะลอนทัวร์ ทำกิจกรรม CSR ณ มูลนิธิบ้านมานาโพธารามเพื่อสตรีและเด็ก จากนั้นแวะทานอาหารกลางวันที่ป้าหยันร้านอาหารไทย กับเมนูสุดพิเศษ กุ้งซอสมะขาม แกงคั่วปูใบชะครามเส้นหมี่ ไก่บ้านต้มขมิ้น เป็นต้น
พร้อมมุ่งหน้าสู่ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เรียนรู้วิถีชุมชนท้องถิ่น และพักผ่อน ณ โรงแรมชั้นนำในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ Chef’s Table ในหัวข้อ “รุ่มรวยวิถีถิ่น กินดับร้อน” กับ เชฟโย-กริชณรงค์ จันทร์ปลูก เจ้าของร้านรัญจวนใจ
สามารถติดตามรายละเอียดร่วมงานได้ในเพจ Sentangsedtee – เส้นทางเศรษฐี เร็วๆ นี้ โทร. 0-2580-0021 ต่อ 2335
