เพาะ-จำหน่ายเห็ดออร์แกนิก ตลาดต้องการอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์แล้วกว่า 10 ปี

หากมองถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจกับการเพาะเลี้ยงเห็ดในสภาพอากาศของบ้านเรานับว่าเอื้ออำนวยเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเห็ดเป็นอย่างดี เพาะเลี้ยงง่าย ไม่เกี่ยงเรื่องขนาดพื้นที่ จะเพาะเลี้ยงเพื่อไว้บริโภคในครัวเรือน เป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักก็ย่อมได้ ตลอดจนสามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางธรรมชาติจากในท้องถิ่นที่มีอยู่มากมายมาดัดแปลงใช้ในการเพาะเห็ดได้อีก เช่น ฟางข้าว ขี้เลื่อย ฯลฯ เป็นต้น จึงทำให้การเพาะเลี้ยงเห็ดเป็นการลงทุนต่ำ แต่สร้างรายได้ให้มากหากมีการบริหารจัดการอย่างดี

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดอาชีพเพาะเลี้ยงเห็ดกันอย่างกว้างขวาง หลากหลายสายพันธุ์ และมีตั้งแต่ทำกันจำนวนน้อยจนถึงจำนวนมากในระดับประเทศ ขึ้นอยู่กับศักยภาพและความสามารถของคนทำ

“ฟาร์มเห็ดเทพศิริ” ตั้งอยู่เลขที่ 154 หมู่ที่ 1 ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอีกแห่งที่ทำธุรกิจเพาะเลี้ยงเห็ดหลายชนิด ได้แก่ เห็ดเป๋าฮื้อ หูหนู นางฟ้า ฮังการี ขอนดำ หลินจือ ยานางิ ขอนม่วง และนางฟ้าภูฏาน ทำตั้งแต่ขายก้อนเชื้อ ขายดอกสด และเปิดอบรมวิธีเพาะเลี้ยง ทั้งนี้ เน้นการผลิตเห็ดที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ด้วยการเพาะเลี้ยงแบบออร์แกนิก จึงทำให้มีตลาดส่งขายทั้งในและต่างประเทศ มานานกว่า 10 ปี

คุณศราวรรณ สรรคพงษ์ หรือ คุณหนึ่ง เจ้าของธุรกิจเล่าเหตุผลที่สนใจมาทำอาชีพนี้เพราะมองว่าตลาดความต้องการบริโภคเห็ดเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเห็ดเพื่อสุขภาพ
คุณหนึ่งไม่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับเห็ดมาก่อน จึงไปเข้าอบรมการเพาะเลี้ยงเห็ดจากกลุ่มผู้ผลิตเห็ดรายใหญ่แถวนครปฐม จากนั้นนำกลับมาลงมือทำทันที ผลปรากฏว่าเห็ดที่ได้ไม่มีคุณภาพดีพอ เธอตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุน่าจะมาจากอัตราส่วนผสมการทำก้อนเชื้อ จากนั้นจึงได้ปรับสูตรส่วนผสมการทำก้อนเชื้อที่ต่างออกไปจากการอบรม ด้วยการนำวัสดุทางธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้เป็นส่วนผสมการทำก้อนเชื้อแทน แล้วในที่สุดก็ประสบความสำเร็จตามคาด

เห็ดชนิดแรกที่ผลิตออกมาคือ เป๋าฮื้อญี่ปุ่นสายพันธุ์ก้านยาว ตามมาด้วยเห็ดฮังการี โดยคุณหนึ่งมองว่าที่เริ่มต้นทำตัวที่ยาก เพราะเห็ด 2 ชนิดนี้มีอยู่ในตลาดน้อย ขณะเดียวกันมีความต้องการมาก จึงทำให้มีราคาสูง

คุณหนึ่ง ชี้ว่า เห็ดแต่ละชนิดมีการดูแลและความยากง่ายต่างกัน อีกทั้งบางชนิดยังต้องใส่ใจเป็นพิเศษอย่างเป๋าฮื้อญี่ปุ่น ในช่วงทำก้อนเชื้อมีความบอบบางมาก แต่หลังจากเมื่อเชื้อเดินจนถึงช่วงเปิดดอกจะดูแลง่ายขึ้น นอกจากนั้น ยังต้องใช้เวลาบ่มนานเป็นเดือนกว่าจะเป็นหัวเชื้อ ขณะที่เห็ดนางฟ้าใช้เวลาเพียง 7 วัน สามารถหยอดเชื้อได้แล้ว จากนั้น 30 วัน ก็เปิดดอกได้

ถึงจะมีความยุ่งยาก แล้วต้องใช้เวลารอ แต่เป๋าฮื้อญี่ปุ่นกลับมีข้อดี คือสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนในอุณหภูมิที่ควบคุม ซึ่งส่งผลดีต่อการสต๊อกสินค้า ขณะที่เห็ดชนิดอื่นอยู่ได้เพียง 2 วัน ดังนั้น จึงทำให้คุณหนึ่งพึงพอใจที่จะผลิตเห็ดเป๋าฮื้อมากกว่าเห็ดชนิดอื่น

