โตมากับครัว ก่อนเป็น กุ๊กขี้เมา เจ้าของร้านอาหารดัง ที่ชอบทำยูทูบแจกสูตรสร้างอาชีพ

โตมากับครัว ก่อนเป็น กุ๊กขี้เมา เจ้าของร้านอาหารดัง ที่ชอบทำยูทูบแจกสูตรสร้างอาชีพ

หากใครเป็นสายกิน ต้องคุ้นชินและรู้จักร้านกุ๊กขี้เมา ที่มี คุณเป้-ธีรนัย จินดานุภาจิตต์ วัย 30 ปี เป็นเจ้าของและผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อย นอกจากราคาอาหารที่ไม่แพงแถมให้เยอะแบบพูนจานแล้ว คุณเป้ หรือที่ใครๆ เรียกว่ากุ๊กขี้เมา ยังเปิดช่องยูทูบแจกสูตรอาหารสร้างอาชีพให้กับผู้ที่สนใจแบบไม่หวงเคล็ดลับอีกด้วย 

รู้จักกุ๊กขี้เมาให้มากขึ้น

คุณเป้เกิดและเติบโตในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยคลุกคลีอยู่ในครัวกับอาม่ามาตั้งแต่เด็ก คอยเป็นลูกมือช่วยหยิบจับวัตถุดิบต่างๆ จนทำให้ซึมซับและชอบทำอาหารมาตั้งแต่ตอนนั้น 

แต่เมื่อต้องเข้ากรุงเทพฯ ไปเรียนต่อชั้น ม.1 ถึง ม.6 ด้วยอาศัยอยู่ในบ้านทาวน์เฮ้าส์ ไม่ค่อยสะดวกต่อการทำอาหาร อีกทั้งพ่อก็ไม่อยากให้เข้าครัว เพราะกลัวบ้านไฟไหม้ คุณเป้จึงต้องเบรกความชอบของตัวเองเอาไว้นานถึง 6 ปี

จนเมื่อเข้าเรียนปี 1 คุณเป้ได้กลับมาทำอาหารอีกครั้ง จากการเรียนด้านการจัดการครัวในวิทยาลัยดุสิตธานี หลังเรียนจบก็ได้คลุกคลีอยู่ในสายงานด้านโรงแรม 6 เดือน ก่อนจะเริ่มต้นทำธุรกิจ เปิดร้านข้าวต้มของตัวเองในวัย 23 ปี โดยได้ทุนจากพ่อช่วยสนับสนุน

>>> ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในงาน UPSKILL THAILAND 2023 “ถึงรส ถึงชาติ” คลิก <<<

ทำเลร้านของคุณเป้ตั้งอยู่ที่พระราม 9 ซอย 6 ทำให้มีกลุ่มลูกค้าออฟฟิศ และลูกค้ากลางคืนมาอุดหนุน และจากการทุ่มทำการตลาดออนไลน์ บวกกับเมนูหลากหลาย ทั้งกับแกล้ม และต้มมาม่า ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเจ๊โอว ก็ทำให้ร้านมีชื่อเสียงขึ้นมา

จนเมื่อย้ายร้านไปที่ถนนนวลจันทร์ ด้วยไม่ได้ศึกษาพฤติกรรมลูกค้า ไม่ดูกำลังการจับจ่ายใช้สอยของคนแถวนั้น ประกอบกับความหน้ามืดตามัว และความมั่นใจว่าตัวเองดังแล้ว จึงทำให้ร้านข้าวต้มเจ๊ง ปิดฉากร้านที่เปิดมานาน 4 ปี แต่ถึงอย่างนั้น คุณเป้ก็ยังสามารถประคับประคองตัวเองมาได้จากการแตกไลน์ธุรกิจต่างๆ

“ผมไม่เคยรีเสิร์ชข้อมูลเลย ไม่รู้ว่าลูกค้าคือคนละกลุ่ม แถวนี้ไม่มีออฟฟิศ เปิดร้านข้าวต้มเที่ยงคืนไฟก็ดับแล้ว และผมไม่เคยปรับราคาอาหาร ร้านผมแทบจะขายแพงที่สุดด้วยซ้ำ เลยแพ้ร้านข้าวต้มที่เขาครองถิ่นมานาน ในขณะที่ร้านผมเงียบ แต่ร้านอื่นอยู่ได้ เพราะขายถูกกว่า เปิดที่ใหม่ได้ปีเดียวก็ปิดตัว

