เปิดอาณาจักร StarvingTime จากหนุ่มวิศวะสู่บล็อกเกอร์อาหาร ที่เริ่มจากมือถือเครื่องเดียว 

เปิดอาณาจักร StarvingTime จากหนุ่มวิศวะสู่เพจรีวิวอาหาร ที่เริ่มจากมือถือเครื่องเดียว สู่ผู้ติดตามมากกว่า 5 ล้านคน

เพราะเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ เราจึงได้เห็นเพจรีวิวอาหารมากมายอยู่ในโซเชียลมีเดียทุกๆ แพลตฟอร์ม แต่ถ้าให้พูดถึงเพจที่ทุกคนรู้จักและคุ้นชินเป็นอย่างดี นั่นคือชื่อของ StarvingTime ที่เริ่มต้นเมื่อ 7 ปีก่อน โดยผู้ก่อตั้งและพนักงานคนเดียว “คุณไมเคิล-เกษมศักดิ์ ศิริรักษ์” หนุ่มวิศวะจากรั้วจามจุรีที่ชื่นชอบการทานอาหาร

ปัจจุบัน StarvingTime เติบโตขึ้นมากและไม่ได้เป็นเพียงแค่เพจรีวิวอาหารเท่านั้น แต่กลายเป็นอาณาจักรที่มีหลายธุรกิจ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาเปิดอาณาจักร StarvingTime ไปพร้อมๆ กับคุณไมเคิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูฟฟ์ มีเดีย จำกัด กันเลย 

คุณไมเคิล เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน และเข้าศึกษาต่อในภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แม้จะมีความฝันเล็กๆ ว่าอยากเป็นเจ้าสัวรับเหมา แต่เมื่อมานั่งวาดเส้นทางให้ตัวเองดูแล้ว ก็มีทั้งเรื่องเงินทุน เรื่องความรู้ความสามารถที่อาจยังไม่เพียงพอ ซึ่งกว่าจะถึงเป้าหมายคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี และไอดอลที่ชื่นชอบตั้งแต่วัยเด็กก็ล้วนทำธุรกิจสื่อมาก่อน จึงไม่ได้เดินตามสายงานด้านวิศวะแต่เลือกที่จะทำ Starvingtime เต็มตัว 

โดยเริ่มต้นจากมือถือเครื่องเดียวเปิดแอ๊กเคานต์ในอินสตาแกรมชื่อว่า Starvingtime เมื่อ 7 ปีก่อน ในตอนนั้นยังมีเขาเป็นพนักงานเพียงคนเดียว และเมื่อก้าวข้ามวันเวลามาถึงปัจจุบัน Starvingtime คือสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับอาหารที่แตกแขนงไปในหลายแพลตฟอร์ม โดยเริ่มจากอินสตาแกรมเป็นแพลตฟอร์มแรก ซึ่งในตอนนี้มีผู้ติดตามมากถึง 1.3 ล้านฟอลโลว์ 

และเพจเฟซบุ๊กมีผู้ติดตามมากกว่า 5 ล้านฟอลโลว์ ติ๊กต็อกอีกกว่า 3 แสนฟอลโลว์ และยูทูบที่มีผู้ติดตามกว่า 4 แสนฟอลโลว์ อีกทั้งยังมีพันธมิตรร้านอาหารมากกว่า 8,000-10,000 ร้านค้า

และจากความสำเร็จข้างต้น คุณไมเคิลยังขยายอาณาจักรต่อไปอีกหลายอย่าง เช่น การสอนทำอาหารผ่าน หมีมีหม้อ เรื่องสุขภาพกับ หมูแข็งแรง การท่องเที่ยวผ่าน แปะโปรเที่ยว ผู้หญิง/ไลฟ์สไตล์กับ CHNY เทศกาลอาหารและดนตรี เช่น Beef and Beer Festival

และในอีกมุมยังทำ Digital Agency ที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการท่องเที่ยวให้กับลูกค้า ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทของเขาเป็นทั้งมีเดียและโซลูชันที่ทำทั้งสองขาควบคู่กันไปซึ่งหาได้ยากมากในยุคนี้

เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากเริ่มต้นทำคอนเทนต์ คุณไมเคิลแนะนำว่าทุกวันนี้มีคนเล่นโซเชียลจำนวนมากและเยอะกว่าวันที่เริ่มทำ StarvingTime เป็นสิบๆ เท่า อีกทั้งมีเพจเกี่ยวกับอาหารประมาณ 4,000-5,000 เพจ ซึ่งแต่ละเพจล้วนมีความชัดเจนในการทำคอนเทนต์

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีเพจไหนที่เป็นภาพจำเมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวที่เป็นโฮมสเตย์ เที่ยวแบบบิ๊กไบก์ หรือเที่ยวแบบรถอีวี หรือถ้าอยากกินโอมากาเสะ แล้วจะไปกินร้านไหนดี ฯลฯ 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความสเปเชียลลิสต์บางส่วน ซึ่งยังเหลือความสเปเชียลลิสต์อยู่อีกมากที่คนรุ่นใหม่สามารถนำไปปั้นเป็นคอนเทนต์หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นได้

และใครที่อยากทดลองทำเพจ หรือเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ แวะมาฟังแนวความคิดของคุณไมเคิล ได้ที่เวที Study เจาะความสำเร็จ StarvingTime ในงาน UPSKILL THAILAND 2023 “ถึงรส ถึงชาติ” วันที่ 27 พฤษภาคม เวลา 11.00-12.00 น. ที่ มติชนอคาเดมี

ลงทะเบียนเข้าร่วมฟังเวทีเสวนา https://www.matichonevent.com/upskill2023

ที่มา

https://www.matichon.co.th/prachachuen/news_314615

https://www.youtube.com/watch?v=_FCZGq5x5ng