อาหารนับเป็นส่วนสำคัญกับการทำก้อนเชื้อ อีกทั้งการเลือกอาหารควรคัดมาจากธรรมชาติที่ต้องปราศจากสารเคมีทุกชนิดในทุกขั้นตอน เนื่องจากเป็นการผลิตเห็ดแบบออร์แกนิก ดังนั้น อาหารที่คุณหนึ่งเลือกใช้เพื่อให้เห็ดมีคุณภาพ จึงได้แก่ ข้าวโพดป่น กระถินป่น พร้อมกับแร่ธาตุทางธรรมชาติ

คุณหนึ่ง เผยว่า เมื่อก่อนเคยผลิตก้อนเชื้อขายถึงวันละหมื่นก้อน แต่ในปัจจุบันลดการผลิตก้อนเชื้อเหลือเพียงวันละ 7,000 ก้อน ด้วยเหตุผลที่ต้องการพักผ่อนบ้าง ทั้งนี้ การผลิตก้อนเชื้อในแต่ละวันเป็นการจ้างเหมาชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเพื่อส่งเสริมให้มีรายได้

สำหรับตลาดเห็ดสดจะส่งขายผ่านพ่อค้าเพื่อนำไปแพ็กขาย ส่งห้าง หรือตลาดต่างประเทศต่อไป อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เห็ดไม่สวยหรือไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด อาจขายให้กับแม่ค้าในตลาดล่าง หรืออาจนำมาแปรรูปเอง

“ถ้าเป็นดอกเห็ดที่ส่งขายจะบรรจุถุงขนาดครึ่งกิโลกรัม หรือบางชนิดอย่างเห็ดนางฟ้าจะบรรจุถุงไว้ 3 กิโลกรัม เพื่อให้ลูกค้านำไปแบ่งแพ็กใส่ถุงขาย ส่วนตลาดเห็ดหลินจือที่ตลาดรับซื้อเป็นดอกจากฟาร์มแล้วลูกค้ามักนำไปอบแห้งขาย”

นอกจากนั้น เจ้าของฟาร์มเห็ดได้เผยยอดการจำหน่ายเห็ดในแต่ละสัปดาห์ อย่างเห็ด ฮังการี 300-500 กิโลกรัม เป๋าฮื้อ 500 กิโลกรัม เห็ดยานางิ 100 กิโลกรัม และนางฟ้าภูฏาน 300-500 กิโลกรัม

“ฟาร์มเห็ดเทพศิริ” พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 8 ไร่ แต่เดิมเมื่อปี 2545 มีโรงเรือนเห็ดหลังเก่าเพียง 1 โรง มีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 24 เมตร เป็นเล้าไก่ แล้วได้ปรับปรุงเป็นโรงเพาะเห็ด

กระทั่งปี 2550 ได้ทำโรงเรือนเพิ่ม จึงทำให้ขณะนี้มีโรงเรือนเห็ดทั้งหมด 9 หลัง แต่ละหลังมีศักยภาพในการเก็บก้อนเชื้อได้จำนวน 45,000 ก้อน มีการควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนด้วยการใช้ระบบน้ำฝอยหรือหมอก

คุณหนึ่ง บอกว่า ที่ผ่านมาหลังจากประสบความสำเร็จทางด้านขายก้อนเชื้อและเห็ดสด จึงทำให้มีผู้สนใจในอาชีพนี้มากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างอาชีพให้แก่ผู้ที่ต้องการมีรายได้เสริมหรือรายได้หลัก จึงตัดสินใจเปิดอบรมวิธีการเพาะ-เลี้ยงเห็ดทุกสายพันธุ์ ในราคา 3 วัน 3,500 บาท ต่อ 1 ท่าน โดยบอกว่าราคานี้สอนให้จนสามารถทำได้ทันที ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ผ่านการอบรมวิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดไปแล้ว จะมีการติดตามผลเพื่อช่วยแก้ปัญหาและเป็นพี่เลี้ยงจนกว่าจะมีความชำนาญ

“ทุกอาชีพล้วนมีปัญหา/อุปสรรคด้วยกันทั้งนั้น ไม่ควรท้อแท้หรือท้อถอย ถ้าคิดว่าทุกอย่างที่ได้ทำลงไปเกิดจากความทุ่มเททั้งกายและใจ พร้อมกับมีความซื่อสัตย์เต็มที่แล้ว ปัญหา/อุปสรรคที่ผ่านเข้ามาอาจเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย แล้วคงผ่านไปได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ขอให้อดทนและขยันเท่านั้น” เจ้าของฟาร์มเห็ดเทพศิริ กล่าวในตอนท้าย

สนใจสั่งซื้อเห็ดคุณภาพจาก “ฟาร์มเห็ดเทพศิริ” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณศราวรรณ สรรคพงษ์ หรือ คุณหนึ่ง โทรศัพท์ (084) 886-5246