เปลี่ยนยูนิฟอร์ม จากแอร์ฯ สู่แม่ค้าขายข้าวคลุกกะปิ สุดภูมิใจอาชีพนี้ ขายดีวันละเกือบ 400 กล่อง 

จากแอร์โฮสเตส สู่แม่ค้าขายข้าวคลุกกะปิ อีกอาชีพที่สร้างเงินให้กับ คุณพลอย-หทัยพัชร วสุศักดิ์ศิริ อายุ 29 ปี 

คุณพลอยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสมานาน 3 ปี ในช่วงหมดสัญญา ประกอบกับโควิดระบาด เธอตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับที่บ้าน และอยากช่วยธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวอย่างเต็มตัว จากเมื่อก่อนที่แวะเวียนเข้ามาช่วยบ้าง

“ก็เสียดายเหมือนกัน แอร์โฮสเตสเป็นอาชีพแรกและอาชีพเดียวที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก และไม่คิดว่าจะเลิกเป็น จะเรียกว่าทิ้งโอกาสไหม อาจจะนิดหน่อย แต่เราคิดว่าก็ได้ไปใช้ชีวิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนั้นมาค่อนข้างพอใจแล้ว เลยอยากมาทำตรงนี้เต็มตัวดูบ้าง” คุณพลอย เล่าเสริม

ร้านอาหารของครอบครัวชื่อ จั๊บญวนแม่พลอย เปิดให้บริการมานาน 12 ปี และคุณพลอยได้เปิดร้านใหม่ชื่อชูรส ที่เธอบริหารงานเองร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยมีเมนูเด่นคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ กวยจั๊บญวน และข้าวคลุกกะปิ

“จากการเปิดร้าน เราสังเกตว่าทำไมลูกค้ามาสั่งข้าวคลุกกะปิทีละ 10-20 กล่อง มากกว่ามาสั่งก๋วยเตี๋ยว บางทีมีการจัดเลี้ยงบริษัท ก็มาเหมาไปทีละ 50 กล่อง 100 กล่อง เลยมองว่า หรือข้าวคลุกกะปิมันสามารถเป็นเมนูอาหารกล่องที่ตอบโจทย์หลายๆ คนได้ เลยเอาออกมาขายข้างนอกดีกว่า”

โดยคุณพลอยจัดหน้าร้านให้เน้นโชว์วัตถุดิบทุกอย่างที่ใส่ในข้าวคลุกกะปิ

“เราโชว์วัตถุดิบทุกอย่างให้เห็น ว่าใส่อะไรให้บ้าง และลูกค้าสามารถเลือกได้ จะใส่ ไม่ใส่อะไร และทำกล่องต่อกล่อง อยากได้แบบไหนก็จัดให้ตามนั้น เราค่อนข้างมั่นใจว่าลูกค้าที่เคยทานข้าวคลุกกะปิมา จะต้องรู้สึกว่ารสชาติและความหอมไม่เหมือนเจ้าไหนแน่นอน

เราใช้ข้าวเสาไห้ เพราะถ้าใช้ข้าวหอมมะลิเวลาเอาไปคลุกกับกะปิที่มีความหนืด ชุ่มชื้น ข้าวจะเละ และกะปิเลือกใช้อย่างดี อร่อยแน่นอน กล้าการันตี และวัตถุดิบก็หลากหลาย ทั้งแตงกวา ถั่วฝักยาว หอมแดง มะม่วง ไข่เจียว กุนเชียง พริกทอด หอมเจียว พริกสด มะนาว หมูหวาน รวมๆ แล้ว 11 อย่าง”

ออกไปหาลูกค้า

ส่วนทำเลในการขาย คุณพลอยเลือกขายในตลาดนัด และสถานที่ต่างๆ เพราะเธอมองว่า ถ้าขายอยู่ที่ร้านชูรสเหมือนการรอให้ลูกค้ามาหา แต่ถ้าออกไปขายข้างนอก จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น

“ขายที่แรก โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ขายดีมาก หมดก่อนเวลา เขากำหนดบ่าย 2 ถึงจะเก็บร้านได้ ปรากฏว่าเที่ยงหมดแล้ว เตรียมไปประมาณ 200 กล่อง งงนะ ทำไมขายดี พ่อค้าแม่ค้ามาบอกเรา เป็นเพราะเราจัดร้านได้น่าทาน เขาเลยสนใจ พอได้กินครั้งแรกแล้ว พยาบาล คุณหมอกลับมาซื้อซ้ำ หรือแม้กระทั่งคนไข้ เราจะไปขายทุกวันพุธ กับวันศุกร์ ถ้าหมอนัดมาเขาจะต้องแวะมาซื้อก่อนเดินไปหาคุณหมอ”

