รอดไปด้วยกัน! CEO Nintendo ตัดสินใจลดเงินเดือน เพื่อให้พนักงาน และบริษัทอยู่รอด

รอดไปด้วยกัน! CEO Nintendo ตัดสินใจลดเงินเดือน เพื่อให้พนักงาน และบริษัทอยู่รอด

สถานการณ์ในช่วงเวลานี้อุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี สื่อ รวมไปถึงการเงิน ต่างเผชิญกับการปลดพนักงาน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท ซึ่งเคยมีบริษัทเกมรายใหญ่จากญี่ปุ่น นั่นคือ Nintendo เคยมีวิธีการเอาตัวรอดจากวิกฤต โดยไม่ใช้วิธีการลดจำนวนพนักงาน

Former Nintendo president, Satoru Iwata. Handout | Getty Images News | Getty Images
Former Nintendo president, Satoru Iwata. Handout | Getty Images News | Getty Images

อย่าง Satoru Iwata ผู้บริหารบริษัทวิดีโอเกม Nintendo ที่ตั้งอยู่ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2002 จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 2015 

Nintendo คือบริษัทเกี่ยวกับวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่น ที่มีอายุยาวนานที่สุดและมีอิทธิพลต่อธุรกิจแบบเดียวกันมากที่สุด

ในปี 2013 Nintendo ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเกม Wii U เป็นรุ่นต่อจาก Wii ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่กลับล้มเหลวทางด้านการตลาด ทำให้บริษัทประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันหลายปี

แต่การจะเอาตัวรอดจากวิกฤตนี้ และหลีกเลี่ยงการเลิกจ้างพนักงาน Iwata ได้ตัดสินใจลดเงินเดือนตัวเองลง 50% เพื่อช่วยจ่ายเงินเดือนพนักงาน โดยให้เหตุผลว่า 

“Nintendo ที่มีพนักงานเต็มอัตราจ้างจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้ดีกว่า”

อีกทั้งยังกล่าวเสริมว่า 

“หากเราลดจำนวนพนักงานเพื่อผลลัพธ์ทางการเงินระยะสั้นที่ดีขึ้น ขวัญกำลังใจของพนักงานจะลดลง และผมไม่เชื่ออย่างจริงใจว่า พนักงานที่กลัวว่าจะถูกเลิกจ้างจะสามารถพัฒนาเกมที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนทั่วโลกได้”

เรื่องราวของเขาถูกพูดถึงอีกครั้งอย่างมากบนโซเชียล โดยผู้ใช้บางคนชื่นชมการตัดสินใจของเขาที่ไม่เลิกจ้างพนักงาน และขณะเดียวกัน บริษัทวิดีโอเกมหลายแห่ง เช่น Riot Games และ Microsoft ที่เป็นเจ้าของ Activision Blizzard และ Xbox กำลังประสบปัญหาการเลิกจ้างพนักงาน

Rohan Verma นักบริหารสอนเชิงกลยุทธ์จากซานฟรานซิสโก ได้อธิบายถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และพูดถึงบริษัทอื่นที่กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน

Iwata มั่นใจในความสามารถของเขา

การลดเงินเดือนแทนการเลิกจ้างพนักงาน ทำให้บริษัทมีศูนย์กลางอยู่ที่ความสามารถของพนักงานในการฟื้นตัว การตัดสินใจลดเงินเดือนตัวเอง ทำให้พนักงานที่มีความสามารถยังคงอยู่ และทำงานในโปรเจ็กต์ต่างๆ ต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายในการฟื้นฟูสถานการณ์ทางการเงินในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเครียดและพนักงานมีขวัญกำลังใจที่ดี

หลังจากนั้นในปี 2017 บริษัทได้เปิดตัวคอนโซลเกม นั่นคือ Switch ทำให้รายได้กลับมา และได้มากกว่า 139 ล้านเครื่อง ณ เดือนธันวาคม 2023

Verma กล่าวว่า 

“Nintendo จำเป็นต้องฝ่าฟันการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การเปิดตัว Nintendo Switch ซึ่งสร้างผลกำไรมหาศาลให้กับบริษัท พวกเขาจำเป็นต้องรักษาความสามารถเหล่านั้นไว้ และส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การรักษาความสามารถคือ ค่าตอบแทนที่แข็งแกร่ง”

แนวคิดนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง หากผู้ประกอบการท่านใดก็ตามที่เลือกเดินตามรอย Iwata จำเป็นต้องมั่นใจอย่างยิ่งว่า กลยุทธ์ของบริษัทนั้นยังคงแข็งแกร่ง หรือผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอออกแบบมาตรงกับความต้องการของตลาด

วัฒนธรรมอาจมีผลต่อการตัดสินใจ

การตัดสินใจของ Iwata ในครั้งนี้อาจได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรม

Verma กล่าวว่า ในเชิงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทกำลังประสบปัญหา รู้สึกสำนึกผิด หรือขอโทษ ก็จะมีแนวคิดที่จำเป็นต้องรักษาหน้าไว้ ซึ่งวิธีที่พวกเขาอาจทำคือ การลดเงินเดือน

การปฏิบัติที่เน้นการไตร่ตรองตัวเองและความผิดพลาด เพื่อสร้างคำขอโทษที่เหมาะสมและวางแผนป้องกันในอนาคต ถือเป็นเรื่องธรรมดาในวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

เมื่อ CEO ถูกมองในวงกว้างว่าให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความรับผิดชอบและความน่าเชื่อถือ แนวคิดเหล่านี้มักมีประโยชน์ในการทำให้ CEO เป็นที่ไว้วางใจของพนักงานหรือประชาชนทั่วไป 

การลดเงินเดือนผู้บริหารไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจมหภาคเสมอไป!

ถ้าปัญหาทางการเงินของบริษัทเกิดจากการใช้เงินเกินตัว การลดเงินเดือนสามารถช่วยได้ แต่ถ้าปัญหามีมากกว่านั้น การที่จะปลดพนักงานอาจไม่ใช่แค่เรื่องการลดเงินเดือนอีกต่อไป

การลดเงินเดือนผู้บริหารไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก เนื่องจากไม่ได้แก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ก่อให้เกิดการเลิกจ้างในอันดับแรก เช่น กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ล้มเหลว กลยุทธ์การออกสู่ตลาดไม่มีประสิทธิภาพ หรือการกำหนดราคาผิดพลาด

บริษัทต่างๆ อาจดำเนินการปลดพนักงานเพื่อแก้ไขปัญหาการจ้างงานที่มากเกินไป ปรับลดตำแหน่งที่ซ้ำซ้อนจากการควบรวมกิจการ หรือปรับงบประมาณเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อในระยะยาว 

Verma กล่าวว่า “CEO บางคนมีสัญญาล็อกเงินเดือนไว้ ทำให้ไม่สามารถลดเงินเดือนตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม การลดเงินเดือนอาจส่งสัญญาณที่ไม่ดี”

ที่มา cnbc