แต่ระหว่างทางที่ทำให้พออยู่ได้คือการทำธุรกิจอื่น คือ ร้านบุฟเฟต์ ติดลมโคขุน ลูกค้าต่อคิวยาวมาก และก็เหนื่อยมากด้วย เพราะร้านใหญ่ การบริหารจัดการยาก และมีปัญหาตลอดเวลา สุดท้ายผมก็ปล่อยเซ้งไปแบบมีความสุข แล้วมาทำติดลมหมูทอดปลาร้าดีลิเวอรี ซึ่งยืนระยะมาถึงวันนี้” คุณเป้ เล่าถึงการทำธุรกิจที่ผ่านมาให้ฟัง

เปิดร้านอาหาร ต่อยอดแจกสูตรสร้างอาชีพ

จากธุรกิจก่อนหน้า ต่อมาคือกุ๊กขี้เมา ร้านของคุณเป้ที่กำลังได้รับกระแสนิยม จุดเริ่มต้นของร้านนี้มาจาก “ผมเป็นคนชอบดื่ม อาทิตย์ละ 2-3 วันต้องมี พอมาเปิดร้านข้าวต้มและติดลมโคขุน มันเปลี่ยนชีวิตผมไปจริงๆ ต้องเฝ้าร้านทำครัว พอไม่มีอะไรทำสันดานเก่าก็กลับมา ตั้งวงดื่มทุกวัน พร้อมทำกับแกล้มกิน เลยเป็นที่มาของชื่อร้าน

บวกกับธุรกิจที่ทำช่วงแรกเจ๊ง ไหนจะโควิดด้วย ก็มีเวลาว่าง โดยมีโจทย์อยู่อย่างเดียว คือ ค่าเช่าที่ตรงนี้ 40,000 บาท ทำยังไงให้คัฟเวอร์ เลยคิดง่ายๆ ทำครัวด้านหน้า ทำร้านเป็นห้องกระจก ติดแอร์ กระชับเมนู เน้นขายเมนูเนื้อ ชอบอะไรขายแบบนั้น

เมนูเริ่มต้น 70 บาท มีทั้ง กะเพราเนื้อสับโบราณ สามชั้นคั่วพริกเกลือ กุ้งดองน้ำปลากวน ปู่ไข่ดองน้ำปลากวน เต้าหู้ทอดคัสตาร์ด ซุปเปอร์เนื้อตุ๋นเอ็นตุ๋น เนื้อเค็มทะเลทราย หมึกกรอบผัดไข่เค็ม ไข่ขยี้ทะเล และเมนูราคาสูงเราก็มี สั่งได้”

 

โดยในช่วงแรกที่เปิดร้านกุ๊กขี้เมา คุณเป้ บอกว่า ขายไม่ค่อยดี เพราะโควิดด้วย เลยมาจริงจังกับการทำยูทูบ “กินทำเที่ยวเมา” ที่เปิดมาก่อนร้านกุ๊กขี้เมาเสียอีก

“ผมคิดแค่ว่าถ้ามีช่องทางสื่อสารก็ไม่ต้องจ้างเพจหรือเว็บไซต์ต่างๆ ในการโปรโมต บางเดือนเสียค่าโฆษณาจ้างอินฟลูเอนเซอร์เป็นหมื่นเป็นแสน แต่ถ้าทำเองผมจะได้กำไรเพิ่มขึ้นทันที บางคนถามทำไมใจดีแจกสูตร จริงๆ ผมไม่ได้ทำเพื่อ CSR ขนาดนั้น ผมทำเพราะธุรกิจ แต่พอทำแล้วดี คนก็คาดหวังกับสูตร เลยตั้งใจทำมากขึ้น เพราะอยากตอบแทนทุกคนที่สนับสนุนผม ให้เขาเอาไปสร้างอาชีพได้” คุณเป้บอกด้วยความจริงใจ

ปัจจุบันช่องยูทูบกินทำเที่ยวเมาของคุณเป้ มีผู้ติดตามมากถึง 3.8 แสนคน ซึ่งแต่ละคอนเทนต์มียอดวิวเกินแสนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เขายังเปิดเพจกุ๊กขี้เมา ที่มีผู้ติดตามสูงไม่แพ้กันถึง 5 แสนกว่าคน และกระแสตอบรับจากคอนเทนต์ก็ดีไม่แพ้กัน 