และว่า

“ไม่เขินนะ เป็นแอร์ฯ ใส่ยูนิฟอร์มหนึ่ง ขายของก็ใส่อีกยูนิฟอร์มหนึ่ง เรามีความภูมิใจทั้ง 2 ยูนิฟอร์ม พอมาขายอาหารก็มีคนทักนะ ว่าคำพูดคำจาเรา กิริยามารยาทเรา เหมือนแอร์ฯ ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นแอร์ฯ”

จากขายที่แรก ในเมื่อยังมีวันว่าง คุณพลอยได้มองหาทำเลแห่งใหม่ โดยคำแนะนำจากพ่อค้าแม่ค้า จนได้ปักหมุดทำเลที่สอง ตลาดละลายทรัพย์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน พ่อบ้านแม่บ้าน

“เพราะผลตอบรับดี ทำให้ปัจจุบันมี 2 ทีมขาย 1 วันออก 2 ที่ พีกหน่อย คือ 3 ที่ ขายช่วง 6 โมงเช้าถึงเที่ยงครึ่ง ลูกค้าจะซื้อเป็นอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ถ้าเป็นทีมพลอย วันจันทร์ถึงวันอังคาร ขายที่ตลาดละลายทรัพย์ วันพุธ สีลม ซอย 4 วันพฤหัสฯ กระทรวงศึกษาธิการ วันศุกร์ คณะสาธารณสุข มหิดล อีกทีมจะเป็นตลาดวน ไม่มีประจำ แต่ขายทุกวันเหมือนกัน เช่น ตลาดหลัง ปตท. ตลาดตรอกหม้อ หลังกระทรวงมหาดไทย สีลม ซอย 19 เป็นต้น ส่วนหน้าร้านชูรสก็เปิดทุกวัน และจะเข้าร้านวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์”

“ขายกล่องละ 60 บาท ออกขายที่หนึ่งเตรียมไปประมาณ 200 กล่อง 2 ทีมก็ 400 กล่อง หรือบางครั้งในช่วงวันหยุดอาจจะให้น้องๆ ในทีมไปหาตลาดเพิ่มเป็น 600 กล่องต่อวัน เรื่องของความไว การจัดวัตถุดิบใส่กล่อง ลูกค้าสั่งปุ๊บต้องทำเลย เคยจับเวลา 1 กล่องใช้เวลา 40 วินาที มันต้องขนาดนี้ถ้าเราจะเน้นขายให้ได้จำนวน เหมือนเราก็เกรงใจลูกค้า เพราะรู้ว่าคนออฟฟิศรีบเดิน รีบซื้อ รีบกิน”

ใช้เวลาทุกนาทีคุ้มค่า 

แม้จะมีเวลาขายแค่ครึ่งวันเช้า แต่ใช่ว่าเวลาที่เหลือจะได้พักผ่อน เพราะนั่นคือช่วงเวลาของการเตรียมวัตถุดิบเพื่อออกขายวันต่อไป ชีวิตประจำวันของคุณพลอย เธอตื่นตั้งแต่ตี 3 ครึ่ง ไปรับลูกน้องที่พักอยู่ใกล้ๆ เข้ามาที่ร้านชูรส เพื่อเตรียมวัตถุดิบ ประมาณตี 5 ออกเดินทาง ถึงตลาดตี 5 ครึ่ง จัดร้านและเริ่มขาย 6 โมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่ง และกลับร้านชูรส เพื่อเตรียมวัตถุดิบขายในวันต่อไป

“ตอนเป็นแอร์ฯ ตื่นตี 2 นะ เรื่องตื่นเช้าเลยเหมือนชิน เราขอเป็นคนที่ตื่นเช้าดีกว่า ตอนบ่ายค่อยไปพักผ่อนเอา ทุกวันนี้ 2 ทุ่มนอนแล้ว มีลูกค้าบางคนจะสั่งออร์เดอร์ตอนเช้า เขาไลน์มา ตี 2 ตี 3 เราก็ตอบเขาได้เร็ว เพราะตื่นพอดี ในขณะที่ลูกค้ายังไม่นอน”

อย่างไรก็ตาม นอกจากขายตามตลาดแล้ว คุณพลอยยังรับออกงานนอกสถานที่อีกด้วย หากนับรวมรายได้จากการขาย จะอยู่ที่ราวๆ 4-5 แสนบาทต่อเดือน อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ถ้าหักต้นทุนแล้ว จะได้กำไรราวๆ 30%

“ภูมิใจมากๆ เหมือนเราได้พิสูจน์ตัวเองในอีกทางว่า เราก็ทำได้ดีเหมือนกัน มีความสุขที่ได้เป็นเจ้านายตัวเองด้วย แล้วยิ่งขยันก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้น เราชอบออกไปหาลูกค้า เราคุยกัน แชร์เรื่องราวกัน มันเหมือนไปหาเพื่อน ทุกวันที่ตื่นแล้วออกไปขายข้าวคลุกกะปิมันมีความสุขจริงๆ” คุณพลอย บอกอย่างนั้น

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 17 ตุลาคม 2023