พลังของ Personal Branding

จากการที่ยูทูบและเพจของคุณเป้เติบโต แน่นอนว่าย่อมส่งผลดีกับร้านกุ๊กขี้เมา ถึงขนาดที่ทำให้เขาเข้าใจถึงพลังของ Personal Branding

“พอคนเข้าถึงเรา เราแทบจะอยู่เฉยๆ ได้เลย แล้วยิ่งมีธุรกิจ คนยิ่งจับต้องได้ แต่ถ้าคนไหนไม่มีธุรกิจสนับสนุน มันจะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ และถ้ากินแล้วรสชาติไม่ได้แย่เกินไป มันต่อยอดได้เยอะ เพราะเมื่อลูกค้าจับต้องเราได้ เขาจะเชื่อใจ และมาอุดหนุน เมื่อได้สิ่งดีๆ กลับไป จะเกิดการบอกต่อ พลังมันเยอะ ทุกวันนี้ผมไม่เคยจ้างการตลาดเลย จ่ายแค่ค่าทีมงานตัดต่อของผมเท่านั้น

โดยเมนูที่ผมนำมาแจกสูตร คือเมนูที่รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีและสร้างอาชีพได้จริง แน่นอนลงหลายๆ คลิปก็ตัน หลังๆ ก็ดูเมนูกระแส หยิบมาซ้อมแล้วถ่ายคลิปทันที จากที่ทำมา ผมสังเกตว่าคนไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายเกินไป คนชอบดูอะไรง่ายๆ เช่น ปีกไก่ทอด เนื้อย่าง ไข่เจียว ไส้ทอด บางทีอยากปล่อยของ วัตถุดิบก็แพง ถ่ายก็เหนื่อย แต่ไม่มีคนดู ทุกวันนี้เลยไม่ฝืนมาก เน้นให้คนดูแล้วทำตามได้ ถ้าดูคอนเทนต์ผมครบสามารถเปิดร้านได้เลย 100%” คุณเป้ แชร์เรื่องราวให้ฟัง

อย่างไรก็ตาม แม้จะทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน แต่คุณเป้ก็สามารถแบ่งเวลาการทำงานได้ดี เพราะมีประสบการณ์การทำธุรกิจมาก่อน อีกทั้งวางระบบบริหารจัดการไว้อย่างดี จึงไม่ต้องมานั่งเฝ้าร้านทุกวัน และถึงไม่เข้าสักเดือนร้านก็อยู่ได้


ครั้งแรก! กับการรวมตัวกันของสุดยอดฟู้ดกูรูระดับประเทศ เพื่อพัฒนาทักษะทางอาหารแบบครบรส ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อิ่ม อร่อย จัดจ้าน ได้ความรู้ แบบถึงรสถึงชาติ ในงาน UPSKILL THAILAND 2023 “ถึงรส ถึงชาติ”

เส้นทางเศรษฐี, ศิลปวัฒนธรรม และ มติชนอคาเดมี ผนึกกำลังนำองค์ความรู้ที่เชี่ยวชาญมาร่วมกันพัฒนาทักษะด้าน “อาหาร” ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของไทยอย่างรอบด้าน เชื่อมโยงถึงกันด้วยกิจกรรม 3 มิติ ได้แก่ Talk, Taste และ Tips ฟังเสวนาจากฟู้ดกูรูระดับประเทศ, ชิมรสชาติอาหารจานเด็ดจากเชฟชื่อดัง และฝึกทำอาหารพร้อมเรียนรู้ทิปส์ต่างๆ กับตัวจริงอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจหรือผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจด้านอาหารได้นำไปประยุกต์ใช้เสริมความแกร่ง ต่อยอดอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

อัปสกิลครบองค์รวม สร้าง Star ให้ Strong พร้อมแข่งขันในธุรกิจอาหารได้อย่างเต็มศักยภาพ ในงาน UPSKILL THAILAND 2023 “ถึงรส ถึงชาติ” ระหว่างวันที่ 26-28 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ที่ มติชนอคาเดมี

ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในงาน UPSKILL THAILAND 2023 “ถึงรส ถึงชาติ” คลิก